ยินดีต้อนรับสู่โลก DIABOLIK LOVERS แปลไทย สร้างมาเพื่อเก็บ บทแปลเพลง ดราม่าซีดี เกม อนิเมะ และบทสรุปเกมของ Diabolik Lovers ที่เราได้จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะค่ะ

★อัพเดทใหม่★

[บทสรุปเกม Guide & Walkthrough] ภาค DARK FATE - บทนำ Prologue

บทความที่ได้รับความนิยม

[แกะกล่อง Package] Diabolik Lovers Vandead Carnival Limited



มาแล้ว ๆ ได้มาแล้ว !!!
Diabolik Lovers Vandead Carnival Limited
แต่ลิมิเต็ทแบบปกติ ไม่ได้กระจกถือกับสมุด T^T จองไม่ทัน
(ฝากเพื่อนที่อยู่ญี่ปุ่นจองให้)

เอามารีวิวให้ดูกันจะ ๆ

ทั้ง set มี กล่องเกม + ดราม่าซีดี สองแผ่น



ภายในกล่องเกม
มีแผ่นเกม + ดราม่าซีดี + บุ๊คเลต + บัตรเชิญร่วมงานคานิวัล



Booklet ภายในมี ภาพสีปก และแนะนำสถานที่ในโลกปีศาจ
ประวัติตัวละคร + สัมภาษณ์ CV หรือผู้ให้เสียงตัวละคร พร้อมด้วยลายเซ็น
และบทเนื้อเรื่องพิมให้อ่านสักหน่อย





บัตรเชิญร่วมงานจาก คาร์ลไฮนซ์
และแน่นอนว่า งานไม่มีจริง นะคะ (o`з´o) (ฮา)



และของที่ฝากเพื่อนซื้อ + ของขวัญวันเกิดเราเอง
พวงกุญแจจากกาชาปอง (gashapon)
More Blood Limited
ให้หยอด 10 ครั้ง ได้บ้านซาคามากิมาครบ แต่บ้านมุคามิได้มาแค่รุกิกะยูมะ
แต่ได้ยูมะกะเรย์จิซ้ำ T^T
ได้รุกิแบบจิบิมาด้วย 1


ด้านหลังมีสลักชื่อเอาไว้ทุกอัน ของแต่ละคน



สรุปรวมได้มา 


ขอขอบคุณน้องแป้งจาก ACE-Z มาก ๆ เลย 
\(^∇^)/

****************************************


[Charecter Song] MORE Character Song Vol.7 『暴言(せいろん)シンドローム』- มุคามิ ยูมะ (CV.ซุซุกิ ทัตสึฮิสะ)



DIABOLIK LOVERS 

MORE Character Song Vol.7

『暴言(せいろん)シンドローム』 

(สภาวะอาการพูดโผงผางที่ต้องถูกเสมอ)


無神 ユーマ  cv.鈴木 達央
มุคามิ ยูมะ CV.ซุซุกิ ทัตสึฮิสะ


**คำเตือน** 

เพลงของทาง Diabolik Lovers นั้นจะชอบใช้คำเปรียบเปรยค่ะ
เพราะงั้นในเนื้อเพลงจะเป็น คันจิ(คำอ่าน) 
ทั้งคันจิและคำอ่านในบางประโยคคือความหมายเดียวกัน
และในบางประโยคคือคำเปรียบเปรยหรือความหมายสองแบบ
เราจะแปลแบบรวมความหมายทั้งสองแบบนะคะ เพื่อให้ได้คำแปลที่สมบรูณ์ที่สุด

>>> เอาจริง ๆ เพลงมันเหมือนกลอนเปรียบเปรยอะคะ แปลยังไงก็ไม่รู้ว่าตรงมั้ย 
เพราะงั้นเราแปลไปตามประโยคของญี่ปุ่นแบบตรง ๆ เลยค่ะ ไม่ได้ตีความหรืออะไรเลย
มันจะหมายความว่ายังไง ใช้ความรู้สึกของตัวเองได้เลยจ้า <<<

を ออกเสียงว่า wo(โวะ) แต่จะผันเป็น o(โอะ) ได้ 
ปกติเวลาเขียนโรมันจิจะเขียน o เพราะส่วนใหญ่จะออกเสียง o
แต่ในเพลงของdiabolik ชอบออกเสียง wo(โวะ) เต็มเสียง เลยจะเขียนเป็น wo ค่ะ

❤❤❤ บ่นบลาๆๆๆ : ยูม๊าาาาาาา อ๊ากกหลงอีกแล้ว นายทำเราหลงตั้งแต่ CD darkfate
ท่อนกัดน้ำตาลทำไมรู้สึกเหมือนคำว่า "กัดก้อนเกลือกิน" เลย 
แต่เปลี่ยนเป็น "กัดก้อนน้ำตาล" แทน 555

ชื่อเพลงคำว่า Seiron せいろん มันแปลได้ว่าตรรกะหรือทฤษฏีหรือความถูกต้อง

ซึ่งตามนิสัยของยูมะที่เป็นคนชอบพูดโผงผาง ห้าว ๆ 

Hyperpnea = คืออาการที่เวลาโกรธแล้วการหายใจจะเร็วและแรงขึ้น

เหมือนฟืดฟาด หรือ หอบ นั่นเอง

(IPSP) = inhibitory postsynaptic potential 

การยับยั้งการทำงานของจุดประสานประสาท
(เป็นการรักษาหลังจากที่เกิดอาการ Hyperpnea)

ท่อนพูด "...มาเป็นผู้หญิงของฉันซะ" ใครยอมบ้างยกมือขึ้น ฮิ๊วววววววววว

เมามันกะเพลงนี้มากเลยขอบอก

__________________________________________________________


เนื้อเพลง


寝違えた首の痛みが取れず
Nechigaeta kubi no itami ga torezu
ถอนอาการปวดคอจากการนอนผิดท่าไม่ได้เลย

ふたり、 Rolling in the depth 絶望にハマってる
Futari, Rolling in the depth zetsubou ni hamatteru  
เราทั้งสองกลิ้งลงไปในส่วนลึก ติดอยู่ในความสิ้นหวัง  

何かブッ壊せば いつもの野生(カン) 取り戻せるかな? Yeah
Nani ka bukkowaseba  itsumo no yasei (kan)  torimodoseru ka na? Yeah
ถ้าพังอะไรสักอย่างทิ้งไป จะเอาความดิบเถื่อนเหมือนทุกทีกลับมาได้รึเปล่านะ? เย้

帰属ラインは混迷 腫れた the upper eyelid 背中震わせてる
Kizoku Line wa konmei hareta the upper eyelid  senaka furuwaseteru
มึนงงในเส้นทางกลับ เปลือกตาบนบวมเป่ง แผ่นหลังกำลังสั่นเทิ้ม 

オマエのことだけ考えて 原点回帰の嫉妬(shitto )
Omae no koto dake kangaete  gentenkaiki no shitto 
ความหึงหวงที่หวนกลับไปจุดเริ่ม คิดแต่เรื่องของเธอ 

齧った砂糖の数だけ 伝えりゃいいんだろ────…………
Kajitta satou no kazu dake tsutaerya iindaro ────…………
แค่บอกจำนวนน้ำตาลก้อนที่แทะไปก็พอแล้วใช่มั้ย...


「………―――オレの女(おんな)になれ」
[………───Ore no onna ni nare]
"....มาเป็นผู้หญิงของฉันซะ"


心臓(ポンプ)が間に合わない速度で血吸えば 
Shinzou (ponpu) ga maniawanai sokudo de chi sueba
ถ้าดูดเลือดด้วยความเร็วที่ตามไม่ทันอัตราการปั๊มของหัวใจ

万(まんど)°の刺激に 喉元、騰(ア)がる過呼吸(Hyperpnea)!!!!
Man(mando)° no shigeki ni nodomoto, Noboru(a)garu ka kokyuu(Hyperpnea)!!!
อาการหอบตรงลำคอจะเพิ่มขึ้นที่แรงกระตุ้นหมื่นองศา!!!!


心臓(ポンプ)が間に合わない速度で血吸えば 
Shinzou (ponpu) ga maniawanai sokudo de chi sueba
ถ้าดูดเลือดด้วยความเร็วที่ตามไม่ทันอัตราการปั๊มของหัวใจ

万(まんど)°の刺激に 喉元、騰(ア)がる過呼吸(Hyperpnea)!!!!
Man(mando)° no shigeki ni nodomoto, Noboru(a)garu ka kokyuu(Hyperpnea)!!!
อาการหอบตรงลำคอจะเพิ่มขึ้นที่แรงกระตุ้นหมื่นองศา!!!!


痺れた手先が向かう涯ては 天国か地獄か(Heaven or Hell)?
Shibireta tesaki ga mukau hate wa tengoku ka jigoku ka (Heaven or Hell)?
ปลายทางที่ปลายนิ้วด้านชาชี้ไป จะเป็นสวรรค์หรือนรก?

Sadisticな愛に驀地(マッシグラー)な 暴言(せいろん)シンドローム────…………!!!!
Sadistic na ai ni masshigura (masshiguraa) na bougen (seiron) Syndrome …!!!!
สภาวะอาการพูดโผงผางที่ต้องถูกเสมอ พุ่งเต็มอัตราให้รักอันซาดิสต์...!!!!


不貞寝した夜の澱みは非道く
Futene shita yoru no yodomi wa hidoku
การตกตะกอนของคืนที่พล็อยหลับไปตอนอารมณ์เสียนั้นรุนแรง

ひとり、Shouting for the Moon 桃尻(ももじり)にムラってる
Hitori, Shouting for the Moon Momojiri ni Muratteru
ตะโกนในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เพียงลำพัง นั่งไม่ติดเลย

華をヘシ折れば  甘い薫(かお)り 満喫できるよ Yeah
Hana o heshioreba Amai kaori  mankitsu dekiru yo Yeah
ถ้าสรุปย่อดอกไม้ลง จะสามารถรื่นรมย์กลิ่นหอมหวานได้รึเปล่านะ เย้

持続タイムは循環 揺れた 抑制性シナプス(IPSP) 我慢出来ずに射出(だ)す
Jizoku Time wa junkan  yureta yokuseisei Synapse (IPSP) Gaman dekizu ni shashutsu(da)su
ช่วงเวลาต่อเนื่องนั้นหมุนเปลี่ยน เซลล์ประสาทที่ส่งสัญญาณยับยั้งสั่นไหว ส่งออกไปแบบอดกลั้นไว้ไม่ได้

ヒトリの愛だけ求めれば 未来永劫のJitter?
Hitori no ai dake motomereba miraieigou no Jitter?
ถ้าเรียกร้องแค่รักของคนคนเดียวแล้ว จะว้าวุ่นไปตลอดชีวิตไหม?

誓った痛みの痕跡 暴れりゃいいんじゃね────…………
Chikaitta itami no kizuato  abarerya iin ja ne ────…………
ปล่อยให้รอยความเจ็บปวดที่ได้สาบานอาละวาดไปก็พอแล้วนี่...?


「………―――滅茶苦茶になれよ」
[………───Mechakucha ni nareyo]
"...จะทำให้เละเทะไปเลย"


心臓(ポンプ)が間に合わない速度で血吸えば 
Shinzou (ponpu) ga maniawanai sokudo de chi sueba
ถ้าดูดเลือดด้วยความเร็วที่ตามไม่ทันอัตราการปั๊มของหัวใจ

万(まんど)°の刺激に 喉元、騰(ア)がる過呼吸(Hyperpnea)!!!!
Man(mando)° no shigeki ni nodomoto, Noboru(a)garu ka kokyuu(Hyperpnea)!!!
อาการหอบตรงลำคอจะเพิ่มขึ้นที่แรงกระตุ้นหมื่นองศา!!!!


心臓(ポンプ)が間に合わない速度で血吸えば 
Shinzou (ponpu) ga maniawanai sokudo de chi sueba
ถ้าดูดเลือดด้วยความเร็วที่ตามไม่ทันอัตราการปั๊มของหัวใจ

万(まんど)°の刺激に 喉元、騰(ア)がる過呼吸(Hyperpnea)!!!!
Man(mando)° no shigeki ni nodomoto, Noboru(a)garu ka kokyuu(Hyperpnea)!!!
อาการหอบตรงลำคอจะเพิ่มขึ้นที่แรงกระตุ้นหมื่นองศา!!!!


崩れた道徳(モラル)を裁くワードは 生か死か(To be or not to be)?
Kuzureta doutoku(moral) sabaku Word wa  ikashika (To be or not to be)?
คำพูดที่พิพากษาศีลธรรมจนพังทลายลงไปนั้น จะเป็นหรือตาย?

Majesticな罪に驀地(マッシグラー)な 暴言(せいろん)シンドローム────…………!!!!
Majestic na tsumi ni masshigura(masshiguraa)na bougen (seiron) Syndrome …!!!!
สภาวะอาการพูดโผงผางที่ต้องถูกเสมอ ในบาปอันยิ่งใหญ่ตระการตา...!!!


「なんにも賭(か)けねぇでなんか得(え)ようってさ」
[Nannimo kakenee de nanka eyoutte sa]
"ไม่เสี่ยงเดิมพันอะไรสักอย่าง แต่ดันได้รับบางอย่างมา"

「都合よすぎるんだよ、この雌豚」
[Tsugou yo sugirun da yo, kono mesubuta]
"ช่างแสนสะดวกสบายซะจริงนะ ยัยหมูตัวเมียนี่"

「脳汁出るくらいブッ放したいんだろ」
[Noujiru deru kurai buppanashitain daro]
"อยากจะปลดปล่อยขนาดที่หลั่งเอ็นโดฟินส์(สารแห่งความสุข)ออกมาเลยสินะ"

「だったら…、お前の全部差し出せよ」
[Dattara…, omae no zenbu sashidase yo]
"ถ้าอย่างนั้น ..., ก็ส่งทุกอย่างของเธอมาให้ฉันสิ"


(オマエノコト)
(Omae no koto)
(แค่ไขว้คว้า)

求愛(もと)めりゃいいんだろ────…………
Kyuuai(moto)me rya iindaro────…………
เรียงร้องที่จะรักเธอก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ... 


「………―――あのさあ」
「………―――Ano saa」
"... คือว่านะ"

「いい加減にしてくんね?」
[iikagen ni shite kun ne?]
"พอสักทีจะได้มั้ย?"

「……いつでも、欲しがってんじゃねぇよ!!」
[...itsudemo, hoshigatten ja nee yo!!]
"...ใช่ว่า, จะอยากได้ไปซะทุกครั้งนะเฟ้ย!!"


心臓(ポンプ)が間に合わない速度で血吸えば 
Shinzou (ponpu) ga maniawanai sokudo de chi sueba
ถ้าดูดเลือดด้วยความเร็วที่ตามไม่ทันอัตราการปั๊มของหัวใจ

万(まんど)°の刺激に 喉元、騰(ア)がる過呼吸(Hyperpnea)!!!!
Man(mando)° no shigeki ni nodomoto, Noboru(a)garu ka kokyuu(Hyperpnea)!!!
อาการหอบตรงลำคอจะเพิ่มขึ้นที่แรงกระตุ้นหมื่นองศา!!!!


心臓(ポンプ)が間に合わない速度で血吸えば 
Shinzou (ponpu) ga maniawanai sokudo de chi sueba
ถ้าดูดเลือดด้วยความเร็วที่ตามไม่ทันอัตราการปั๊มของหัวใจ

万(まんど)°の刺激に 喉元、騰(ア)がる過呼吸(Hyperpnea)!!!!
Man(mando)° no shigeki ni nodomoto, Noboru(a)garu ka kokyuu(Hyperpnea)!!!
อาการหอบตรงลำคอจะเพิ่มขึ้นที่แรงกระตุ้นหมื่นองศา!!!!


痺れた手先が向かう涯ては 天国か地獄か(Heaven or Hell)?
Shibireta tesaki ga mukau hate wa tengoku ka jigoku ka (Heaven or Hell)?
ปลายทางที่ปลายนิ้วด้านชาชี้ไป จะเป็นสวรรค์หรือนรก?

Sadisticな愛に驀地(マッシグラー)な 暴言(せいろん)シンドローム────…………!!!!
Sadistic na ai ni masshigura (masshiguraa) na bougen (seiron) Syndrome …!!!!
สภาวะอาการพูดโผงผางที่ต้องถูกเสมอ พุ่งเต็มอัตราให้รักอันซาดิสต์...!!!!

暴言(せいろん)シンドローム────…………!!!!
bougen(seiron) Syndrome …!!!!
สภาวะอาการพูดโผงผางที่ต้องถูกเสมอ...!!!
暴言(せいろん)シンドローム────…………!!!!
bougen(seiron) Syndrome …!!!!
สภาวะอาการพูดโผงผางที่ต้องถูกเสมอ...!!!


「………────ったく、しょうがねえ女、」
[... tsutaku, shouganee onna]
" ...ให้ตายสิ เป็นผู้หญิงที่ใช้ไม่ได้เอาซะเลยนะ"

__________________________________________________________

รายชื่อเพลง More Character Song -

__________________________________________________________


[OPENING THEME] DIABOLIK LOVERS DARK FATE「Guilty!!! x Guilty!!!」


DIABOLIK LOVERS

DARK FATE 



OPENING THEME

Guilty!!! x Guilty!!!

ความผิด !!! x บาป !!!


ขับร้องโดย

逆巻アヤト CV.緑川 光 - ซาคามากิ อายาโตะ CV.มิโดริคาว่า ฮิคารุ
逆巻シュウ CV.鳥海浩輔 - ซาคามากิ ชู CV.โทริอุมิ โคสุเกะ
逆巻スバル CV.近藤 隆 - ซาคามากิ สุบารุ CV.คอนโด ทากาชิ

**คำเตือน** 

เพลงของทาง Diabolik Lovers นั้นจะชอบใช้คำเปรียบเปรยค่ะ
เพราะงั้นในเนื้อเพลงจะเป็น คันจิ(คำอ่าน) 
ทั้งคันจิและคำอ่านในบางประโยคคือความหมายเดียวกัน
และในบางประโยคคือคำเปรียบเปรยหรือความหมายสองแบบ
เราจะแปลแบบรวมความหมายทั้งสองแบบนะคะ เพื่อให้ได้คำแปลที่สมบรูณ์ที่สุด

>>> เอาจริง ๆ เพลงมันเหมือนกลอนเปรียบเปรยอะคะ แปลยังไงก็ไม่รู้ว่าตรงมั้ย 
เพราะงั้นเราแปลไปตามประโยคของญี่ปุ่นแบบตรง ๆ เลยค่ะ ไม่ได้ตีความหรืออะไรเลย
มันจะหมายความว่ายังไง ใช้ความรู้สึกของตัวเองได้เลยจ้า <<<

❤❤❤ บ่นบลาๆๆๆ : หนักใจกับเพลงนี้มาก การใช้ภาษามันแนวจนเกินจะเข้าใจได้จริง ๆ (ฮา)
โดยเฉพาะท่อน eng ที่ว่า She per nothing คือมันไม่ใช่สำนวน eng ต้องคิดเป็น Jap
per ในนี้มันน่าจะประมาณว่า เป็นรูปการกระทำอันสักอย่างกับ She 
และ Nothing ที่แปลว่าไม่มีเลย ก็เลยแปลตามความเข้าใจออกมาว่า 
"นอกจาก ทำกับ/โดย/ผ่านทาง เธอแล้วก็ไม่มีเลย"
ก็สรุปได้โดยละม่อม(?)ว่า "เฉพาะกับเธอเท่านั้น" ไปซะงั้นเลย 555
ที่เหลือขอละไว้ในฐานที่เข้าใจนะคะ เพราะภาษาไทย แค่นี้ก็เข้าใจแล้วล่ะ (มั้ย?)
อีกอย่างคิดว่ามันน่าจะเล่นคำกับ shippanashi ด้วย

_______________________________________________


เนื้อเพลง 


目を覚ました時、浮かんだ 薄光(twilight)  言うならば、三度目の被験者 (subject) さ
Me o samashita toki, ukanda twilight  iunaraba, sandome no subjectsa
ในยามที่ลืมตาตื่น แสงสลัว ๆ ยามพลบค่ำก็โผล่มา ถ้าจะให้พูดแล้ว มันคือหัวเรื่องที่สามที่จะพูดเลยล่ะ
鏡越しの時計が、なぜか逆走(ぎゃくはし)っても? 唇を閉ざすのに慣れてたね
Kagami goshi no tokei ga, naze ka gyakuhashittemo? Kuchibiru o tozasu no ni nareteta ne
จะบอกว่าทำไมนาฬิกาที่อยู่หลังกระจกนั้นถึงเดินทวนเข็ม? ทั้งที่ปิดปากสนิทแท้ ๆ แต่กลับเคยชินแล้วสินะ

新たな「棺桶(とびら)」を   開いたことは、確かだとして
Aratana 「tobira」 o aita koto wa, tashikada to shite
เรื่องที่ [ฝาโลงศพ] ถูกเปิดขึ้นมาใหม่นั่น เป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน
ドコカで自分自身に懐疑を抱いTell  黒装束の娘(GothicDoll)
Dokoka de jibunjishin ni kaigi o idai Tell GothicDoll
เด็กสาวชุดตุ๊กตาโกธิคสีดำ บอกให้โอบกอดความเคลือบแคลงสงสัยในตัวเองตรงไหนสักแห่งไว้

遠くから 
聞こえてくる 聖歌(Anthem)に 首をかしげ─────………
Tooku kara  Kikoete kuru  Anthem ni  Kubi o kashige...........
ได้ยินเสียง  บทเพลงสวด  ที่โก่งคอร้อง  ดังแว่วมาแต่ไกล...........


「クククッ……教えてやるよ」

'Hahaha ... Oshiete yaru yo'
"ฮะ ๆ ๆ … ฉันจะบอกให้เอง"

「オマエが」

'OMAE ga'
"ถึงบาป"

「犯した罪……」

'Okashita tsumi ...'
"ที่เธอก่อขึ้น ..."


Guilty!!! x Guilty!!! Guilty!!! x Guilty!!!
ความผิด!!! x บาป!!! ความผิด!!! x บาป!!!

キミは選ばれし Thriller その血に Addicted しっぱなし (She per nothing)

Kimi wa erabareshi Thriller Sono chi ni Addicted shippanashi(She per nothing)
เธอคือความเร้าใจที่ถูกเลือก เสพติดหลงในเลือดนั่นไม่หยุด (ไม่มีใครนอกจากเธอ)

Guilty!!! x Guilty!!! Guilty!!! x Guilty!!!
ความผิด!!! x บาป!!! ความผิด!!! x บาป!!!

ふたり生か死かのHustler この目はInflamed しっぱなし (She per nothing)

Futari sei ka shi ka no Hustler Kono me wa Inflamed shippanashi(She per nothing)
เร่งเร้าให้อยู่หรือตายสองอย่าง ดวงตานี้ลุกไหม้รุ่มร้อนไม่หยุด (เฉพาะแค่กับเธอ)

さあ、望みうる 
あらゆる愛(ばつ)を Wow 甘受 (う) けてくれ
Saa, nozomi uru Arayuru batsu o Wow uketekure
เอ้า เพื่อให้สมหวัง ช่วยยอมรับรักและบทลงโทษ  โว้ ทั้งหลายทั้งปวงไปโดยดีทีเถอะ


手を伸ばした先、弛緩(ゆる)んだ釘頭(Nailhead)引き抜けば、何度目の絶頂(Ecstasy)Hey!!!
Te o nobashita saki, yurunda Nailhead hikinukeba Nandome no Ecstasy Hey!!!
ปลายมือที่ยื่นออกมา ถ้าหากดึงปลายเล็บที่ไร้การระวังออก คงถึงจุดสุดยอดหลายครั้งเลย Hey!!!
痙攣(ビクビク)する足元、誰に吸い尽くされてる? 
Bikubiku suru ashimoto dare ni suitsukusareteru? 
แข้งขาที่สั่นพั่บ ๆ ถูกใครดูดเลือดมางั้นหรือ ? 
支離滅裂、愛楽(Tactics)を  胸に秘蔵(ひ)め
Shirimetsuretsu, Tactics o mune ni hime
ล้มระเนระนาด เก็บซ่อนกลรักไว้ในอก

古びた「 棺桶(とびら)」に  想い患い(わずら)い、抜け出せなくて
Furubita 「tobira」 ni omoi wazurai nukedase nakute
ถอดถอนโรคป่วยใจที่ “ฝาโลงศพ” เก่า ๆ ไปไม่ได้เลย
ミライを他人自身に譲渡しかければMerryBadEnd!!!!!!
Mirai wo tanin jishin ni joutoshi kakereba MerryBadEnd!!!!!!
ถ้าโอนอนาคตให้ตัวเองอีกคนไป จะเป็นตอนจบที่เลวร้าย!!!

神様が、  
見離してる 罪to罰  牙を穿(うが)つ─────………
Kamisama ga  mihanashiteru  tsumi to batsu   kiba wo ugatsu………
ในตอนที่พระเจ้า  
ไม่ชายตามองมา  จะใช้เขี้ยวเจาะบาป  และการลงโทษให้ทะลุซะ………


「いつまで………」
'Itsumade ...'
"จะทำตัว..."

「だらしなく」
'darashinaku'
"หมดสภาพดูไม่ได้"

「垂(たら)してんだよ……」
'Tarashite nda yo...'
"ไปถึงเมื่อไหร่กัน ..."


Guilty!!! x Guilty!!! Guilty!!! x Guilty!!!
บาป !!! x ความผิด !!! บาป !!! x ความผิด !!!

キミは選ばれし Thriller  その血に Addicted しっぱなし (She per nothing)

Kimi wa erabareshi Thriller Sono chi ni Addicted shippanashi (She per nothing)
เธอคือความเร้าใจที่ถูกเลือก เสพติดหลงในเลือดนั่นไม่หยุด (ไม่มีใครนอกจากเธอ)

Guilty!!! x Guilty!!! Guilty!!! x Guilty!!!
บาป !!! x ความผิด !!! บาป !!! x ความผิด !!!

ふたり生か死かのHustler この目はInflamed しっぱなし (She per nothing)
Futari sei ka shi ka no Hustler Kono me wa Inflamed shippanashi (She per nothing)
เร่งเร้าให้อยู่หรือตายสองอย่าง ดวงตานี้ลุกไหม้รุ่มร้อนไม่หยุด (เฉพาะแค่กับเธอ)


(บทพูด)
"เฮ้ คุกเข่าลงตรงนั้นซะ"
"รีบทำเร็วเข้าสิ!"
"ทางนั้นเป็นคนเชิญชวนเองนะ"
"ฮะฮะ เธอเนี่ยมันเป็นเด็กไม่ดีจริง ๆ เลยนะ"
"คงต้องลงโทษ...กันแบบพิเศษหน่อยแล้ว"
*ดูดเลือด*
"ฉันไม่อดทนทั้งนั้นแหละ"
"จะดูดจนกว่าจะตายไปเลย"
"นี่ ชอบแบบนี้ใช่ไหมล่ะ?"
"เอ้า มือคลายแล้วนะ"
"อย่ามาทำหน้าเกิดอารมณ์สิเฟ้ย"
"คงต้องขอให้อยู่เป็นเพื่อนจนกว่าฉันจะเบื่อ"


呪われた 
愛の中で 混(ま)血(ざ)りあう 血潮たけを─────………
Norowareta  ai no naka de  mazariau  chishio dake o─────………
ท่ามกลาง  รักที่ถูกสาป  จะรินแต่เลือด  ที่ไหลจากร่าง………


「─────………ずっと」
'─────………Zutto'
"....เจือปน"

「注ぎ込んで」

'sosogikonde'
"เลือดเข้าด้วยกัน"

「やってもいいんだぜ?……」

'yatte mo iinda ze? ...'
"ให้ตลอดไปเลยก็ได้นะ?? ...."


Guilty!!! x Guilty!!! Guilty!!! x Guilty!!!
บาป !!! x ความผิด !!! บาป !!! x ความผิด !!!

キミは選ばれし Thriller その血に Addicted っぱなし (She per nothing)
Kimi wa erabareshi Thriller Sono chi ni Addicted shippanashi (She per nothing)
เธอคือความเร้าใจที่ถูกเลือก เสพติดหลงในเลือดนั่นไม่หยุด (ไม่มีใครนอกจากเธอ)

Guilty!!! x Guilty!!! Guilty!!! x Guilty!!!

บาป !!! x ความผิด !!! บาป !!! x ความผิด !!!

ふたり生か死かのHustler この目はInflamed しっぱなし (She per nothing)
Futari sei ka shi ka no Hustler Kono me wa Inflamed shippanashi (She per nothing)
เร่งเร้าให้อยู่หรือตายสองอย่าง ดวงตานี้ลุกไหม้รุ่มร้อนไม่หยุด (เฉพาะแค่กับเธอ)

さあ、望みうろ  あらゆる愛(ばつ)を  Wow 甘受 (う) けたなら

Saa nozomi uru ara yuru batsu o wow ukete nara
เอ้า เพื่อให้สมหวัง ช่วยยอมรับรักและบทลงโทษ  โว้ ทั้งหลายทั้งปวงไปโดยดีทีเถอ


「愛してやるよ」

'Ai shite yaru yo'
"จะรักเธอให้ก็แล้วกัน"

「永遠に」

'eien ni'
"ไปตลอดชั่วนิรันดร์"

「お前だけを」

'Omae dake wo'
"แค่เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น"



[ซีดีจำลองสถานการณ์] DIABOLIK LOVERS DARK FATE Vol. 3 บทระยะเสี้ยวสุดท้าย


DIABOLIK LOVERS 
DARK FATE Vol.3 


-下弦の章 -
(บทระยะเสี้ยวสุดท้าย)

*แปลชื่อบทได้อีกแบบคือ บทพระจันทร์ข้างแรม*
下弦 (kagen) แปลว่า ไตรมาสสุดท้ายของพระจันทร์ข้างแรม หรือก็คือ 
พระจันทร์ช่วงแรม 8 ค่ำ ที่จะเห็นครึ่งซีกของพระจันทร์ทางซ้าย 
ก่อนที่จะหายไปเป็นคืนเดือนมืด
พระจันทร์ตามแบบในรูปข้างล่างเลย

**คำนวนจากการขึ้นของพระจันทร์ 
ระยะห่างจาก vol.2 ถึง vol.3 มีประมาณ 3 สัปดาห์โดยเฉลี่ย


รวมคำเรียกเฉพาะใน cd นี้ 
Gesshoku - จันทรคราส
*(1) Kachiku (คาชิคุ) - สัตว์ที่เลี้ยงไว้เป็นอาหาร,ปศุสัตว์ (คำเรียกยุยของรุกิ)
*(2) M-neko Chan (เอ็มเนโกะจัง) - แม่แมวน้อยมาโซ (คำเรียกยุยของโคว)
*(3) Mesubuta (เมสุบุตะ) - ยัยหมูตัวเมีย (คำเรียกยุยของยูมะ)
*(4) Eve (อีฟุ) - อีฟ (คำเรียกยุยของอาซึสะ)
shichimi - เครื่องเทศที่ผสมกัน 7 ชนิด ของโปรดของอาซึสะ


Track 1 無神家へ (สู่บ้านมุคามิ)

รุกิ ทันทีที่หลังจากที่ได้ยินจากปีศาจรับใช้ว่า ลูกชายคนที่สามของบ้านซาคามากิถูกหมาป่าเล่นงาน จนได้รับบาดแผลสาหัส ก็มีจดหมายฉบับนึง ส่งมาหาฉัน 

*เสียงเปิดกระดาษจดหมายอ่าน*

รุกิ เป็นจดหมายที่ส่งมาจากผู้ส่งที่ไม่คาดคิด ... นั่นเป็น ... ของที่ส่งมาจาก เรย์จิ ลูกชายคนที่ของสองของบ้านซาคามากิ ที่น่าจะกลับไปปราสาทที่โลกปีศาจ
      "ทำไมหมอนั่นถึงส่งจดหมายมาให้ฉันกัน ?" รู้สึกสงสัยชั่วขณะนึง แต่ตราประทับบนขี้ผึ้งปิดผนึกที่อยู่บนจดหมายนั่น เป็นสัญลักษณ์ของบ้านซาคามากิอย่างไม่ต้องสงสัยเลย บ่งบอกว่าเป็นผู้หนึ่งในบ้านของท่านคาร์ลไฮนซ์

รุกิ : เนื้อหาสรุปใจความได้ว่าแบบนี้ "น้องชายถูกหมาป่าทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส พวกเราได้พิจารณาจากเหตุการณ์นั่น และเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบของจันทรคราส จึงจะไปที่โลกปีศาจ ...สำหรับผู้หญิงที่เป็นมนุษย์ โลกปีศาจนั้นอันตราย จึงอยากให้ช่วยดูแล ในระหว่างที่ทิ้งไว้อยู่ที่นั่นหน่อย"
     
รุกิ : หมายความว่ายังไง ? มีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ ?

*เสียงขยำจดหมาย*

รุกิ : ชิ ! แบบนี้มันก็เหมือนกับว่า พวกเราคนรับใช้เลยไม่ใช่เหรอ ? น่าหงุดหงิด ... ทั้งที่พวกตัวเองหนีไปที่โลกปีศาจแล้วแท้ ๆ

*จุดไฟเผากระดาษ*

รุกิ : จันทรคราส... คือผลกระทบของการเกิดข้างขึ้นข้างแรมของดวงจันทร์นั้นสำหรับพวกเราเหล่าแวมไพร์แล้วนั้น ... มีความเกี่ยวพันกันอย่างหนีไม่พ้น 
      ทั้งมีการเกิดความแตกต่างไปจากสภาพปกติบ้าง ... พบเห็นได้จากการกระทำที่ผิดแปลกไปจากทุกครั้งอยู่ และมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดความวุ่นวาย จากพฤติกรรมในสถานการณ์เช่นนั้น

รุกิ : แต่ว่า ผลกระทบที่ได้รับจากคืนวันจันทรคราสนั้น ... ที่โลกปีศาจกับโลกมนุษย์นั้นมันต่างกันอย่างมาก ผลที่มีอยู่ในโลกมนุษย์ เมื่อเทียบกับทางโลกปีศาจแล้ว สำหรับแวมไพร์แล้วมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

รุกิ ยิ่งไปกว่านั้นที่โลกปีศาจนั้น มีปราสาทที่ถูกป้องกันด้วยพลังปีศาจอันแข็งแกร่งของท่านคาร์ลไฮนซ์อยู่ ...และจากที่พูดไปนั่น ...จันทรคราสของโลกปีศาจนั้นมีต่อไปอย่างยาวนาน ถ้าพูดด้วยช่วงเวลาของโลกทางนี้ล่ะก็ ประมาณราว ๆ เกือบเดือนเลยล่ะ 

รุกิ : จากที่วิเคราะห์เรื่องนั้นแล้ว และเรื่องที่ทางบ้านซาคามากิเจอ จะอพยพไปที่โลกปีศาจคงไม่ผิดแน่ ... มันคงไม่ใช่เรื่องสนุกแน่นอน 

รุกิ : ในระหว่างที่พวกตัวเองหนีไปอยู่ในปราสาทที่ปลอดภัย ก็มาบอกให้พวกเรา ดูแลผู้หญิงมนุษย์ที่เหลืออยู่ในคฤหาสน์ให้ ... ถ้าพูดกลับกันก็แปลว่า ไม่มีใครอื่นนอกจากพวกเราที่อยู่ที่นี่อีกแล้ว

รุกิ : ถึงจะพูดแบบนั้น ... แต่จะทิ้งให้ ปศุสัตว์*(1) อยู่ลำพังที่คฤหาสน์นั้นก็ไม่ได้ ... 
     ไม่ใช่ว่าจะทำตามที่ลูกชายคนที่สองของบ้านซาคามากิบอกหรอกนะ 
     แต่ดูท่าจะต้องไปรับเจ้าหล่อนมาซะแล้วสิ ... 
     ยังไงก็ตาม ... เธอคนนั้นเป็นถึง "อีฟคนสำคัญ" ... ในสถานการณ์แบบนั้นไม่ปกป้องคงไม่ได้

รุกิ : เฮ้ ! ยูมะ โคว อาซึสะ

รุกิ DIABOLIK LOVERS DARK FATE Vol.3 (วอลลูม ทรี) บทไตรมาสสุดท้าย 

----------------------------------------------

*เสียงเข็มวินาทีของนาฬิกาในบ้าน*

---ติ๊งต่อง !
*เสียงกดออดประตู*

*เสียงยุยเดินไปมาในบ้านเป็นกังวล*

---ติ๊งต่อง ! ติ๊งต่อง ! ติ๊งต่อง !

---ก๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ
*เสียงเคาะประตู*

โคว : เอ็มเนโกะจัง*(2) อยู่ใช่มั้ย ?

*ยุยเดินไปเปิดประตู*

โคว : ยะโฮ่ว ไม่เจอกันซะนานเลย สบายดีมั้ย ?
โคว : มองจากด้านนอกมันมืดทมิฬไปหมดเลยจนเผลอคิดว่า "หรือว่าจะไม่มีคนอยู่กันนะ" เลยล่ะ
         ...แต่ว่าคฤหาสน์หลังนี้ มันทั้งทะมึนมองเห็นได้แต่เป็นบ้านผีสิงของจริงเท่านั้นเลยเนอะ

ยูมะ : ไง ยัยหมูตัวเมีย*(3) ถูกทิ้งให้เฝ้าบ้านอยู่คนเดียว ในที่โครตจะน่าเบื่อพรรค์นี้ซะได้นะ ... เจ้าพวกนั้นก็กล้าให้ผู้หญิงอยู่ที่นี่คนเดียวได้
         ก็นะเดิมทีแล้ว ตัวตนที่อันตรายที่สุดคือเจ้าพวกนั้นนี่นะ ? ก็หมายความว่า ... ถึงจะทิ้งเธอเอาไว้ที่นี่เพียงลำพังคนเดียวก็ไม่มีปัญหาอะไรสินะ ?

อาซึสะ : อีฟ*(4) สายันต์สวัสดิ์ ... ได้ยินมาว่าอยู่ลำพังคนเดียวน่ะ ... เพราะงั้น ... ก็เลยมาเล่นด้วยน่ะ

โคว : ใช่ ๆ ก็อย่างที่อาซึสะคุงพูด ก็อย่างที่ว่า ขอรบกวนด้วยคร้าบ ...

*พวกโควเดินเข้าบ้าน*

ยูมะ : เฮ้ นี่เธอ ! พวกเราเป็นแขกนะ รีบ ๆ เอาชามาเสริฟ์เซ่ !
อาซึสะ : โอ่โถงขนาดนี้เลย ? ... เพิ่งจะเคยเข้ามาถึงตรงนี้ ... จากประตูหน้า ...ครั้งแรกเลยนะ
ยูมะ : เพราะปกติแล้วเจ้าพวกครอบครัวแวมไพร์นั่นมันหนวกหูน่ารำคาญจนเข้ามาไม่ได้น่ะสิ
ยูมะ : อ๊ะ จริงด้วย ยัยหมูตัวเมีย ลืมไปเลย

*ยูมะวางห่อของ*
ยูมะ : เจ้านี่ เอามาให้น่ะ ถึงแต่เดิมมันจะเป็นมันฝรั่งจากสวนของฉันก็เถอะนะ มันเหี่ยวเร็วซะด้วย รีบเอาไปทำอาหารซะล่ะ "จะย่าง จะต้ม จะนึ่ง ก็อร่อยทั้งนั้น" รุกิบอกเสมอเลยล่ะ

ยูมะ : หา ? "มาทำอะไร" เสียมารยาทชะมัดเลย ... จะมาเจอเธอต้องมีเหตุผลพิเศษอะไรด้วยเหรอ ?
(แอร๊ย จู่โจมด้วยคำหวานหน้าตาย แดเมจ100)

ยูมะ : ใช่ มาหาเธอไงล่ะ คิดว่า "อยู่คฤหาสน์โทรม ๆ แบบนี้ตามลำพังคงจะเหงา" น่ะ ... ฮึบ !

*จับตัวยุย*

ยูมะ : แล้วมีอะไรรึไง ? ที่ฉันเป็นห่วงเธอ มันแปลกนักรึไง ? 

(ยุยบอกอะไรสักอย่าง)

ยูมะ : ใช่ ๆ ผู้หญิงที่ซื่อตรงน่ะดีที่สุดแล้ว อย่าได้สงสัยในความปรารถนาดีของคนอื่น ... ก็อย่างที่ว่าไป ... ได้ใช่มั้ย ?

ยูมะ : ถ้าเป็นตอนนี้เจ้าพวกนั้นก็ไม่อยู่ซะด้วย ...ฉันกำลังบอกว่าขอคำขอบคุณที่เอามันฝรั่งมาให้ยังไงล่ะ

*ยุยดิ้น*
ยูมะ : ดิ้นอะไรของเธอน่ะ ? ถึงจะบอกว่าคำขอบคุณแต่ของที่เธอจะให้กับแวมไพร์ได้น่ะ ... มีแค่อย่างเดียวเท่านั้นนี่น่า ? 

ยูมะ : ...หรือว่า ... เธอไม่ชอบการที่ยินยอมด้วยกันทั้งสองฝ่ายแบบนี้เหรอ ? .. ฮึ ๆ แต่ยังไงซะเจ้าพวกครอบครัวแวมไพร์นั่น คงเมินความเห็นของเธออยู่แล้วนี่น่ะ แล้วเธอก็ดันชินกับการปฏิบัติแบบนั้นไปซะได้

*ยูมะจับยุย*

ยูมะ : นาน ๆ ทีคงได้ใช่มั้ยล่ะ ? การทำแบบนี้น่ะ ... เพราะฉันขอไปแล้ว ก็ควรยกให้สิ ... *จูบ* ...เข้ามาใกล้ ๆ อีกสิ 

*ยุยขยับ*
ยูมะ : เธอเอง ... ที่จริงแล้วก็คิดว่าไม่เลวเท่าไรใช่มั้ย ?  ...*อ้าปากกัด*

*ดูดเลือด*

ยูมะ :  ... อื้ม ... อร่อย ... *ดูดเลือด* ... อืม ... *ดูดเลือด* .. หือ ? อะไรล่ะ ? ถามว่า"เอามันฝรั่งมาเพื่อแบบนี้สินะ" เหรอ ? ... ฮึ ความแตกแล้วเหรอ ? ช่วงหลัง ๆ ไม่ค่อยได้เจอกันเลยนี่น่า พอได้เห็นหน้าเธอแล้ว ... ไม่ว่ายังไง ก็ดันรู้สึกอยากได้ขึ้นมาซะได้ 

ยูมะ : ... แต่ว่านะ ถึงจะถูกดูดเลือดไปแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกถึงความต้องการอยู่ใช่มั้ยล่ะ ? เอาเถอะ นั่นมันก็เป็นความจริงซะด้วยสิ ... *ดูดเลือด*

ยูมะ : *ดูดเลือด* ... อื้ม ...

*อาซึสะโผล่มาเงียบ ๆ*
ยูมะ : ... !!
อาซึสะ : ยูมะ ขี้โกง ... ตลอดเลย
ยูมะ : เหวอ !! ตะ- ตกใจหมดเลย ... อะไรกันอาซึสะ ไม่ใช่ว่า นายเดินไปทางโน้นแล้วเหรอ ?
โคว : ก็คิดว่ามัวแต่ชักช้าอะไรกันอยู่ได้ก็เลยกลับมาหาทั้งสองคนไงเล่า ! รู้สึกสังหรณ์ไม่ดี แต่ดันเป็นงี้จนได้
ยูมะ : ...แงะ !! โควก็ด้วย
โคว : ห้ามเอาเปรียบ ! อย่าสร้างโลกส่วนตัวกันแค่สองคนตามใจชอบสิ ! (ชอบเสียงโควตอนนี้จัง)
ยูมะ : โทษที ... พอเข้าใกล้ยัยนี่แล้วได้กลิ่นหอมมา ก็เลย ... เผลอไป ... น่ะ
โคว : ก็ ... มันก็จริงอยู่หรอกนะ
อาซึสะ : อีฟ เป็นอะไรมั้ย ?
(ยุยบอกอะไรสักอย่าง)
โคว : ยังไงก็ตามอย่าอยู่ตรงนี้กันเลยไปห้องรับแขกกันเถอะ เอ็มเนโกะจังก็ไปยกชามาให้พวกเราซะ รบกวนด้วยนะ 
ยูมะ : คร้าบ ๆ ... ให้ตายสิ อยากทำต่อไปอีกหน่อยแท้ ๆ ...
อาซึสะ : พูด ... อะไรเหรอ ?
ยูมะ : เปล่านี่ ไม่ได้พูดอะไร

--- ตัดฉาก ---

โคว : เฮ่อ... สมกับเป็นชาของบ้านซาคามากิ อร่อยจริง ๆ 
ยูมะ : ชามันมีแบบอร่อยกับแบบไม่อร่อยด้วยเหรอฟะ ? ชาก็คือชาเฟ้ย
*ยูมะซดชา*
อาซึสะ : ถ้าใส่น้ำตาลก้อนมากขนาดนั้น ... ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วนี่ ?
*อาซึสะดื่มชา*
อาซึสะ  : อร่อย ! หรือว่าเป็นเพราะอีฟเป็นคนยกมาให้กันนะ .. รู้สึกอร่อย ... เป็นพิเศษเลยล่ะ
(อาซึส่าาาาา หวานละลายแล้ว ไม่ต้องใส่น้ำตาลแบบยูมะหรอก)
ยูมะ : เฮอะ ! ชาที่ไม่ใส่ ชูการ์จัง(น้ำตาล) น่ะไม่ใช่ของที่จะดื่มได้หรอกเฟ้ย ! อีกอย่าง ไม่อยากฟังจากอาซึสะคนที่ใส่ shichimi*(4) ไปซะทุกอย่างที่กินหรอกนะ !
อาซึสะ : ... ไม่ได้ใส่ ...ลงไปในชานี้ ..นะ ... นี่ อีฟ ...ใช่มั้ยล่ะ ? *ขยับเข้าใกล้ยุย* ... อย่างนั้นใช่มั้ย ?
โคว : เอ้า ๆ ทั้งสองคนนั่นน่ะ เอ็มเนโกะจังทำหน้าไม่ชอบอยู่นะ โทษทีนะ รู้สึกว่าดันพาเจ้าพวกตัวยุ่งยากมาด้วยซะแล้ว

(ยุยบอกอะไรสักอย่าง)

โคว : หือ ? คิดแบบนั้นจริง ๆ เหรอ ? ฮิ ดีใจจัง เพราะว่าอยู่ ๆ ก็มา ก็เลยคิดว่ามารบกวนรึเปล่านะ
ยูมะ : มันก็จริงล่ะนะ ... ว่าแต่ ที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้น ? เห็นว่าคฤหาสน์หลังนี้ไม่มีแวมไพร์อยู่สักตัวเลย เรื่องใหญ่มากเลยนี่
(ยูมะเรียก"ตัว"จริง ๆ นะคะ) 

(ยุยเล่าเรื่อง)
อาซึสะ : หมาป่าบุกเข้ามาทำร้าย ... นั่นมัน ... ดูท่าทาง ... น่าจะเจ็บสุด ๆ ไปเลย ...สินะ
โคว : ครับ ๆ เรื่องรสนิยมของอาซึสะคุงน่ะตอนนี้จะยังไงก็ช่าง ... หมาป่าในเมืองนี้เหรอ ...เรื่องนั้นน่ะ จริงเหรอ ?

(ยุยตอบรับ)
ยูมะ : ถ้าจำไม่ผิด มันเป็นข่าวลือแบบเงียบ ๆ นี่น่า ว่าเห็นฝูงหมาป่าเดินป้วนเปี้ยนแถว ๆ เมืองในตอนกลางคืนน่ะ ...ดูเหมือนรุกิจะใช้ให้ปีศาจรับใช้ไปสืบแล้วก็เถอะ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้เบาะแสที่สำคัญอะไรเลย
โคว : ที่มาหมายตาอายาโตะคุงไว้ก็หมายความว่า... มีเจตนาอะไรกันนะ ?
ยูมะ : หมายความว่าไง ?
โคว : อื้ม..ก็เรื่องที่ว่ามาเล่นงานเพราะรู้ว่าเป็นแวมไพร์รึเปล่าน่ะสิ
อาซึสะ : หมาป่าน่ะ ...ดูเหมือนจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่จมูกดีมากซะด้วย ... ว่าแล้วเชียว ...คงไม่ใช่ว่า ...เจอปุ๊บ ...ก็เข้าเล่นงานเหรอ ?
อาซึสะ : นอกจากนั้น ... ในเมือง ...มีหมาป่าธรรมดาอยู่ ...คิดว่าไม่น่าแปลกอะไร ... ในตอนที่ฉันยังเป็นมนุษย์ ...ก็เคยเจอฝูงหมาป่า ...เข้าเล่นงานเหมือนกัน
โคว : เรื่องนั้น ตอนที่พวกเรายังเป็นมนุษย์อยู่โลกยังไม่ได้เป็นแบบที่ว่านี่น่า แต่ตอนนี้ ถ้าคิดอยากเจอหมาป่าให้เดินเข้าไปในอาณาจักรสัตว์บนภูเขาจะเร็วกว่ามั้ง ?
ยูมะ : นั่นสินะ ...นอกจากนั้น มาเล่นงานแวมไพร์แทนที่จะเป็นมนุษย์ คิดยังไงก็ไม่น่าใช่นะ ... เนื้อแวมไพร์ดูท่าห่วยแตกด้วยสิ
โคว : ก็ ... ยังไงก็ตาม มีเพียงเกิดเรื่องแปลก ๆ ขึ้นที่แน่ใจน่ะนะ

*เสียงนาฬิกาบอกเวลา*
ยูมะ : โอ๊ะโอ๋ 2 ทุ่มแล้วเหรอ ?
อาซึสะ : รุกิจะอารมณ์เสียเอา ... ไปกันเถอะ ...เอ้า อีฟ

(ยุยถามว่าจะไปไหน)
โคว : บ้านของพวกเราไงล่ะ ..ฮึ ๆ รุกิทำอาหารเย็นไว้รออยู่ล่ะ บอกว่าวันนี้ให้มาชวนเอ็มเนโกะจังไปกินด้วยกันน่ะ

(ยุยทำอะไรสักอย่าง)

ยูมะ : เป็นอะไร ? มีธุระอะไรรึไง ? 

(ยุยบอกอะไรสักอย่าง)
โคว : ก็เจ้าพวกนั้นไปโลกฝั่งโน้นนี่น่า เพิ่งจะผ่านไป 2-3 วันเองไม่ใช่เหรอ ? เพราะงั้นคิดว่าคงยังไม่กลับมาในทันทีหรอก

โคว : ยิ่งไปกว่านั้น ถึงเอ็มเนโกะจังจะไม่อยู่ที่นี่ คิดว่าเจ้าพวกนั้นคงไม่ใส่ใจอะไรหรอกมั้ง
ยูมะ : หน้าแบบนั้น ...ถึงจะพูดยังไงก็ยังเป็นห่วงสินะ เธอน่ะ ... หรือว่า ไม่อยากขัดคำสั่งของเจ้านายมากขนาดนั้นเลยเหรอ ?
อาซึสะ : ไปอยู่ที่บ้านพวกเรา.. ดีกว่าอยู่ที่แบบนี้อีกนะ ... ถ้าเผื่อว่า ...มีใครมาที่นี่ ...หรือกลับมาก็ตาม ... เพื่อให้สบายใจ ... จะทิ้งปีศาจรับใช้ ... ของฉันเอาไว้ให้ก็แล้วกัน  ... เนอะ ?
โคว : เอ้า ไปกันเถอะ ! พวกเราได้รับคำสั่งจากรุกิให้มาพาไปด้วยกันนะ ..ถ้าเกิดเธอไม่ไปด้วยกันล่ะก็ รุกิคุงคงสวดยับแน่เลย ... นะ ?

*ยูมะลุกจากเก้าอี้*
ยูมะ : บอกให้กลับไปถึงตอน 2 ทุ่มแท้ ๆ แต่ดันเลยมาเยอะแล้วซะนี่ ... เร็วเข้าน่า

โคว : แย่แล้ว ! รุกิคุงคงโมโหอยู่แน่ เร็วเข้า ๆ

*เสียงทยอยกันเดินออกจากบ้าน*

(❤❤❤ บ่นบลาๆๆๆ : อ๊ากกก ยูมะ ไม่เคยชอบเลยนะๆๆ แต่ฟังอันนี้แล้วหลงเลย 
เสียงกระซิบทำหูละลายแล้ว ยูมะพูดแนวออกเว้ยเฮ้ยหน่อยนะคะ ขอแปลเถื่อนดิบนิด
//ของโควนี่ยังไงก็ต้องลงท้ายด้วยรูปหัวใจถึงจะเหมาะนะ 55
 //อาซึสะ โอ้ย สุภาพบุรุษหลงอีกคน )
-------------------------------------------------------------------------

Track 2 食卓での会話 (การสนทนาบนโต๊ะอาหาร)

รุกิ : ฉันบอกว่า ให้กลับมาถึงตอน 2 ทุ่มนี่น่า
โคว : น่า ๆ รุกิคุง อย่าไปพูดถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เลยน่า เอ็มเนโกะจังก็อุตส่าห์มาด้วยแบบนี้แล้ว
รุกิ : นี่ คาชิคุ ... เป็นเพราะเธอมัวแต่ชักช้าเลยมาถึงเอาป่านนี้งั้นเหรอ ?
อาซึสะ : ยูมะน่ะ 
รุกิ : หือ ? ยูมะ ? ยูมะทำอะไรงั้นเหรอ ?
อาซึสะ : ยูมะ ... เข้าไปนัวเนียกับอีฟ ...ก็เลยมาช้าเลยน่ะสิ
ยูมะ : เดี๋ยว ! อาซึสะ นาย !!
รุกิ : คาชิคุ เรื่องนั้นเป็นความจริงเหรอ ?

*เงียบ*
รุกิ : ไม่ตอบกลับ ...งั้นก็หมายความว่า เป็นเรื่องจริง
ยูมะ : เปล่าสักหน่อย ! ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ! ก็แค่ไปแซวเล่นหน่อยเดียวเอง 
รุกิ : ฮึ ...จะใช่รึเปล่านะ ? ...ให้ตายสิ ...ยังไงก็ตามเข้าไปข้างในก่อน ...อาหารเย็นหมดพอดีไม่ใช่รึไง ?

*เดินเข้าบ้านกัน*
--- แอ๊ด ---
*เปิดประตู*

โคว : กลิ่นหอมจังเลย อาหารเย็นวันนี้จะเป็นอะไรกันนะ 
รุกิ : สตูว์น่ะ
โคว : อื้ม ...ก็ชอบสตูว์อยู่หรอกนะ แต่ถ้าเป็นวองโกเล่จะดีกว่านะ 
*เสียงนั่งเก้าอี้*
รุกิ : อย่ามีปัญหากับของกินที่ทำน่า ...เดิมทีแล้วพวกเราไม่มีความจำเป็นต้องกินเลยแท้ ๆ แต่ก็ยังกินนะ
โคว : ก็นั่นน่ะสินะ นอกจากนั้นถ้าขืนบ่นละก็คงถูกลงโทษแน่เลยเนอะ 

*เสียงนั่งเก้าอี้*
รุกิ : ...เอ้า ทุกคนก็มานั่งกันพร้อมเพรียงแล้วนะ ...คืนนี้มาก็ทานด้วยความซาบซึ้งในกรุณาของท่านผู้นั้นกันเถอะ

โคว : ทานละนะคร้าบ 
ยูมะ : ขอทานละนะ
อาซึสะ : ขอทาน... เลยนะครับ

*เสียงหยิบช้อน*

รุกิ : เป็นไง คาชิคุ ...อร่อยมั้ย ?

(ยุยบอกอะไรสักอย่าง)
รุกิ : งั้นเหรอ งั้นก็ดีแล้ว ...พอเรียกเธอมา ก็ฝึกทำตั้งแต่เช้าเลยล่ะ

(ยุยบอกอะไรสักอย่าง)
รุกิ : ฮึ ...ถ้าได้ทานพร้อมกับทุกคนคงดีก็เลยมางั้นเหรอ ...ที่จริงแล้วอยู่คนเดียวที่คฤหาสน์หลังนั้นคงเหงาสินะ ?
รุกิ : พูดออกมาตามตรงก็ได้ ...ถึงจะบอกว่าเป็นพวกแวมไพร์โหดร้ายมากมายขนาดแค่ไหน แต่ถ้าได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาเป็นปี ก็พอจะเข้าใจโครงสร้างของความรู้สึก
      ...แต่เดิมแล้ว เจ้าพวกแวมไพร์จะมีความรู้สึกยังไงกับเธอก็ไม่เข้าใจหรอกนะ ...แต่สิ่งที่เรียกว่ามนุษย์น่ะก็เป็นแบบนั้นล่ะ

รุกิ : การใช้เวลาร่วมกันน่ะ กล่าวได้ว่าทำให้สัตว์ที่เลี้ยงไว้กินแปรเปลี่ยนเป็นสัตว์เลี้ยงเป็นแบบนั้นเพียงอย่างเดียวเลย

*เสียงหยิบช้อนส้อม*

โคว : หรือนั่นก็คือ ...รุกิคงก็อยากจะพูดว่าเป็นแบบนั้นเหมือนกันเหรอ ?
รุกิ : แค่พูดยกตัวอย่างเท่านั้น ...ยิ่งไปกว่านั้น โคว ! อย่าพูดตอนมีของกินอยู่ในปากสิ
โคว : ไม่เห็นต้องเฉไฉเลยนี่น่า 
*รุกิวางช้อน*
รุกิ : ฉันน่ะ ... เปล่า ...ป่านนี้แล้วไม่มีอะไรต้องเฉไฉแล้วนี่น่า
รุกิ : คาชิคุ... ฉันเป็นห่วงเรื่องของเธอนะ ... ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียว ...ทุกคนด้วยนะ

(ยุยบอกอะไรสักอย่าง)
โคว : ไม่ต้องพูดขอบคุณฉันถึงขนาดนั้นก็ได้น่า ...ก็ ให้เด็กผู้หญิงอยู่บ้านผีสิงพรรค์นั้นคนเดียวมันก็ ... ไม่ว่าจะคิดยังไงมันก็ไม่ใช่สถานการณ์ที่ดีเลยใช่มั้ยล่ะ ?

รุกิ : คืนวันจันทรคราสใกล้เข้ามาแล้วด้วยสินะ 

อาซึสะ จันทรคราส ?

รุกิ : เมื่อก่อนเคยได้ยินจากท่านผู้นั้นมา "คืนวันจันทรคราส" นั้น จะเกิดเรื่องที่ต่างไปจากปกติบ้าง หรือทำเรื่องที่ต่างไปบ้าง น่ะ ...พวกเราเหล่าแวมไพร์ที่ได้รับผลกระทบจากดวงจันทร์ง่าย จะต้องคอยเฝ้าระมัดระวังให้ดี
      ยิ่งไปกว่านั้น ...จันทรคราสในคราวนี้ต่างไปจากจันทรคราสปกติ ...ต้องระวังให้เป็นพิเศษเลยล่ะ 

รุกิ : ที่เรียกเธอมาแบบนี้ก็ด้วย ...อะ ...เปล่า ...มันเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวอะไรกับตอนนี้หรอก

โคว : อืมมมม ...ที่ว่าจันทรคราสในคราวนี้มันพิเศษออกไปน่ะ เป็นเพราะต่อจากที่โลกปีศาจมีจันทรคราส โลกมนุษย์ทางนี้เองก็เข้าสู่ช่วงของจันทรคราสต่อเลยอย่างนั้นสินะ ?

รุกิ : เป็นความบังเอิญที่นาน ๆ จะมีทีละมั้ง ... แต่ถึงจะพูดแบบนั้น ...สำหรับพวกเราเผ่าพันธุ์แวมไพร์ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบของจันทรคราสได้ ...ยิ่งช่วงระยะเวลานานแค่ไหนมันก็ยาวนานเท่านั้น ...หมายความว่าสถานการณ์ที่อันตรายมันมีต่อ ๆ ไปไงล่ะ

ยูมะ : รู้สึกอย่างกับจะมีอะไรเกิดขึ้นมากมายเลยแหะ

รุกิ : ถ้าเป็นแค่ลางสังหรณ์ได้ก็ดี ... แต่ว่า ลางสังหรณ์นั่นกลายเป็นเรื่องจริงไปแล้ว

อาซึสะ : เรื่องที่ คุณอายาโตะ ... ถูกหมาป่าเล่นงานเอาเหรอ ?

รุกิ : ใช่ ...ถึงจะพูดแบบนั้น พวกหมาป่าที่ป๊วนเปี๊ยนอยู่รอบเมืองน่ะ จะอ้างว่าเป็นพวกเผ่าพันธุ์หมาป่าก็ไม่ได้นี่ 

โคว : เอ๊ะ ? งั้นเหรอ ? หือ ? อะไรเหรอ เอ็มเนโกะจัง ?

(ยุยบอกอะไรสักอย่าง)
โคว : เห...พวกบ้านซาคามากิคิดว่าหมาป่าพวกนั้นเป็นอะไรสักอย่างจากโลกปีศาจ ...นั่นก็หมายความว่า ต้องเป็นฝีมือของพวกเผ่าหมาป่าอย่างที่คิดจริง ๆ สินะ ? ...แต่ถึงรุกิคุงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ...
โคว : นี่รุกิคุง ทำไมถึงสามารถพูดชี้ชัดลงไปว่าไม่ใช่ล่ะ ? ที่นายพูดแบบนั้นออกมาก็หมายความว่า มันต้องมีเหตุผลที่มากกว่านั้นสินะ ?
รุกิ : ไหวพริบดีไม่เลวเลยนี่น่า โคว
ยูมะ : อะไรกัน ทำเป็นวางมาดไปได้
รุกิ : ...เป็นเรื่อง ในอดีตตอนที่พวกเราอาศัยอยู่ในที่พักของท่านคาร์ลไฮนซ์ "เอเดน" น่ะ

รุกิ : พวกนายเองก็ช่วยนึกขึ้นมาหน่อยสิ เรื่องของจันทรคราสคราวก่อน 
อาซึสะ : จันทรคราสคราวก่อน ...มันผ่านมานานขนาดไหนกันแล้วนะ ?
โคว : อ๋อ ..จำได้แล้ว ! ตอนนั้นมีใครมาที่เอเดนด้วย ...เอ่อ ...เอ ว่าแต่ใครมากันนะ ?
ยูมะ : เอ...เอ่อ ...รู้สึกเหมือนว่าเป็นคนที่มีชื่อที่ดูยิ่งใหญ่นะ 
รุกิ : ผู้นำเผ่าพันธุ์หมาป่า ...ท่านก็อดฟรีด ไงล่ะ
โคว : อ่า ! ใช่ ๆ หมอนั่นแหละ ๆ
อาซึสะ : จำได้ว่า ...พอออกไปต้อนรับ ...ก็เจอหมาป่า... ตัวใหญ่สุด ๆ ...ฉัน ... คิดว่าจะถูกกินซะแล้ว ...หัวใจเต้นตึกตั๊กเลย ...
ยูมะ :  หมอนั่นก็เป็นคนของเผ่าพันธุ์หมาป่าสินะ 
รุกิ : ใช่แล้ว ...ท่านคาร์ลไฮนซ์กับท่านก็อดฟรีดเป็นเพื่อนเก่ากัน เพราะงั้นถึงได้ถูกเชิญไปที่เอเดน
ยูมะ : อ๋อ อย่างนี้นี่เอง เท่านี้ก็เข้าใจดีแล้วล่ะ ...หรือก็คือ ทั้งสองคนสนิทกันดี ด้วยเหตุนั้นหมาป่าจึงไม่มีทางเข้าเล่นงานแวมไพร์ได้ รุกิพูดแบบนั้นสินะ ?
รุกิ : ใช่
อาซึสะ : งั้น ...เรื่องในคราวนี้ ... ที่มาเล่นงานคุณอายาโตะคือ ?
รุกิ : อย่างน้อย ๆ ก็คงไม่ใช่เผ่าหมาป่าที่ท่านก็อดฟรีดปกครองอยู่หรอกมั้ง
โคว : เอ๋ ? ถ้างั้น เป็นใครกันล่ะ ?
ยูมะ :  หรือว่า ... ไม่ใช่ว่าเป็นอย่างที่อาซึสะพูด เป็นเจ้าพวกหมาป่าในอาณาจักรสัตว์จากภูเขาออกมาหรอกเหรอ ?
รุกิ : อ่า ...เปล่า ...ไม่คิดว่าพวกซาคามากิไม่น่าจะโง่พอที่จะจำผิดหรอกนะ
อาซึสะ : งั้นก็หมายความว่า ...หมาป่า ...ถึงจะไม่ใช่พวกที่เรียกกันว่าเป็นพวกเผ่าพันธุ์หมาป่า ...แต่ว่าเป็นของจากโลกปีศาจ ?
โคว : ไม่เห็นจะเข้าใจเลย
โคว : โอ๋ ! ...ขอรับเนื้อชิ้นโตของเอ็มเนโกะไปล่ะ ! 
ยูมะ :  อ๊ะ เจ้าบ้า ! ฉันอุตส่าห์เล็งไว้อยู่แท้ ๆ
อาซึสะ : อีฟ ...ยกของฉันให้นะ ...ทานเยอะ ๆ นะ 
(อาซึสะน่ารักมาก >w<)
อาซึสะ : เอ้า ...อีฟ ..."อ้าม" สิ ... เนื้อของฉัน (**)... อร่อยนะ ...ใส่ shichimi ให้เยอะ ๆ แล้วด้วย... 
**โควกับยูมะเถียงกันแย่งของกินด้านหลัง
โคว : อ๊ะ อาซึสะคุง เอาเนื้อชิ้นนั้นไปแบบนั้นไม่ได้นะ !
ยูมะ : ไม่สนเฟ้ย เจ้าคนที่ปล่อยอาหารของตัวเองถูกแย่งไปนั่นล่ะผิด ! เอ้า !
ยูมะ : นี่แน่ะ ! ขอล่ะนะ !
โคว : ฝันไปเถอะ !!
*โควกับยูมะใช้ช้อนส้อมแย่งกัน*

อาซึสะ : เป็นอะไรไปเหรอ ? ทำไม ... ถึงก้มหน้าละ ? ...อ้อ ... งั้นเหรอ ... ฉันป้อนให้ทาน ...คงไม่ได้สินะ  ...คงฝืนบังคับให้ทำ ... สินะ ... เนอะ ...มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว

(ตรงนี้ข้างหลังที่โควกับยูมะพูดฟังไม่ค่อยถนัด ประมาณว่า โควบอกว่า ใครจะยอมยกให้คนอย่างยูมะกัน บลาๆๆๆ)

*เสียงวางแก้ว*

รุกิ : First Blood ...
ยูมะ :  หา!? ว่าไงนะ ? ... อึก ... (ยังแย่งกะโควอยู่)
โคว : ฮึ่ย ... อะไรนะ รุกิคุง ? เมื่อกี้ว่าอะไรนะ ?
รุกิ : พูดว่า First Blood ไงล่ะ
ยูมะ : หา ... เหมือนเคยได้ยินที่ไหนเลย คำนั้น ... First ...บรา ... ? 
(ยูมะออกเสียงไม่ถูก  //บลัด = บุ -รา -โดะ )
โคว : ฮิ ๆ ยูมะคุงลามก เฟิร์ส บลัด หรอก ฮะ ๆ (บุ -ละ -อึ้น -โดะ)
ยูมะ : เอ้ย ! เปล่า ! ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ...
โคว : เปิดช่องว่าง !
ยูมะ : เอ๊ !!?
โคว : อ้ำ !! อื้ม ฮึ ๆ ๆ อื้ม... ว่าแล้วเชียวอาหารของรุกิคุงเนี่ยยอดเยี่ยมที่สุด
ยูมะ : โธ่เว้ย ! เล่นสกปรกนี่ !
รุกิ : ให้ตายสิ ๆ ... ไม่ได้รู้สึกถึงอันตรายกันเลยนะ
อาซึสะ : นี่ รุกิ ... First Blood เนี่ย .. คืออะไรเหรอ ?
(ยุยทำอะไรสักอย่าง)
อาซึสะ : อื๋อ ? อีฟเอง ...ก็รู้จักเหรอ ?
รุกิ : อย่างนั้นเหรอ คาชิคุ ?
(ยุยบอกอะไรสักอย่าง)
รุกิ : ถ้างั้นก็คุยกันได้เร็วขึ้น

รุกิ : หากจำแนกตามเผ่าพันธุ์ในโลกปีศาจเป็นหมวดใหญ่ ๆ แล้ว สามารถจำแนกได้ 4 ประเภท งู นกอิทรีย์ หมาป่า และพวกเรา ค้างคาว ไงล่ะ
       แต่ละชนิดถูกเรียนขานด้วยชื่อ Vibora(งูพิษ), Adler(นกอินทรีย์), Wolf(หมาป่า), Vampire(แวมไพร์)
       สิ่งที่เรียกว่า First Blood ก็คือ วงศ์ตระกูลหนึ่งที่มีสายเลือดของเผ่าทั้งสี่ที่ว่านั่นอยู่ทั้งหมด ...เดิมทีแล้วสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลกปีศาจนั้น ...ก็มาจากเลือดของพวกเขา First Blood ด้วยกันทุกตัว ... และถูกเรียกว่า "ต้นตระกูล"

ยูมะ : อ่า...หรือว่า มีเลือดของหมาป่าอยู่ก็หมายความว่า...พวกนั้นกลายร่างเป็นหมาป่ามาเดินป้วนเปี้ยนแถวนี้เหรอ 
รุกิ : ฉันเองก็ไม่รู้รายละเอียดเหมือนกัน
รุกิ : แต่ยังไงซะ ... แค่เคยอ่านเจอห้องหนังสือของท่านคาร์ลไฮนซ์ที่มีการจดบันทึกรายละเอียดไว้เท่านั้นเอง

ยูมะ : มีความเป็นไปได้ว่าเจ้าพวกนั้นแปลงร่างมาสินะ 

รุกิ : ได้ยินมาว่าพวกเขา ถูกกักขังอยู่ในปราสาทของพวกเขาที่อยู่ใต้ก้นบึ้งของโลกปีศาจ เมื่ออดีตนานมาแล้ว และถูกดูแลทางเข้าออกอย่างเข้มงวด
       เนื่องจากพยายามที่จะทำการควบคุมปกครองผู้อ่อนแอในโลกปีศาจ จึงถูกเหล่าเผ่าพันธุ์ในโลกปีศาจที่รวมกันเป็นพันธมิตรกันเข้าเทียมพลังได้ โดยมีท่านคาร์ลไอนซ์เป็นแกนนำ .... แบบนั้นล่ะ

โคว : อื๋อ ... ? หรือก็คือ ...ทำรัฐประหารเหรอ ? (coup d’état)

รุกิ : เปล่า ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ...เดิมทีแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้ถูกเรียกว่าเป็นราชาผู้ปกครองโลกปีศาจหรอก ...ตัวตนที่เรียกกันว่า "จอมราชาปีศาจ" เอง เห็นว่าตั้งแต่ก่อนเกิดข้อพิพาทนั้นขึ้นก็ไม่มีอยู่แล้ว

อาซึสะ : งั้น... ที่เรียกกันว่า "ราชาปีศาจ" ในตอนนี้ ... เกิดขึ้นมา ... หลังจากการต่อสู้ ... นั้น ...อย่างนั้นสินะ ?

รุกิ : สรุปก็คือ ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในคณะที่ทำการต่อต้านตระกูลนั้นน่ะ ...แล้วอีกอย่าง เรื่องทั้งหมดฉันก็เอามาจากหนังสือที่อ่านล่ะนะ 

โคว : งั้นก็หมายความว่า ... เอ่อ ..ที่เรียกว่า First Blood นั่น ที่ได้ออกมาที่โลกนี้ กลายร่างเป็นหมาป่าแล้วเล่นงานเจ้าพวกนั้นมีความเป็นไปได้ว่าต่ำสินะ ? ...ถึงจะไม่รู้ว่าที่ว่าก้นบึ้งของโลกปีศาจเป็นยังไงก็เถอะ ...แต่อย่างน้อย ก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ที่ที่จะเข้าออกง่ายดายขนาดนั้นเลยล่ะ 

รุกิ : ใช่ ...แต่พวกนั้นก็มีเหตุผลที่จะเล่นงานพวกซาคามากิอยู่หรอก
ยูมะ : รู้สึกมันพัวพันกันยุ่งไปหมดเลยแหะ ... แล้วไง ?  แล้วสุดท้ายเจ้าหมาป่าที่อยู่ในเมืองนี้ แล้วเล่นงานอายาโตะคืออะไรกันแน่เล่า ? เป็นพวกเผ่าหมาป่าที่อยู่นอกเรื่องหรืออะไรรึไง ?
รุกิ : ความเป็นไปได้แบบนั้นก็ตัดไปไม่ได้ด้วย
อาซึสะ : คงมีแต่ต้อง ...จับมาแล้วสืบดู ... หรือเปล่านะ ?
รุกิ : ก็นะ คงมีแต่ต้องทำแบบนั้นเป็นอย่างสุดท้ายแล้วล่ะมั้ง

*เสียงรุกิลุกขึ้นยืน*
ยูมะ : เฮ้ รุกิ ยังคุยกันไม่จบเลยไม่ใช่เหรอ ?
รุกิ : มีเรื่องต้องคุยกันไปมากกว่านี้อีกเหรอ ?
ยูมะ : ก็เรื่องที่เจ้าหมาป่าพวกนั้นคิดจะทำอะไรน่ะสิ
รุกิ : ไม่มีคำสั่งอะไรจากท่านผู้นั้น ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราจะเสนอหน้ากันตามใจชอบได้หรอก
ยูมะ : เสนอหน้าเหรอ ...ถ้าไม่ได้สั่งอะไรมาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลยเหรอพวกเราน่ะ 
โคว : ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะนะ พอคิดเรื่องที่อายาโตะคุงโดนเล่นงานแล้ว ต่อให้พวกเราจะออกไปก็ไม่มีความหมายอะไรไม่ใช่เหรอ ?
ยูมะ : ก็อย่างน้อยที่สุด เจ้าพวกนั้นเก่งกว่าพวกเราอีกนะ 
รุกิ : เดี๋ยวก่อน ยูมะ อย่าตัดสินเอาเองสิ เรื่องที่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีคำแนะนำน่ะ ...ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น มันอาจจะเป็นเรื่องที่หวนคืนมาไม่ได้แล้วก็ได้
อาซึสะ : รุกิ ...กำลัง ... กลัวอะไรอยู่เหรอ ?
รุกิ : ไม่ใช่ว่ากลัวอะไรอยู่สักหน่อย ...เพียงแต่ ...ไม่หลีกเลี่ยงเรื่องการทำให้ตารางเวลายุ่งเหยิงไม่ได้
โคว : หือ ? อะไรล่ะนั่น ? 
รุกิ : คาดว่า ทุกสิ่งทุกอย่างจะอยู่ในการคำนวนของท่านผู้นั้น ... ทั้งเรื่องที่ลูกชายคนที่ 3 ของแฝดสามผู้โชคร้ายที่ถูกหมาป่าเล่นงานเอาด้วยนะ
ยูมะ : เฮ่อ ... ให้ตายสิ ๆ คิดอะไรอยู่กันนะ ท่านคาร์ลไฮนซ์น่ะ
อาซึสะ : ก็ไม่รู้หรอก ...แต่ว่า ...ถ้าพูดว่าท่านผู้นั้น ...คอยควบคุมอยู่ล่ะก็ ...คงไม่ผิดแน่ น่ะ
อาซึสะ : นี่... อีฟเองก็คิดแบบนั้นสินะ ? ...จะต้อง ... เป็นแบบนั้นแน่
รุกิ : ยังไงก็ตาม ยูมะ แล้วโควกับอาซึสะด้วย อยู่กับคาชิคุเผื่อเอาไว้ก่อนด้วยล่ะ ...จะทำอะไรตามอำเภอใจซ้าเดิมไม่ได้ ...เพียงแต่...คอยเฝ้าระวังไว้เท่านั้นล่ะ
โคว : คร้าบบบบ
ยูมะ : รู้แล้วน่า ให้ตายสิ

*เสียงลุกขึ้นยืน*
อาซึสะ : อีฟ ? เป็นอะไรไปเหรอ ? ...อยู่ ๆ ก็ลุกขึ้นแบบกระทันหัน ...จะกลับเหรอ ?

โคว : ถ้าเป็นเรื่องทางคฤหาสน์นั่นล่ะก็ไม่เป็นไรหรอกนะ ...เมื่อกี้ก็บอกไปแล้วนะ อาซึสะคุงทิ้งปีศาจรับใช้เอาไว้แล้วด้วย ...แล้วนอกจากนั้น มันมืดแล้วด้วย อาจจะเจอหมาป่าในระหว่างทางกลับก็ได้นะ

ยูมะ : จริงด้วย ๆ เจ้าพวกนั้นมีนิสัยออกหากินตอนกลางคืนด้วยนี่นะ อย่าออกไปเดินตุ่มตุ่มจะดีกว่า

อาซึสะ : อีฟ ...พักอยู่ที่นี่เถอะ ...นะ ? ...ห้องของเธอเอง ...ก็ยังอยู่ด้วย

รุกิ : คาชิคุ พักที่นี่น่ะดีแล้ว ไม่ต้องเกรงใจหรอก...นอกจากนั้น ถึงเธอจะกลับไปที่คฤหาสน์ ก็ใช่ว่าเจ้าพวกนั้นจะกลับมาแล้ว 

รุกิ : แต่ถ้ายังจะบอกว่าจะกลับ พวกเราก็ต้องพาไปส่งอยู่ดี เรื่องแบบนั้นมันเสียแรงนะ

(ยุยบอกอะไรสักอย่าง)

โคว : ไชโย ! ได้อยู่ใต้หลังคาเดียวกับเอ็มเนโกะจังทั้งคืนแล้ว !

รุกิ : ทำแบบนั้นเถอะ ..อ่า ...เรื่องเก็บกวาดให้ฉันจัดการเอง เธอไปที่ห้องเถอะ 
รุกิ : อาซึสะ ..ช่วยนำทางไปที
อาซึสะ : อื้ม ...เข้าใจแล้ว ... งั้น อีฟ ...กันกันเถอะ 

*เสียงอาซึสะพาเดินไป*


(❤❤❤ บ่นบลาๆๆๆ : *คาชิคุ* ขอไม่แปลนะคะ เพราะไม่คิดว่าจะหาคำเฉพาะได้ 
เรียกปศุสัตว์มันก็ไม่เชิงว่าจะใช่ สัตว์เลี้ยงก็ไม่ผิดแต่ก็ไม่ค่อยถูก 
หมือน ๆ กับเป็น สิ่งมีชีวิตที่ถูกเลี้ยงไว้เป็นอาหารมากกว่า)
-------------------------------------------------------------------------

Track 3 不吉の予兆 (ลางบอกเหตุร้าย)

*เสียงเดิน + เปิดประตู*

รุกิ : หือ ? คาชิคุ เป็นอะไรไป ?

(ยุยบอกอะไรสักอย่าง)

รุกิ : ฮึ นอนไม่หลับเหรอ ? เธอค่อนข้างละเอียดอ่อนนี่นะ หรือไม่ก็ ...อย่าที่คิดเลย เป็นห่วงเจ้าพวกนั้นสินะ ?

(ยุยทำอะไรสักอย่าง)

รุกิ : *เฮ่อ* ...ถูก ...สินะ ?

*รุกิเดินไปจับยุย*

รุกิ : มาทางนี้ ...ถ้าอยู่แบบนี้ คงลบความกังวลไปได้สักนิดใช่มั้ยล่ะ (กอดมั้ง ?)

รุกิ : เธอเนี่ย ...หัวใจคงถูกเจ้าพวกนั้นทำให้หลงไปแล้วสินะ 

(ยุยบอกอะไรสักอย่าง)

รุกิ : ไม่ใช่ ? ไม่ต้องปิดบังฉันหรอกน่า ...ให้ฉันพูด ...ความในใจของเธอออกมามั้ย ?

รุกิ : เธอน่ะทำไมถึง ไม่ว่าเมื่อไหร่ ๆ ...ก็ทำให้ฉันหงุดหงิดขึ้นมาถึงขนาดนี้เสมอ

รุกิ : พฤติกรรมของเธอที่เป็นห่วง เป็นกังวลเจ้าพวกซาคามากินั่นน่ะ ...ไม่ว่ายังไง ...ก็คิดรังเกียจขึ้นมาทุกที

รุกิ : เธอที่มีความรู้สึกให้พวกนั้น ...ฉันนึกสงสารจับจิตเลย ... ทั้งที่เจ้าพวกนั้น ... ไม่เคยใส่ใจเธอเลยแท้ ๆ

รุกิ : ...จริงด้วย ... การใส่ใจน่ะ ... อึก ...

รุกิ : พวกสิ่งมีชีวิตในโลกปีศาจน่ะไม่มีความรู้สึกหรอก มันก็หมายความว่าทุกอย่างมันไร้สูญเปล่าไงล่ะ

(ยุยบอกอะไรสักอย่าง)
รุกิ : พอสักที เธอเองก็น่าจะรู้สึกถึงเรื่องนั้นนี่น่า ...แต่ว่าก็ไม่สามารถที่จะลบความรู้สึกนั้นทิ้งไปได้

รุกิ : ...ถ้าสามารถตัดสิ่งนั้น ด้วยเขี้ยวนี้ของฉันได้ล่ะก็ ...ก็อยากจะทำแบบนั้น ...*กัด*

*ดูดเลือด*
รุกิ : *ฮ่า* ... *ดูดเลือด* ... *ฮ่า* 

รุกิ : ฉันดันทำเรื่อง ที่ไม่น่าดูออกไปนิดหน่อยซะได้ ...คงดูไม่ได้เลยสินะ ...ที่ดันไปอิจฉาเจ้าพวกนั้นได้น่ะนะ 

*รุกิขยับ*
รุกิ : ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจความรู้สึกหรอกนะ แต่คฤหาสน์หลังนี้ปลอดภัย ...พวกหมาป่าเองก็คงจะเข้ามาที่นี่ไม่ได้ล่ะมั้ง

โคว : เจอตัวแล้ว~
รุกิ : โคว !? ... เฮ่อ มาทำอะไรดึกดื่นป่านนี้ ?
โคว : ฮะ โทษที ๆ ทำให้ตกใจซะแล้ว ก็ไม่ได้ตั้งใจหรอกนะ แต่ฉันเองก็นอนไม่หลับยังไงก็ไม่รู้สิ เลยแค่อยากจะออกมาสูดอากาศข้างนอกเท่านั้นล่ะแต่ว่า ...ไม่นึกว่าจะได้เห็นฉากในละครแบบนั้นจากรุกิคุงน่ะนะ ...
รุกิ : *เฮ่อ* ...อย่ามาล้อกันเล่นน่า
โคว : ไม่ได้ล้อเล่นสักหน่อยนะ ถ้าเกิด ... ฮึ ...รู้สึกโล่งใจยังไงก็ไม่รู้ ...เนอะ เอ็มเนโกะจังก็คิดแบบนั้นใช่มั้ยล่ะ ? 
รุกิ : หมายความว่ายังไง ?
โคว *เฮ่อ* ... รุกิคุงที่ปกติจะเยือกเย็น พออยู่ในสถานการณ์แบบนี้แล้ว ก็คงคิดอะไรหลาย ๆ อย่างเหมือนกันน่ะ ...นะ
รุกิ *เฮ่อ* ...ก็แค่ล้อกันเล่นอย่างที่คิดเลยไม่ใช่เหรอ ?
โคว : ก็บอกว่าไม่ใช่ไงล่ะ ...*เฮ่อ*... ยิ่งไปกว่านั้นนะ รุกิคุง ...ขอร้องล่ะ ...ขอฉันดูดเลือดของเอ็มเนโกะจังหน่อยสิ ...เพราะถูกรูกิคุงดูดเลือดผู้หญิงคนนี้เลย ... *สูดหายใจเข้า* ...ตอนนี้มีกลิ่นหอมสุด ๆ เลย ...

โคว *เลียริมฝีปาก* ...ทนไม่ไหวเลยล่ะ ... ไม่ได้ ... อดทนไม่ได้แล้ว ...
รุกิ : เฮ้ โคว !

โคว *ดูดเลือด*

โคว : แฮะ ... ขออีกหน่อยนะ ...*ดูดเลือด* .. อึ๊ก ... *ฮ่า* 

โคว : ...เอ้า รุกิคุงก็ด้วย ...เมื่อกี้ได้ดูดไปแค่นิดเดียวเองไม่ใช่เหรอ ? ...*ดูดเลือด*

รุกิ : อย่ามาชักนำกันน่า 

โคว : เอ๋ ? ... ดูสิ ๆ เอ็มเนโกะจังก็เป็นขนาดนี้ ..ฮิ  ดูไม่พอใจอยู่นะ ฮิ ๆ ...*ดูดเลือด* ... เอ้า เลือดออกถึงขนาดนี้แล้วแท้ ๆ ..*เลีย* ... เสียของเปล่า ๆ

รุกิ : โคว อย่าได้ใจไปน่า

*เสียงรุกิจับยุย*

รุกิ : คาชิคุ อย่าถูกโควยั่วยวนไปสิ ... เธอน่ะ มองมาที่ฉันซะ ...*กัด* ...*ดูดเลือด*

รุกิ *ดูดเลือด* ... *ฮ่า* ...แฮ่ก ๆ ... เรื่องที่ฉันทำลงไปมัน ...*อ้าปาก* *ดูดเลือด*

โคว : ก็แค่ผ่อนลงสักหน่อยไม่ได้เหรอ ? รุกิคุงเอาจริงจังเกินไปจากปกติแล้วนะ ...เนอะ ? รีแล็กซ์หน่อยสิ 

รุกิ : อึก ! ... หรือว่านาย ...ตั้งใจเอาไว้ ?

โคว : หือ ? เรื่องอะไรเหรอ ?

รุกิ *เฮ่อ* ...ให้ตายสิ ... ยังเหมือนเดิมสินะ ...ฉันเองก็ด้วย ... ฮึ !

*โยนยุย*
โคว : โอ๊ะโอ๋ ! ... รุกิคุง เสร็จแล้วเหรอ ? 

รุกิ *เฮ่อ* ....วันนี้เซงแล้ว ... จะนอน

*รุกิเดินไป*

โคว : ไปซะแล้ว ทำเกินไปรึเปล่านะ ? ...แฮะ คงเป็นห่วงสินะ ? รุกิคุงตอนนี้ดูเหมือนหงุดหงิดกลัวอะไรอะไรอยู่เลย ... หรือเพราะว่าข่าวลือที่ว่ามีหมาป่าออกมาในเมืองกันนะ

โคว : อาจจคิดอะไรอยู่ในใจก็ได้ รู้สึกเหมือนกำลังเครียดอยู่เลยล่ะ ...โทษทีนะ เอาเธอเข้ามาพัวพันด้วยซะแล้ว ..ฮึ แต่ว่า รู้สึกดีใช่มั้ยล่ะ ? 

โคว : ...อะ เป็นอะไรมั้ย ? เลือดยังไหลออกมาอยู่เลยนะ อาจจะทำเกินไปหน่อยก็ได้ ...เอ่อ แต่จะว่าไป กลิ่นเลือดตลบอบอวลไปทั่วเลยนะ ...มีกลิ่นมากขนาดนี้ถ้าเกิดพวกหมาป่าได้กลิ่นขึ้นมา ...

---- โบร๋ววววว 

โคว : โอ๋ ... จังหวะพอดีเป๊ะเลย เข้าไปข้างในเถอะ คิดไว้เผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันน่ะ 

*เดินเข้าข้างใน*

โคว : ถึงจะบางทีก็เถอะ ...พวกหมาป่าน่ะไม่ดูดเลือดไม่เหมือนกับพวกเรา ที่ตามกลิ่นเหลือกมาน่ะก็เพื่อกินเนื้อไงล่ะ ...อย่างเธอน่ะ คงถูกพวกหมาป่ากินหมดในพริบตาเลยล่ะนะ ฮิ ๆ

*เดินเข้าข้างใน*
---แกร๊ก 
*เปิดประตู*
*ปิดประตู*

โคว : ว่าแล้วเชียว มีบางอย่างเกิดขึ้นสินะ ...พอคิดแบบนั้นแล้ว เอ็มเนโกะจังกลัวรึป่าว ?

(ยุยบอกอะไรสักอย่าง)

โคว : ถึงจะไม่รู้ว่าพวกหมาป่านั่นมีจุดประสงค์อะไรก็เถอะ 

*ยุยล้ม*
โคว : โอ๊ะโอ๋ !? *โควรับ* ...เป็นอะไรมั้ย ?

*เสียงของหล่น*
โคว : อ๊า-- จนได้สิ ถังขยะล้มจนได้ โชคร้ายชะมัด ฮึบ ... 

*โควเก็บขยะ*
โคว : เพราะแบบนี้ รุกิคุงถึงได้วางถังขยะเอาไว้ทั่วบ้านเลยสินะ ...ฮึบ

*โควตั้งถังขยะกลับคืน*
โคว : แต่จะยังไงก็เป็นเพราะฉันชอบโยนโน่นโยนนี่ทิ้งไปทั่วน่ะนะ ...เพราะงั้นขนาดที่มุมบันไดแบบนี้ก็ยังมีถังขยะวางไว้ ... หือ ? ..*โควหยิบกระดาษ*

โคว : ... นี่มัน ... *เสียงคลี่กระดาษ* ... จดหมาย ? ทำไมถึงถูกเอามาทิ้งไว้ตรงนี้ได้ล่ะ ? อีกอย่าง มันยับยู่ยี่แล้วก็ไหม้อยู่ซะด้วย ... อื้ม ...จะอ่านเนื้อหารู้เรื่องมั้ยเนี่ย ... อ๊ะ ! นี่มันจากเรย์จิคุงนี่ !

โคว : เธอจะดูด้วยมั้ย ? เอ้า เชิญ ..ถึงจะอ่านออกยากไปแต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีอะไรสำคัญเขียนไว้

*ยุยรับกระดาษ*

โคว : นี่ ... รุกิคุงเป็นคนเผาทิ้งรึเปล่านะ ? แต่ก็คิดเป็นอื่นไม่ได้เลยนะ ...เพราะอย่างนั้นรุกิคุง ถึงได้ให้ไปรับตัวเธอมา ... แต่จะว่าไป เกินคาดเลยนะ พวกซาคามากิเอง ...เรื่องของเธอ ...

*ยุยขยำกระดาษ*

โคว : เอ็มเนโกะจัง ? เป็นอะไรไปน่ะ ? ตัวสั่นมากเลยนะ ...

*ยุยวิ่ง*

โคว เอ็มเนโกะจัง !? ..อ๊า ! เดี๋ยว ...เดี๋ยวก่อน รอก่อนสิ ! เอ็มเนโกะจัง !

*ยุยเปิดประตู*

โคว : ...อ๊า เป็นอะไรไปล่ะเนี่ย ? ไม่เห็นจะเข้าใจเลยนะ


(❤❤❤ บ่นบลาๆๆๆ : ว๊าก สองคนนี้ ดูดเลือดแล้วจะหอบทำมายเนี่ย !?)
-------------------------------------------------------------------------

Track 4  仕掛けられた罠 (กับดักที่ถูกจัดเตรียมขึ้น)

*เสียงนกร้องตอนเช้า*
โคว : ...ก็อย่างที่ว่ามา เอ็มเนโกะจังดูแปลกไปนิดหน่อยล่ะ ...
        ว่าแล้วเชียวเป็นเพราะฉันทำไม่ดีลงไปรึป่าวนะ ที่อยู่ ๆ ก็ไปดูดเลือดเข้าน่ะ

ยูมะ : นายที่รีบมารายงานเรื่องนั้นให้ฉันฟังในทันทีที่ตื่นเนี่ย ฉันก็คิดว่าแปลกเหมือนกันล่ะ ...ฮ้าวว~ (เสียงเพิ่งตื่น)

โคว : ก็เพราะว่า ! ก็ฉันคิดว่าถ้าเกิดเอ็มเนโกะถูกผลกระทบของจันทรคราสจนแปลกไปเหมือนกันล่ะ..น่ะสิ

ยูมะ : เจ้าโง่ ! จันทรคราสของโลกฝั่งนี้ยังไม่ได้เกิดขึ้นสักหน่อยนะ แต่ทางโลกปีศาจอาจจะอยู่ในช่วงกลาง ๆ ก็ได้มั้ง ...ยิ่งไปกว่านั้นยัยนั่นเป็นมนุษย์ไม่ใช่เหรอ ? 

โคว : แต่จะว่าไป จันทรคราสเนี่ย ใช้เวลานานขนาดนั้นเลยเหรอ ?

ยูมะ : โลกปีศาจน่ะช่วงกลางคืนกับกลางวันมันยาวนานต่างกับทางนี้ไม่ใช่เรอะ ?

โคว : อ๋อ~ จะว่าไปก็ใช่เนอะ ... อะไรกัน ยูมะคุงเนี่ยหัวก็ดีเหมือนกันนี่น่า

ยูมะ : หา !? ...นี่แกอยากถูกอัดรึไง ? 

อาซึสะ ฮ้าวว~ 

โคว : อาซึสะคุง อรุณสวัสดิ์ ! กำลังจะถูกยูมะคุงอัดอยู่เลย มาช่วยไว้พอดีเลย 

อาซึสะ : ทะเลาะอะไรกัน ... ตั้งแต่เช้าเหรอ ?

ยูมะ : ก็ เรื่องนั้นน่ะนะ ...

*เสียงเดินนอกห้อง*

รุกิ : อยู่ ๆ ก็มาพูดอะไร ? เรื่องพรรค์นั้น ...ไม่มีทางอนุญาตอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ? 

---แกร๊ก 
*เปิดประตู*

รุกิ : โอ๊ะ !

โคว : หือ ? รุกิคุง อรุณสวัสดิ์ เอ็มเนโกะจังก็ด้วย เกิดอะไรขึ้นเหรอ ? ดูเหมือนกำลังจะมีปัญหาอะไรอยู่เลยนะ 

อาซึสะ : อีฟ ...ตาแดงไปหมดเลยนะ ... เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ ?

ยูมะ :  อ่า หรือว่าจะเป็นไอ้นั่น ... ที่โควพูดเมื่อกี้สินะ

โคว : กังวลเรื่องจดหมายที่ไหม้เมื่อวานนี้เหรอ ?

รุกิ : ... พวกนาย ...อ่านจดหมายนั่นแล้วเหรอ ?

อาซึสะ : จดหมาย ? ...เรื่องอะไรเหรอ ?

ยูมะ : เจ้าพวกซาคามากิ บอกว่าให้ช่วยดูแลยัยผู้หญิงคนนั้นในระหว่างที่พวกตัวเองไม่อยู่น่ะ ...ดูเหมือนจะส่งจดหมายมาหารุกิน่ะ 

อาซึสะ : พวกคุณซาคามากิน่ะเหรอ ? ... แปลกจังเลยนะ

รุกิ : ให้ตายสิ ฉันเผอเรอจนพลาดไปสินะ น่าจะเผาให้กลายเป็นถ่านไปให้เรียบร้อย ... *เฮ่อ*

รุกิ : เธอ บอกว่าให้ช่วยพาไปที่โลกปีศาจเดี๋ยวนี้เลยน่ะ

โคว : เอ๋ !?

ยูมะ : ตอนนี้เลยเรอะ ? นี่เธอทำไมถึงยัง --
อาซึสะ : อีฟ ...ใจเย็น ๆ ก่อนนะ ...ถึงทำเรื่องที่ดูจะไม่ดีลงไป ... มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกนะ ... แน่นอน

รุกิ : ใช่แล้ว ดูเหมือนเธอจะตื่นเต้นเกินไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ เรื่องนั้นยังไงก็พูดได้เพียงไม่มีอะไรเท่านั้น ...

*เสียงยุยดึง-จับ แขน/เสื้อรุกิ แล้วขอร้อง*

ยูมะ : เฮ่อ ...เป็นห่วงเจ้าพวกนั้นมากถึงขนาด ทำอย่างแข็งขันขนาดนั้นเลยสินะ ...เธอเนี่ย

--- ตูม !! *ยูมะทุบกำแพง*
ยูมะ : ป่านนี้แล้วอย่ามาปฏิเสธกันน่า ... เจ้าพวกนั้นมันทำอะไรให้เธอบ้างกัน หา ? ... ไม่แม้แต่จะปฏิบัติกับเธอให้ดี ...แต่การทั่งความอ่อนโยนก็ยังไม่มีให้เลยไม่ใช่เหรอ ? 

ยูมะ : ทั้งอย่างนั้น ... แล้วทำไมถึงได้หลงไหลฝักใฝ่ในตัวเจ้าพวกนั้นนักหา ? 

(ยุยบอกอะไรสักอย่าง)

ยูมะ : ...ถ้าบอกว่านี่ไม่ใช่การหลงไหลฝักใฝ่ล่ะก็ แล้วอะไรคือสิ่งที่เรียกว่าหลงไหลฝักใฝ่อยากจะลองฟังจังเลยนะ หา ?

(ยุยบอกอะไรสักอย่าง)

โคว : มันก็จริง คุณลูกชายคนรองของบ้านซาคามากิที่เป็นแบบนั้นส่งจดหมายมันก็แปลกอยู่นะ ...จะว่าเป็นเรื่องโกหกอะไรหรือเปล่า ..ดูไม่เห็นจะต้องมาขอร้องพวกเราเลยนะ

รุกิ : แต่ว่า ...ตราประทับที่อยู่บนขี้ผึ้งนั่น ไม่ผิดแน่ มันถูกสลักด้วยสัญลักษณ์ของบ้านซาคามากิ

อาซึสะ : เรื่องอย่าง... กับดัก ... อะไรรึเปล่า ?

ยูมะ : !! ...มีใครแอบอ้างชื่อของซาคามากิ แล้ววางแผนส่งผู้หญิงคนนี้มาที่บ้านของพวกเรางั้นเหรอ ?

โคว : เอ๋ !! ทำไมต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะ ? ให้พาเอ็มเนโกะจังมาที่คฤหาสน์ของพวกเราทำไมกัน ?

รุกิ : อ๊ะ ! จะว่าไป ...ตอนที่ลูกคนที่ 3 ถูกจู่โจมก็เหมือนกัน ได้ยินมาว่าผู้หญิงคนนี้ก็อยู่ด้วย

ยูมะ : หา ?

---- โบร๋ววววว 

อาซึสะ  : ..อะ !! ... เสียงหอนของหมาป่า ... ใกล้มากเลย

รุกิ : !! แย่ล่ะสิ ...ที่ฉันทำลงไป ... การที่เอาคาชิคุมาที่คฤหาสน์หลังนี้ ...เป็นกับดัก !

โคว : เอ๊ะ !! หมายความว่ายังไง ?

รุกิ : กลิ่นไงล่ะ ถ้าตามกลิ่นของผู้หญิงคนนั้นมาล่ะก็ จะต้องหาที่อยู่ของพวกเราได้แน่นอน 

อาซึสะ : ...!! จมูกของหมาป่า ... สินะ

รุกิ : ใช้กลิ่นเลือดของผู้หญิงคนนั้นเป็นสัญลักษณ์ ... คาดว่า ... คงคิดจะบุกเข้ามาเล่นงานพวกเราแน่--

--- เพล้ง !!

ยูมะ : มะ- เมื่อกี้มันเสียงอะไรกัน ?

รุกิ : ยูมะ โคว อาซึสะ ! รีบออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลย 

อาซึสะ : แล้วจะ ... ไปที่ไหน เหรอ ?

รุกิ : โลกปีศาจไง ...อาจจะเป็นแผนของใครสักคนที่ทำให้พวกเราต้องเลือกตัวเลือกก็ได้ ... แต่ว่าตอนนี้มีแต่ต้องทำตาม !

รุกิ : เฮ้ ! คาชิคุ ! เธอเองก็มาซะ ... จะพาเธอไปที่โลกปีศาจ ตามที่เธอต้องการไงล่ะ ! 

รุกิ มาสิ !

*รุกิกระแทกประตูพัง*

*วิ่ง*

รุกิ : ถ้าขืนอยู่ที่นี่ ... คงเป็นเหมือนลูกชายคนที่ 3 ...อาจจะถูกหมาป่าขยำเอาก็ได้ 

โคว : อุ... เดี๋ยวก่อนสิ ! ถ้าบอกว่าการพาผู้หญิงคนนี้มาด้วยเป็นกับดักแล้วพาไปด้วยนี่ไม่แย่เอาเหรอ ?

รุกิ : ที่ศัตรูต้องการคือตรงนั้นล่ะ ... ให้พวกเรารู้สึกตัวในเรื่องนั้น แล้วทิ้งผู้หญิงคนนั้นไว้---

--- เพล้ง !!

--- กรรรรรร 

*หมาป่ากระโจนเข้ามาตรงหน้า*

โคว : เหวอ !! 

--- กรรรรรร 
*หมาป่ากระโจนเข้าหาพวกมุคามิ*


*งับ*
(กัดยูมะ)
ยูมะ : !! อั่ก ... อะไรกันเจ้าพวกนี้ ... อั่ก ...อุหว๋า .. ปล่อยนะเฟ้ย ! 

*ยูมะต่อยหมาป่า*
ยูมะ : อึ๊ก ...

*เสียงหมาป่ากัดยูมะ*
อาซึสะ : ... รุกิ !
ยูมะ : หนอย ... แก ... ปล่อยสิเฟ้ย ! ...*ยูมะต่อยหมาป่า* ... ชิ !
รุกิ : อะไรกัน ? .. !!

*เสียงมุคามิสู้กับหมาป่า*

โคว : อ๊า ! เดี๋ยวสิ ... หยุดนะ ! ...อึ๊ก ...โธ่เอ้ย...พวกแก ...อย่ามาล้อกันเล่นนะเว้ย !!
*เสียงโควต่อยกับหมาป่า*

ยูมะ : ชิ ! แย่ล่ะสิ รุกิ ! ... อ๊ะ โธ่เว้ย ! ยุ่งยากชะมัด ... เฮ้ย อาซึสะ !!

อาซึสะ : ...!! อะไรเหรอ ?

ยูมะ : ผู้หญิงนั่น ... ชิ ! เอาไปไกล ๆ ... เร็ว ๆ เข้า !! ...อุก ...

รุกิ : เร็วสิ !!

อาซึสะ : เข้าใจแล้ว ! ... อีฟ ... ถ้าขืนอยู่ที่นี่ต่ออันตรายนะ ...ที่ศัตรูเล็งไว้น่ะ ... คือเธอ ... อย่างที่รุกิบอกไว้ ... ไปกันเถอะ !

โคว : ฝากด้วยนะ อาซึสะ !!

*อาซึสะกับยุยวิ่งหนี*

--- ปึง !!
*เสียงเปิดประตู*

อาซึสะ : แฮ่ก ๆ ... เอ้า ที่นี่ไงล่ะ ... เข้าไปข้างในสิ 

--- ปึง !!
*เสียงปิดประตู*

อาซึสะ : แฮ่ก ๆ ... ประตูบานนี้ ...ไม่ถูกทำลาย ... ง่าย ๆ ขนาดนั้นหรอก ... *หอบ* ...เพราะงั้น สบายใจได้ ... *หอบ* ... นี่ ... อีฟเอง ... ก็สงบใจเถอะนะ ... *หอบ*

*อาซึสะล้ม*
(ถูกหมาป่ากัดเป็นแผล)

อาซึสะ แฮ่ก ๆ ... ถ้าเป็นเรื่องฉันล่ะก็ ... สบายมาก ...*หอบ* ...เป็นห่วง ... พวกรุกิจังเลยนะ ... *หอบ* ... นี่ อีฟ ...มีเรื่อง จะขอร้องน่ะ 

(ยุยบอกอะไรสักอย่าง)

อาซึสะ *หอบ*... ขอเลือด ... สักหน่อยสิ ...ขอโทษนะ *เลีย* ...*ดูดเลือด* ... *ฮ่า* ... อีกนิดนะ ... *ดูดเลือด*

อาซึสะ *ฮ่า* ... ขออีกนิดนะ ... อีฟ *อ้าปากดูดเลือด* ... อึ๊ก ... ซู้ด ... *ฮ่า* ... *ฮ่า*  ...

อาซึสะ : ขอบคุณนะ ...เท่านี้ ... ก็พอจะกลบเกลื่อนได้สักพักแล้วล่ะ 

(ยุยถามว่าอะไร)

อาซึสะ : ฉันรับเอา ... กลิ่นเลือดของเธอมาไงล่ะ ...เท่านี้ คิดว่าพวกหมาป่า ...ก็คงจะถูกหลอก ... ไปได้สักพักแล้ว ... ตอนนี้ เช้าอยู่ใช่มั้ย ? ... พวกหมาป่า เป็นสัตว์หากินกลางคืน ... คาดว่า ... ตาคงจะมองเห็นไม่ค่อยชัดเท่าไร ... พึ่งเฉพาะกลิ่น ...นำให้เคลื่อนไหวไปน่ะ

อาซึสะ : ... นี่ .. อีฟ ...ฟังนะ ... ฉันจะ ...กลับไปช่วย ... พวกรุกิ ...เธอ ...เดินตรงไปตามทางเดินนี้ ...ที่อยู่ข้างหน้าจะเป็นทางระบายน้ำใต้ดิน ... แล้วมุ่งหน้าไปยังโลกปีศาจซะ ..

(ยุยปฏิเสธ)

อาซึสะ : ที่จริงแล้ว ... ไม่อยากจะปล่อยให้เธอไปคนเดียวตามลำพัง ... แต่ว่า ... สำหรับฉันแล้ว ... พวกเขา ... เป็นครอบครัว ... ที่สำคัญ ... ที่สำคัญมาก ๆ เลยล่ะ 

อาซึสะ : โลกปีศาจ ... เป็นที่ที่อันตรายมาก ๆ ... แต่ว่า ... พวกเขา ... จะต้อง ... พวกคนในบ้านซาคามากิ ... น่าจะต้องรู้สึก ... ถึงเค้าไอของเธอได้อย่างแน่นอนเลย

อาซึสะ *จุ๊บ*

อาซึสะ : ... อีฟ ... จะให้พวกหมาป่าพวกนี้ ... จับตัวไม่ได้นะ ... เพราะอย่างนั้น---

--- ตึง !! ตึง !! 
*เสียงกระแทกประตู*

อาซึสะ : ...!! ... อีฟ ไปสิ ! ... เร็วเข้า ... ฉันจะเป็นตัวล่อให้เอง 

--- ตึง !! ตึง !! 
*เสียงกระแทกประตู*

อาซึสะ : เอ้า !! 

*เสียงยุยวิ่งไป*

อาซึสะ : ... อีฟ ... ได้โปรด ... ขอให้ปลอดภัย ... ลาก่อน

--- ตึง !!
*หมาป่าพังประตูเข้ามา*
*กระโจนเข้าหาอาซึสะ*

อาซึสะ : อึ๊ก ! .... อะ ...*อาซึสะถูกกัด* ... เจ็บ ...  *หอบ* *ฮ่า* *ฮ่า*... อีฟ ... 


รุกิ : พวกเราในเวลานี้ ... ยังไม่ได้รู้ตัวเลยว่า ... สถานการณ์มันใหญ่เกินกว่าปกติ ... และ ... กำลังเดินหน้าไปยังชะตากรรมแห่งความมืดมิด ... ที่รอคอยอยู่ 
      พวกเรานั้น ... ได้ถูกขว้างลงไป ... อยู่ภายในกระแสน้ำวนที่วุ่นวายในระหว่างที่ไม่ทันได้รู้ตัวเลย

รุกิ : ความมืดในโลกปีศาจที่ไม่มีพระจันทร์นั้น ... มันค่อย ๆ ... ขยับเข้ามาใกล้ อย่างแน่นอน...โลกนี้ที่พวกเราได้อาศัยอยู่ ... ได้ผิดแปลกไป


---- โบร๋ววววว 

---------------------------------------------------------------------
- FIN -
---------------------------------------------------------------------
จบแล้วค่า Dark Fate 3 แผ่น ขอบคุณที่ติดตามอ่าน 
---------------------------------------------------------------------

❤❤❤ บ่นบลาๆๆๆ : ม่าย อาซึส๊าาาาาาาาาา อ่า จะร้องไห้ ...
อ่า อะไรเนี่ย ทำไมจบแบบรู้จุดจบอาซึสะแบบไม่ต้องบอกเลยเนี่ย T^T
ตกใจเสียงกระจกแตกมากเลยขอบอก ถึงกับสะดุดสุดตัว
 ตอนของมุคามิเนี่ยสนุกสุดเลยนะ มันตื่นเต้นมาก 555

*เผ่า กับ ตระกูล แตกต่างกันนะคะ 
เผ่าคือคนละสายเลือดแต่ชนิดเดียวกันอย่าง  ส่วนตระกูลคือสายเลือดเดียวกัน**

**นำไปแจกจ่ายกรุณาให้เครดิต PearlzDeWitch**
*ถ้านำไปแอบอ้างจะเปลี่ยนวิธีเผยแพร่ค่ะ*