DIABOLIK LOVERS
DARK FATE Vol.1
- 蝕の章 -
(บทแห่งจันทรคราส)
(บทแห่งจันทรคราส)
ชิน : ท่านพ่อ ... ท่านพ่อ ทำใจดี ๆ เอาไว้ ! โปรดตั้งสติเอาไว้ ! ลูกชายของท่าน ชิน อยู่ตรงนี้แล้วนะ ท่านพ่อ !
คาร์ล่า : ชิน ...
ชิน : ท่านพ่อ !
คาร์ล่า : ชิน !
ชิน : ...!! อึ๊ก ... พี่ !
คาร์ล่า : ให้ท่านไปสบายเถอะ
ชิน : ... แต่ว่า !
คาร์ล่า : อย่าแสดงสภาพที่ไม่น่าดูน่า
ชิน : ... อุ๊ก ! ... อึ๊ก ...
คาร์ล่า : สำหรับผู้ที่เป็นอมตะแล้ว การได้เผชิญหน้ากับความตายเช่นนี้มันช่างเป็นของขวัญที่วิเศษยิ่งกว่าสิ่งใด ... เป็นการเริ่มงานฉลองสิ ... ใช่มั้ยล่ะ ?
ชิน : ... อึ๊ก ! (สะอื้น)
ชิน : นั่นน่ะ สำหรับพวกเป็นอมตะธรรมดา ๆ ไม่ใช่เหรอ ? ... แต่ว่า ... !
--- ตุ๊บ !
*เสียงมือตก*
ชิน : หา ? ... ท่านพ่อ !
คาร์ล่า : ... สิ้นลมแล้วสินะ
ชิน : ทำไมพี่ถึงได้ดูใจเย็นแบบนั้นกัน !? ... ท่านพ่อ ตอบผมสิ ถ้าท่านพ่อไม่อยู่แล้วล่ะก็ พวกเราจะ ... ฮึ๊ก ! ... จะทำยังไงกันเล่า ? (สะอื้น)
ชิน : ท่านพ่อ !!
--- ตูม !!
*เสียงทุบกำแพง*
ชิน : เอ๊ะ ? พี่ ?
คาร์ล่า : ฉันน่ะเหรอ "ใจเย็น" ? ดูตรงไหนเป็นแบบนั้นกัน ?
ชิน : .... อะ ....
คาร์ล่า : ถ้าใจเย็นจริงคงไม่หงุดหงิดหรอก แบบนี้ ตระกูลของพวกเรา "สายเลือดต้นตระกูล (First Blood)" ผู้ที่จะสืบทอดนั้น บนโลกนี้ก็มีเพียงแค่สองคนเท่านั้นแล้ว ... จะต้องทำยังไงท่านพ่อถึงจะจากไปด้วยความยินดีได้ ?
ชิน : ... อะ ! ... ขอโทษ ที่ทำกิริยาไม่เหมาะสม ... แล้วยัง พูดจาไม่ดีใส่อีก ... ยกโทษให้ด้วยนะ
คาร์ล่า : ฉันกับนายมีจุดยืนที่ต่างกัน. ฉันคือผู้ที่สืบทอดเจตนารมณ์ของท่านพ่อผู้เป็นราชันย์แห่งสายเลือดต้นตระกูล "กีซบาช (Giessbach)" ไงล่ะ
คาร์ล่า : ชิน นายน่ะ เพียงแค่เสียใจกับความตายของท่านพ่อไปเงียบ ๆ ก็พอแล้ว ท่านพ่อน่ะให้ความเอ็นดูนายมาก และนั่นคือหน้าที่ของนาย
ชิน : ... (สะอื้น) เข้าใจแล้วล่ะ พี่
คาร์ล่า : ถึงจะเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะมาถึงเร็วเช่นนี้
--- *วิ๊งงงงง*
(เสียงเหมือนตัวกำลังส่องแสงวิ้ง ๆ จะหายไป (ฮา))
คาร์ล่า : เอ้า ชิน ส่งท่านพ่อกันเถอะ
ชิน : ลาก่อน ท่านพ่อ ...(สะอื้น)
คาร์ล่า : ... ฮึ
ชิน : ... ? พี่ ?
คาร์ล่า : ต่อไป คิดว่าคงถึงตาฉันเองแล้ว
อ : หะ ? พี่ ? หรือว่า ... จะเป็น Endzeit !?
คาร์ล่า : เปล่า ไม่ได้หมายความแบบนั้น
ชิน : ... เหรอ ถ้างั้นก็ดี
คาร์ล่า : ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ก็มีโอกาสที่จะเป็นแบบนั้นโดยเลี่ยงไม่ได้อยู่ นายเองก็เหมือนกัน
ชิน : โชคชะตาที่ไม่อาจหนีได้ ... เหรอ ?
คาร์ล่า : อ่า
--- *ฟึ่บ*
ชิน : หายไปแล้วสินะ ...
คาร์ล่า : สูญเสียสายเลือดไปอีก 1 แล้ว
ชิน : พี่ ... ผม ...
คาร์ล่า : อะไร ?
ชิน : ผม ... ความแค้นของท่านพ่อ ... จะแก้แค้นแทนท่านพ่อเอง
คาร์ล่า : ...
ชิน : ท่านพ่อที่นอนอยู่บนเตียง พูดคำสาปแช่งคาร์ลไฮนซ์ซ้ำไปมา ผมไม่มีทางลืม
ชิน : เจ้าหมอนั่นที่ทรยศต่อท่านพ่อ โยนตระกูลของพวกเราทั้งตระกูลมายังก้นบึ้งของขุมนรกแห่งนี้ แล้วซ้ำยังปิดผนึกขังไว้
คาร์ล่า : ชิน ... ก่อนหน้านั้นพวกเรามีเรื่องที่ต้องทำอยู่ ขืนเป็นแบบนี้ สายเลือดของวงศ์ตระกูลของพวกเราต้องยุติลงแน่ ... ก่อนหน้าที่จะเป็นเช่นนั้น ... ต้องลงมือดำเนินการ
ชิน : แต่ว่า ...
คาร์ล่า : ฉันรู้เรื่องที่นายอยากจะพูดดี ก่อนอื่นคงต้องจัดการเจ้าหมอนั่นก่อนเท่านั้น
ชิน : ใช่แล้ว อันดับแรกต้องออกไปจากที่นี่ ... กำจัดศัตรูของท่านพ่อ !
คาร์ล่า : แต่ทว่า ... ในอดีตบรรพบุรุษทั้งตระกูลก็ยังไม่สามารถทำลายผนึกของปราสาทนี่ได้เลย แล้วนายทำลายมันยังไง ?
ชิน : ... เอ๊ะ ? ... เรื่องนั้น ... มันก็จริงอยู่หรอกนะ
คาร์ล่า : ตัวฉันนั้นชิงชังคาร์ลไฮนซ์ แต่ว่าในตอนนี้พวกเรากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่วิกฤติ ... สถานการณ์ที่เลือดนี้จะยุติลงเมื่อไหร่ก็ไม่แปลกไงล่ะ
*เสียงเดิน*
ชิน : ... เฮ่อ ... ไม่มีเวลาแล้วสินะ ?
คาร์ล่า : จะเอาแต่ยอมทนอับยศถูกขังในขุมนรกเฝ้ารอความตายไปแบบนี้ ต่อไปอีกไม่ได้แล้ว เพื่อวงศ์ตระกูลสายเลือดต้นตระกูลของพวกเราด้วย
ชิน : ถึงจะพูดแบบนั้น ... มีวิธีเหรอ ?
คาร์ล่า : มีความหวัง ... เหลืออยู่เพียงอย่างเดียว
คาร์ล่า : พวกเราในตอนนี้ไม่มีวิธีอื่นนอกจากเดิมพันกับวิธีนี้อีกแล้ว... ก่อนอื่น ... ต้องทำให้เลือดของเราเป็นนิรันดร์
ชิน : ... ฮึ
คาร์ล่า : จากขุมนรกปีศาจ นรกที่เป็นที่พักอาศัยของเหล่าสายเลือดต้นตระกูล ที่อยู่ก้นบึ้งของโลกปีศาจ แสงไฟแห่งชีวิตของท่านพ่อของพวกเราพี่น้อง "กีซบาช"ได้ดับลงไป ... วันนี้ที่ฉันได้กลายเป็นจ้าวแห่งสายเลือดต้นตระกูล ได้ตัดสินใจแล้ว
จะทำลายผนึกของปราสาทนี้ และออกไปกำจัดสายเลือด คาร์ลไฮนซ์ ที่เยียดยามและทำให้เราต้องทนทุกข์ และเจ้าพวกแวมไพร์ทั้งหลาย ด้วยคมมีดที่เรียกว่า "การแก้แค้น"
ในวันที่พวกเราเหล่าสายเลือดต้นตระกูล พ่ายแพ้ต่อการต่อสู้กับ คาร์ลไฮนซ์และเจ้าพวกในโลกปีศาจ ก็ถูกนำมากักขังไว้ในขุมนรกแห่งนี้ทั้งหมด
ในปราสาทที่ถูกปิดผนึกด้วยพลังเวทอันแข็งแกร่ง พวกเราได้ใช้ชีวิตกันมาช้านาน
วันคืนที่เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ นอกจากความเบื่อหน่ายแล้วก็ไม่มีอะไรเลย
พวกเราเหล่าสายเลือดต้นตระกูลได้เจริญเติบโตขึ้น และเหนื่อยหน่าย และสุดท้ายต้องจบชีวิตลง
แล้วสิ่งที่มาเกิดซ้ำเติมพวกเรามันช่างเลวร้ายที่สุด ... นั่นก็คือ "โรคจุดจบแห่งชีวิต"*(1) ... หรืออีกชื่อก็คือโรคที่ชื่อ Endzeit *(2)
คาร์ล่า : หากเป็นแต่เดิมแล้ว พวกพ้องของเราที่น่าจะเป็นอมตะ กลับเป็นโรคนั่นตายไปทีละคน ๆ ... และ ... พ่อของพวกเราก็ด้วย ถูกโรค Endzeit นั่นรุมเร้าจนตาย ...
ที่เหลืออยู่ก็คือ ... ตัวฉันและน้องชาย "ชิน" แค่สองคนเท่านั้น
ในระหว่างที่กำลังคิดเกี่ยวกับโรคที่แปลกประหลาดและผูกเรื่องไปถึงการแก้แค้น คาร์ลไฮนซ์ อยู่ในอกนั้น ... ก่อนอื่น จำเป็นต้องทำให้สายเลือดที่กำลังจะยุติลงเด่นชัดขึ้นอีกครั้ง
ในตอนนี้จะเก็บคมมีดเอาไว้อย่างเงียบ ๆ และรอคอยโอกาสนั่น ... !
คาร์ล่า : DIABOLIK LOVERS DARK FATE
ชิน : Vol.1 (วอลลูม วัน) 蝕の章 (บทแห่งจันทรคราส)
*(1)"โรคจุดจบแห่งชีวิต"「終末医療」 [shuumatsuiryou]
เราไม่แน่ใจว่ามันคือโรคอะไร แต่หาข้อมูลแล้วประมาณว่า เป็นการดูแลในวาระสุดท้ายของชีวิต ที่ไม่สามารถยืดชีวิตได้ หรือ หมดกำลังใจที่จะอยู่ต่อ คือ "รักษาไม่ได้" ตายแหง๋ ๆ ไม่แน่ใจว่า มันคือ "การตรอมใจ" รึเปล่านะ
*(2) Endzeit ภาษาเยอรมันแปลว่า จุดสิ้นสุด
---------------------------------------------------------
Track 2 なすべき事 (เรื่องที่ต้องทำ)
คาร์ล่า : ... หือ ? ฝัน ... งั้นเหรอ ?
*เสียงลุกจากที่นอน*
คาร์ล่า : ฮึ ... การฝันนี่ไม่ได้เป็นมานานเท่าไหร่แล้วนะ ผลกระทบของการลงมายังโลกมนุษย์งั้นเหรอ ?
*เสียงฝีเท้ายุยเดินมา*
คาร์ล่า : ... อื๋อ ?
คาร์ล่า : เธอ ... มาที่นี่ทำไม ? ถ้ามีธุระก็ไปบอกที่ชินซะ
คาร์ล่า : "เป็นอะไรรึเปล่า" นั่นหมายความว่ายังไงกัน ? ฉันคือสายเลือดต้นตระกูลนะ การจะป่วยแบบพวกเจ้ามนุษย์ ... (ลุกจากเตียงและเดิน) ... ไม่มีทางเป็นหรอก ... ยิ่งกว่านั้น ... เธอน่ะห่วงตัวเองก่อนจะดีกว่า
*ยุยจะหนี + เสียงจับ*(จะทำอะไรรู้ ๆ กันนะคะ ฮาาา )
คาร์ล่า : การที่มาที่นี่ ... น่าจะรู้ว่ามันจะต้องลงเอยแบบนี้ ... หรือว่า ... ในที่สุดก็ค้นพบแล้วว่าการชำระล้างน่ะให้ความรู้สึกดีสินะ ? (จับตัว)
คาร์ล่า : มาสิ ! อึ้บ ! (ดึงตัวไปหา) ... จะทำให้ตามที่ต้องการเอง
*เสียงดูดเลือด*
คาร์ล่า : ...อื้ม ... อึก ... ดูท่าจะเริ่มพอใช้ได้ขึ้นแล้ว ...แต่ถึงอย่างนั้น ... ก็ยังเป็นรสชาติที่หาดื่มได้ทั่ว ๆ ไปอยู่ดี ... นี่ ... (เสียงอ้าปากดูดเลือด) ... อึ๊ก ๆ ... *ดูดเลือด*
... ฮ่า ... ฮึ ! เป็นอะไรไป ? ทำแค่นี้ก็ทนไม่ไหวซะแล้วเหรอ ?
*สูดดมกลิ่น* ... ฮ่า ... *ดูดเลือด* ... อืม ... *ดูดเลือด* ... *กลืน*
ยังไม่ยกโทษให้หรอก ... เอ้า ... อยู่นิ่ง ๆ แล้วยกเลือดมาให้มากขึ้นอีกสิ *ดึงตัว*
(ยุยดิ้น)
คาร์ล่า : ... น่ารำคาญ อย่าอาละวาดน่า (จับกด !!)
อึดอัดงั้นเหรอ ? เจ้าจะอึดอัดยังไงก็ไม่เกี่ยวกับฉัน ... ไม่สนใจด้วย และ การขัดขืนน่ะมันไร้ประโยชน์ ... เอ้า จะทำยังไง ?
คาร์ล่า : ใช่แล้ว ... ดูท่าในที่สุดก็เข้าใจแล้วสินะ ...
ผ่อนแรงลงซะ ... ถ้าทำแบบนั้นแล้ว ... แบบนี้จะไม่ให้รางวัลก็คงไม่ได้
(เสียงให้รางวัล - เดาเองนะคะ อิอิ)
คาร์ล่า : ... ฮ้า ... เป็นอะไรไป ? หน้าแดงแจ๋เลยนะ ?
ฮึ ! แค่ริมฝีปากถูกชิงไปก็มีสภาพแบบนี้แล้ว ง่ายดายซะจริงเลยนะ (เฉลย - มะกี้จูบเป็นรางวัลนั่นเอง) ถึงจะดีสำหรับตัวฉันก็เถอะ ทำให้การชำระคืบหน้ายิ่งขึ้น เลือดของเธอที่ถูกแวมไพร์ทำให้แปดเบื้อน ใกล้ถึงเวลาที่จะเกิดใหม่แล้ว
... เอ้า มาต่อกัน
*ดูดเลือด*
คาร์ล่า : เอ้า คราวนี้เป็นคอด้านนี้บ้าง ...
*ดูดเลือด*
คาร์ล่า : ถ้าการชำระคืบหน้าขึ้น มีเรื่องที่เธอต้องทำอยู่ ถ้าเป็นเช่นนั้นเวลาจะต้องเปิดทางให้อย่างแน่นอน วันที่พวกเราเหล่าสายเลือดต้นตระกูลเวลาที่บรรลุความปรารถนาจะมาถึง ...
*ดูดเลือด*
คาร์ล่า : ... อย่าขยับน่า ...
*ดูดเลือด*
คาร์ล่า : ... มอบเลือดมาให้กับฉันซะ ... ในตอนที่คว้านหาก็จงทำเพียงคว้านหาเท่านั้น
*ดูดเลือด*
คาร์ล่า : ... เฮ่อ ... สำหรับวันนี้ พอแค่นี้ล่ะ
*ตุ๊บ* (ยุยลุกมาแล้วล้ม)
คาร์ล่า : ทำอะไรน่ะ ? ถ้ามาล้มพับตรงนี้ละก็ไม่ให้อภัยหรอกนะ กลับไปห้องนอนของตัวเองซะ เกะกะลูกตา
--- *ตุ๊บ !*
(ยุยล้ม)
คาร์ล่า : ฮึ ! หมดสติไปแล้วเหรอ ? ... น่ารำคาญ
คาร์ล่า : ... ! อะไรกัน ? ร่างกายมันหนัก นี่มันคืออะไร ?
ชิน : พี่ ?
คาร์ล่า : ชิน
ชิน : เป็นอะไรไปเหรอ ทำไมทำหน้าเครียดแบบนั้นล่ะ ?
คาร์ล่า : คิดไปเองน่ะ
ชิน : เหรอ ? ถ้างั้นก็ดี
ชิน : อ้า ว่าแล้วเชียวผู้หญิงคนนั้น มาหาพี่เหรอ ?
คาร์ล่า : เพราะว่าต้องทำการชำระน่ะสิ
ชิน : แล้ว รูปการณ์เป็นยังไงบ้าง ?
คาร์ล่า : ยังไม่คืบหน้าไปเท่าไหร่เลย คงต้องเหนื่อยอีกนาน
ชิน : งั้นเหรอ ?
คาร์ล่า : ยิ่งกว่านั้น นายมีธุระกับฉันถึงได้มาที่นี่สินะ
ชิน : อื้ม ผมมีเรื่องข้อมูลทีไ่ด้จากปีศาจรับใช้มาบอก ... เห็นบอกว่าเจ้าพวกนั้นมาตามหาผู้หญิงคนนั้นแถว ๆ บริเวณนี้อยู่น่ะ
คาร์ล่า : ที่นี่ถูกเปิดเผยแล้วงั้นเหรอ ?
ชิน : ตอนนี้ยังหรอก แต่ว่า ... คิดว่าขึ้นอยู่กับเวลาแล้วล่ะ
คาร์ล่า : งั้นเหรอ
ชิน : จะเอายังไง ?
คาร์ล่า : ปล่อยไป อย่าเพิ่งไปต่อกรด้วย เรื่องการชำระที่ไม่คืบหน้า คงต้องลงมือควบคุมผู้หญิงคนนั้นแล้ว
ชิน : งั้น ก็คงต้องซื้อเวลาไว้เหมือนที่ทำก่อนหน้าที่เท่านั้นสินะ
คาร์ล่า : อ่า ถ้าเจ้าพวกนั้นไม่ออกไป คงต้องรีบจัดการที่นี่ก่อน
ชิน : งั้นทำไว้เพื่อความชัวร์ ผมจะให้ปีศาจรับใช้ไปเป็นนกต่อล่อก็แล้วกัน
คาร์ล่า : อ่า
ชิน : ... งั้นไปล่ะ
*เสียงชินเดิน*
คาร์ล่า : เดี๋ยวก่อน ! ชิน ...
ชิน : หือ ? อะไรเหรอพี่ ?
คาร์ล่า : ... เอาผู้หญิงคนนี้ไปด้วย
ชิน : ฮึ รับทราบ ! *เดินกลับมา*
ชิน : ชำระต่อเนื่องกันมากไปเหรอ ? ดันมานอนในที่แบบนี้ซะได้
*เดินกลับมา*
ชิน : อึ๊บ ! *อุ้มยุย* ... เพราะว่าถูกดูดเลือดมากเกินไปเหรอ ตัวขาวซีดกว่าตอนที่มาอีกรึเปล่านะ ?
ชิน : เอาล่ะ ... ถ้างั้น ราตรีสวัสดิ์นะ พี่
คาร์ล่า : อ่า ...
คาร์ล่า : ... ไปแล้วเหรอ ... ฉันเองก็พักสักหน่อยดีกว่า
*เอนลงบนเตียง*
(❤❤❤ บ่นบลาๆๆๆ : อุ คาร์ล่า ซาดิสต์ได้ใจมาก เสียงดูดเลือดสยิวกิ๊วจริง ๆ 555)
---------------------------------------------------------
Track 3 密かな企み (แผนการลับ)
ชิน : พอแบกผู้หญิงออกมาจากห้องของพี่ แล้วฉันก็มุ่งหน้าไปที่ห้องของตัวเองทั้งอย่างนั้น แบบนี้ก็สามารถดูดเลือดของผู้หญิงคนนี้ ได้เต็มที่ตามใจอยากได้แล้ว ...
พี่แค่ออกคำสั่งกับฉันแค่อย่างเดียวเท่านั้นคือ "เอาผู้หญิงคนนั้นออกไปด้วย" หรือก็คือ ... พอแบกออกมาแล้ว ... ที่เหลือจะพาไปที่ไหน ... ก็แล้วแต่ฉันสินะ
พี่ คาร์ล่า เรื่องที่ฉันจะทำการชำระผู้หญิงคนนี้ทั้งอย่างนี้เอง ก็ต้องคาดการณ์ไว้อย่างแน่นอน ... โดยสรุปก็คือว่าให้อาหารแก่ฉัน ฉันรู้สึกซาบซึ้งมาก
มันก็เหมือนกับพวกหมาป่าที่ให้อาหารที่เหลือกับพวกพ้องนั่นล่ะ
พี่ คงตั้งใจจะแสดงความมีน้ำใจกับฉันสักหน่อยล่ะมั้ง ... แต่คงไม่คิดว่ามันจะทำให้ถึงกับชีวิตได้สินะ ...
*เสียงเดิน*
*เปิดประตูเข้าห้องและปิดประตู*
*เดินพายุยวางบนที่นอน*
ชิน : ... เอ้า ฮึบ ... เฮ่อ ให้ตาย ๆ พี่นี่ใช้งานคนหนักจริง ๆ มีปีศาจรับใช้มากมายเท่าไหร่ก็ไม่ยอมใช้เลย ดันมาใช้น้องชายเพียงคนเดียวทำงานแบกหามแบบนี้เนี่ย
*เสียงเตียง*
ชิน : ... หือ ? รู้สึกตัวแล้วเหรอ ? รู้สึกเป็นไงบ้าง ? ก็นะ คงไม่ดีอยู่แล้วนี่ ก็ถูกดูดเลือดไปซะเยอะแล้วยังถูกทิ้งขว้างอีก
ดื่มน้ำมั้ย ? ... อ๋อเหรอ เอาเถอะ ทำตามใจก็แล้วกัน น้ำวางอยู่ตรงนั้นน่ะ
*ยุยลุก*
ชิน : อย่าฝืนลุกจะดีกว่ามั้ย เสียเลือดไป เธอคงมองไม่ค่อยเห็นมากกว่าจะขยับได้อย่างเต็มที่
*ยุยพลาดล้ม*
ชิน : ... ฮึบ ! เห็นมั้ยล่ะ พูดไม่ทันขาดคำ ! คำเตือนของคนอื่นน่ะรับฟังให้ดี ๆ หน่อยสิ เนอะ ?
*จับยุยกระแทกผนัง*
ชิน : โอ๊ะโอ๋ ! มือของเธอถูกผนึกไว้ซะแล้วล่ะ เป็นเพราะว่าไปนอนในที่แบบนั้นไงล่ะ ...
ชิน : นี่ รู้รึเปล่า ? ฉันกำลังโกรธอยู่นะ ...
*บีบแขนแน่น*
ชิน : ... ฮึบ ... เพราะว่าไม่ยอมฟังคำเตือนของฉันยังไงล่ะ. แบบนี้คงต้องลำบากลงโทษซ้ำเติมเธอซะแล้ว ! กลับไปที่เตียงซะ ... ฮึบ ! *วางลงบนเตียง*
ชิน : อย่าทำเรื่องให้มันยุ่งยากวุ่นวายน่า ...
เอ้า ช่วยนั่งให้ดี ๆ หน่อยได้มั้ย ? หรือว่ามีเรื่องที่อยากจะรอทำที่นี่กัน ? อย่างอาบน้ำ ? ฉันไม่ว่าหรอกนะ ที่จะให้ช่วยอาบให้ ... แบบคราวที่แล้ว
อย่าทำหน้าตารังเกียจแบบนั้นสิ ฉันเจ็บปวดเหมือนกันนะ ... ยิ่งกว่านั้น เธอน่ะ ตอนนั้นทำสีหน้าดีจะตายไป ที่จริงแล้วรู้สึกดีไม่ใช่เหรอ ? ใช่มั้ยล่ะ ?
... ฮึ ! ทำเป็นนิ่งเงียบไปได้ ขี้โกงนี่ ยอมรับมาตรง ๆ ก็ได้นี่ ... ป่านนี้แล้ว ทั้งพี่ทั้งฉัน ไม่คิดว่าเธอจะเป็นสาวบริสุทธิ์ผุดผ่องหรอกน่า
แต่จะว่าไป ! มันสายไปแล้วต่างหาก ! เธอน่ะถูกแวมไพร์ดูดเลือดมามากมายหลายครั้งแล้ว
*เสียงเตียงขยับเพราะชินขยับ*
ชิน : ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ผุดผ่องแล้ว .. *กัด*
*ดูดเลือด*
ชิน : ... นี่ไง หน้านั่นไงล่ะ ถ้าไม่ให้เห็นผ่านกระจกบ่อย ๆ ก็คงไม่รู้สึกตัวสินะ ฮะ !
*ดูดเลือด*
ชิน : โอ๊ะโอ๋ ! ฉันกับพี่ดูดเลือดติดต่อกันมันคงลำบากเกินไปสินะ ? แต่ว่า ... ไม่หยุดให้หรอกนะ
ชิน : คิดว่าเป็นแบบนั้นแล้วฉันจะยอมทนให้เหรอ ? ไม่มีทางเป็นแบบนั้นอยู่แล้วนี่ ?
*ดูดเลือด*
ชิน : ... ฮ่า ... คงจะเข้าใจดีเป็นพิเศษแล้วสินะ ? ว่าฉันน่ะไม่ได้อ่อนโยนหรอก ... *กัด*
*ดูดเลือด*
ชิน : ... ก็ เธอเองก็ไม่ได้หวังจะให้ฉันเป็นแบบนั้น สักนิดนี่
*ดูดเลือด*
ชิน : ... นั่นไง ทำหน้าแบบนั้นอีกแล้ว ... เธอเนี่ย ที่จริงก็ทำหน้าดี ๆ ได้นี่ ... ให้ฉันได้เห็นมากกว่านี้อีกสิ ... มองมาทางนี้สิ ! ลืมตาขึ้นมาสิ ไม่อยากมองหน้าฉันเหรอ ? ฮะ ๆ เดี๋ยวจะบังคับให้ลืมตาเอง
ชิน : ใช่ ๆ มองฉันให้ดี ๆ ล่ะ ฉันเป็นผู้มีพระคุณที่ทำให้เลือดของตัวเธอสะอาด เชียวนะ ... *กัด*
*ดูดเลือด*
ชิน : เอ้า ๆ ก็บอกว่าอย่าหลับตาไงล่ะ ... ฮึบ !
ชิน : คำสั่งน่ะพูดครั้งเดียวก็ต้องเชื่อฟังกันแล้ว ! อยากให้กัดให้เจ็บ ๆ มากกว่านี้รึไง !?
(ยุยพยายามปฏิเสธ)
ชิน : ... ห้ามขัดขืน ... ห้ามเด็ดขาด ... ถ้าขัดขืนน่ะนะ ... จะได้เจ็บแปล็บ ๆ ... ด้วยหมัดนี้ไงเล่า!
ชิน : ... ฮึบ .. เพราะเป็นผู้หญิง เพราะมีเลือดที่พิเศษนั่นอยู่ แล้วคิดว่าฉันจะไม่กล้าต่อยนั่นน่ะ มันเป็นแค่ความคิดแง่บวกที่สุดยอดของเธอเท่านั้น ... ฉันน่ะ ... ชอบนะ ... การเป็นคนใช้ความรุนแรงนั่นน่ะ ... ฮึบ !
*ต่อยยุย*
ชิน : ... ฮึ ! ... เข้าใจรึยัง ? ถ้างั้นก็ทำตามที่ฉันพูดซะ เนอะ ? *กัด*
*ดูดเลือด*
ชิน : ... อื้ม ... ฮ่า ... ฮึ ๆ ... ไม่ทันคิดเลยกลัวเหรอ ? นั่นสินะ พอพูดว่า"ชอบความรุนแรง"เมื่อไหร่ จะต่อยเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ... แต่ว่า ... ในสถานการณ์ที่ฉันพูดแบบนั้นรวมกับการเป็นคนที่ใช้ชอบความรุนแรงน่ะ .. ชอบเป็นล่ะ ... เพราะทำแบบนั้นแล้วไม่ค่อยจะมีคนขัดขืนสักเท่าไหร่น่ะสิ
ชิน : ... แต่ก็นะ เรื่องที่พูดไปนั่นใช้ไม่ได้กับพี่ที่แข็งแกร่งกว่านี่นะ *กัด*
*ดูดเลือด*
ชิน : ... เฮ่อ ... เอาล่ะ คงใกล้ถึงขีดกำจัดที่คิดไว้แล้วมั้ง ? ถ้าขืนชำระต่อคงถึงตายสินะ
ชิน : ถ้าเอาเขี้ยวไปทำตราไว้ตั้งขนาดนี้แล้ว เธอเองก็คงไม่มีทางลืมฉันได้ใช่มั้ยล่ะ ? มันหมายความว่าสักวัน ... เธอจะกลายเป็นของฉันยังไงล่ะ
จนกว่าวันนั้นจะมาถึง เธอที่อยู่ในฐานะอาหารเหลือของพี่ คงต้องประทับตัวตนของฉันลงไปเรื่อย ๆ แล้วล่ะ
ชิน : ... หือ ? แผนของฉันไม่เกี่ยวกับเธอหรอก
เธอก็แค่เข้าใจว่า ที่ว่า"สักวันจะต้องกลายเป็นของของฉัน" เท่านั้นก็พอแล้ว ... เพราะทั้งสายตาทั้งท่าทางแบบนั้น ไม่เข้าใจอะไรเลยไงล่ะ
... เงียบไว้ล่ะ เพราะมันเป็นสถานการณ์ลึกซึ้งที่ เธอไม่เข้าใจหรอก ... เธอน่ะนะ
ชิน : แผลที่ตานี้ได้รับมา คือสิ่งที่หมอนั่นเหลือไว้ให้ ... เพื่อไม่ให้ลืมความแค้น
ชิน : หือ ? อยากรู้เหรอ ? .. หืม ? งั้นจะบอกให้
*ขยับมาใกล้ยุย*
ชิน : มีเรื่องบางเรื่องที่ไม่รู้ซะจะดีกว่านะ ... เฮอะ ! คงไม่อยากเข้ามาพัวพันด้วยใช่มั้ย ? ฮึ ๆ
ชิน : ... โอ๊ะ ! อะไร ? ยังมีแรงจะลุกเหลืออยู่สินะ ? แล้วไง ? คิดจะไปไหน ? จะบอกว่าไม่อยากอยู่กับฉันเหรอ ?
ชิน : อ้อ อาบน้ำเหรอ ... ก็ เลือดอาบซะขนาดนั้นก็คงต้องอย่างนั้นอยู่แล้วนี่ ... แต่ว่านะ อย่าต้องให้พูดหลายครั้ง อย่าทำอะไรฝืน ๆ ถ้านอนอย่าว่าง่าย ๆ ที่นี่แล้ว จะไม่ทำอะไรกับเธอมากไปกว่านี้ให้
ชิน : ฮึ ! ฉันเองก็ดูดเลือดมากไปขนาดนั้น ... *ชินขยับนั่งบนเตียง* ... เต็มอิ่มแล้วล่ะ *ชินเอนตัวลงบนเตียง*
ชิน : ... เชอะ ไม่ได้ฟังเลยสินะ ... หมดสติไปอีกแล้วสินะ ... ให้ตายสิ ๆ น่า ก็ช่วยไม่ได้นี่นะ ก็ถูกทำซะขนาดนี้นี่น่า ... ก็สมควรหน้าซีดเผือกเลย เอาเถอะ แต่ก็ยังไม่ตายนี่น่า
*ชินขยับตัวนอน*
ชิน : ... ถ้าดูดเลือดต่อไปในที่แบบนี้ แป๊บเดียวก็คงชำระจนสะอาดแล้วสินะ ... *สูดหายใจเข้า* ... เฮ่อ แต่ว่า ... ยังไงก็ตามรสเลือดนี่ ... รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเปลี่ยนไปจากตอนที่ผู้หญิงคนนี้มาเลย ทั้งที่ทำถึงขนาดนี้ มันก็น่าจะเปลี่ยนไปสักหน่อยแท้ ๆ
ชิน : ทั้งที่เป็นสภาพที่พวกเราพี่น้องที่มีสายเลือดต้นตระกูลอยู่ ทำการชำระล้างผู้หญิงคนนี้ด้วยกันทั้งสองคน ... มันออกจะแปลกไปหน่อยรึเปล่านะ ?
หมายความว่าใส่พลังลงไปไม่ได้ผลสักนิดเลยงั้นเหรอ ?
ชิน : นี่ ... เธอที่มีเลือดของ "เมเน่"
ชิน : ... ถ้าไม่รีบร่วงหล่นกลับลงมายังที่ของพวกเรา ... มันจะเกิดเรื่องใหญ่เอานะ ... ถึงเธอจะไม่เข้าใจก็เถอะนะ
ชิน : เพราะว่าฉันเอง ... ไม่อยากจะขออยู่ในสถานการณ์แบบนี้ต่อไปตลอดน่ะสิ ... เฮ่อ ...
*ชินพลิกตัว*
ชิน : .. เฮ่อ รู้สึกเหนื่อยยังไงก็ไม่รู้แหะ
ชิน : ... ฉันเอนตัวลงอย่างเงียบ ๆ ข้าง ๆ ผู้หญิง ... และปิดตาลง ... เป็นเพราะเหนื่อยจากการชำระล้างเหรอ ? ฉันถึงได้ผล็อยหลับไปในทันที ... และจากนั้น ...
---------------------------------------------------------------------------------
Track 4 残された手がかり (ปมที่เหลืออยู่)
ชิน : เอ๊ะ ? พี่ ? ... พี่ ! จะไปไหนน่ะ ? งานศพท่านพ่อยังไม่เสร็จ ...
คาร์ล่า : ไม่ใช่เวลามาทำเรื่องแบบนั้นแล้ว ! เรื่องที่จะทำต่อจากนี้ เชื่อว่าท่านพ่อจะต้องเข้าใจได้แน่นอน
ชิน : หา ? แล้วรีบร้อนขนาดนั้น จะไปที่ไหนกัน !?
คาร์ล่า : คลังสมบัติ
ชิน : มีธุระอะไรในที่แบบนั้นกัน ?
คาร์ล่า : ตามหา
ชิน : ตามหาเหรอ ? หาอะไร ? ช่วยอธิบายให้มากกว่านี้หน่อย ... !
คาร์ล่า : หาคนที่เหลือรอด นอกจากพวกเรา
ชิน : ... หรือว่าที่พูดเมื่อกี้ ที่ว่า "ความหวังเพียงหนึ่งเดียว" ?
คาร์ล่า : ถึงแล้วล่ะ
*เสียงเปิดประตู*
ชิน : .. อุ ... แค่ก ๆ .. ดูท่าจะมีฝุ่นเยอะแยะเลยนะ
คาร์ล่า : เพราะว่าตั้งแต่โรค Endzeit เริ่มแพร่ระบาดในพวกเรา ก็ไม่มีใครก้าวเข้ามาในนี้เลย
*ชินเดินสำรวจ + เอาเท้าเตะของดู*
ชิน : ... มีแต่ขยะทั้งนั้น ... ว่าแต่พี่ ขอต่อจากเมื่อกี้นี้หน่อย ที่ว่าสายเลือดต้นตระกูลยังมีเหลืออยู่น่ะ ... หรือว่าจะยังมีอยู่ที่อื่นงั้นเหรอ ? พวกเราตระกูลของสายเลือดต้นตระกูล ไม่ใช่ว่าถูกกักขังอยู่ในนี้หมดแล้วหรอกเหรอ ?
คาร์ล่า : ถูกต้องตามนั้น
ชิน : ถ้าอย่างนั้น ...
คาร์ล่า : ชิน ! ... ท่านพ่อน่ะ ยังมีน้องสาวอยู่อีกหนึ่งคน
ชิน : น้องสาว ?
คาร์ล่า : นั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนึง ... อยู่ ๆ ก็หายตัวไปอย่างกระทันหัน
ชิน : ไม่ใช่ว่าตายเพราะ Endzeit หรอกเหรอ ?
คาร์ล่า : เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น ... อยู่ดี ๆ ก็หายตัวไป ต่างกับท่านพ่อและพวกคนในตระกูลคนอื่น ๆ
ชิน : พูดแบบนั้นแสดงว่าพี่มีความมั่นใจอยู่แล้วสินะ ?
คาร์ล่า : อ่า ... ไม่ว่าจะไปถามใคร แน่นอนแม้แต่ท่านพ่อเองก็ตาม ก็พูดอย่างชัดแจ้งว่าไม่มีน้องสาว
ชิน : หมายความว่าไง ? ไม่เข้าใจสักนิด ... สรุปก็คือถึงทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มี แต่พี่รู้ว่าน้องสาวของพ่อที่จริงแล้วมีตัวตนอยู่ และได้หายตัวไปอย่างกระทันหัน ?
ชิน : ... อื๋อ ?
คาร์ล่า : ชิน ... ค้นหาจี้ห้อยคอมรกต สิ่งนั้นน่าจะมีพลังเวทเคลือบไว้อยู่ ถึงจะบอกว่ามีสมบัติอยู่มากมายหลายชิ้น แต่ถ้าตามจากพลังเวทแล้วน่าจะเจอสิ่งนั้นได้ใช่มั้ย ? ... สิ่งนั้นอยู่ที่นี่ ... ฉันเห็นท่านพ่อฝังมันในกองสมบัติในนี้ด้วยตัวเอง
ชิน : ฮึ ! อย่างนี้นี่เอง มรกตชิ้นนั้นคือเบาะแสงั้นสินะ ... ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจก็เถอะ
... อะแฮ่ม ! รีบ ๆ ลงมือเลยแล้วกัน
--- วิ๊ววี๊ด
*ชินผิวปาก*
*เสียงหมาหอน*
*เสียงหมาป่าวิ่งมาหาชิน*
ชิน : พวกแก จงไปตามหาจี้มรกต ที่มีพลังเวทเคลือบไว้ ... นั่นสินะ ... คงเป็นพลังเวทที่เหมือนกับท่านพ่อล่ะมั้ง ... จงไป !!!
*เสียงของถล่ม*
ชิน : ... เฮ่อ ให้ตายสิ ๆ ดูท่าทางจะใช้เวลามาก ... ช่วยไม่ได้นะ ฉันจะช่วยหาด้วยแล้วกัน ... ฮึบ !
*เสียงรื้อของ*
ชิน : นี่มันอะไรล่ะเนี่ย ? ให้ตาย ! ... เฮ่อ ! ดูท่างานนี้จะหินแล้วแหะ
*เสียงรื้อของ*
ชิน : นี่ พี่ จะยืนดูอยู่เฉย ๆ ตรงนั้นมันก็ได้อยู่หรอก แต่ช่วยอธิบายเรื่องเมื่อกี้เพิ่มหน่อยได้มั้ย ? เรื่องเมื่อกี้มันรู้สึกงงว่าจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจดี
คาร์ล่า : คิดว่ามีน้องสาวอยู่ ... บอกแค่นั้นไม่พอเหรอ ?
ชิน : ... ไอ้คำพูดที่ชวนสงสัยที่ว่า "คิดว่ามีน้องสาวอยู่น่ะ" ทำไมถึงยังชี้ชัดลงไปไม่ได้ล่ะ ?
คาร์ล่า : พูดว่าเป็นสถานการณ์ที่เหมือนกับว่ามีใครจงใจปิดมันไว้พอมั้ย ? เพราะว่าการคงอยู่หายไปอย่างสมบรูณ์เลยน่ะ
ชิน : ... หือ ? ... อยากจะพูดว่ามีใครบางคนใช้พลังปีศาจเพื่อซ่อนน้องสาวคนนั้นเหรอ ?
คาร์ล่า : ใช่
ชิน : ... ! หรือว่า ... คาร์ลไฮนซ์ ?
คาร์ล่า : ถ้าเป็นผู้ที่สามารถปิดผนึกขุมนรกปีศาจนี้ได้ล่ะก็เป็นไปได้
ชิน : ฮ่า ... เดิมทีแล้วหมอนั่นทำไมถึงทำเรื่องแบบนั้นกัน ? ทั้งที่อยากจะได้เลือดของสายเลือดต้นตระกูลแท้ ๆ หรือว่าได้สายเลือดต้นตระกูลไว้ในกำมือแล้ว ?
คาร์ล่า : ไม่รู้สิ ...
ชิน : เฮ่อ ... คงมีแต่ต้องไปถามหมอนั่นเอาเท่านั้นเหรอ ?
ชิน : ... หือ ? เดี๋ยวก่อนสิ พี่ ถ้าคาร์ลไฮนซ์ใช้พลังปีศาจควบคุมความทรงจำของทุกคนแล้ว แล้วทำไมพี่ถึงจำเรื่องของน้องสาวคนนั้นได้ ทั้งที่ไม่ชัดเจนล่ะ ?
คาร์ล่า : ฉันเองก็ไม่รู้ ... แต่ว่า ... ฉันก็จำเรื่องของเธอคนนั้นได้แม้มันจะเลือนลาง ... ทั้งเรื่องจี้มรกตที่นายกำลังหาอยู่เอง ... ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ชิน : อย่างนี้นี่เอง ... งั้นก็ ... !
คาร์ล่า : ชิน ! หมดเวลาพูดคุยเรื่องไร้สาระได้แล้วมั้ง ขยับมือซะ
ชิน : ... ฮึ่ม ! .. ครับ ๆ
คาร์ล่า : ท่านพ่อ ... ท่านถูกเพื่อนสนิทหักหลัง และถูกกักขังไว้ที่ก้นนรก แต่ว่าการทรยศในช่วงชีวิตยาวนานที่ปล่อยให้เสียเปล่าไปอย่างมากต้องได้รับการชำระให้ได้ ...
คาร์ลไฮนซ์ ... แก กับ วงษ์ตระกูลของแก ... ฉันจะแก้แค้น ... ให้ได้อย่างแน่นอน
ชิน : เฮ่อ ให้ตายสิ ๆ ของมันเยอะมากเลย ขนาดใช้ปีศาจรับใช้ทั้งหมดแล้วก็ยังมากอยู่ดี
คาร์ล่า : งู , หมาป่า , อินทรี และค้างคาว เพราะสมบัติที่ได้รับมาการต่อสู้ที่ครอบคลุมมาจนถึงทุกวันนี้ของพวกเหล่านั้น มันอยู่ที่นี่หมดน่ะสิ
ชิน : นี่ พี่ ขอพักหน่อยได้มั้ย ?
คาร์ล่า : ตามใจ
ชิน : ... เฮ่อ ... อึ้บ *ชินนั่งลง*
ยังไงก็เถอะ ถึงจะบอกว่าเป็นขยะ จำนวนมันก็เยอะอยู่ดีนะ พอมาดูแบบนี้แล้ว วันคืนเก่า ๆ ของครอบครัวเรามันผุดขึ้นมาเลยนะ ... มีพลังถึงขนาดนี้แล้วแท้ ๆ แล้วทำไมกัน ? ... เฮอะ ... ดันมานึกเอาป่านนี้ซะได้
คาร์ล่า : มันเป็นผลจากการที่มีพลังมากถึงขนาดนี้ ผู้อ่อนแอจะเป็นผู้ขับไล่ผู้ที่แข็งแกร่ง
ชิน : แล้วพวกที่อ่อนแอนั่นก็รวมกลุ่มกันผนึกผู้ที่แข็งแกร่งว่างั้นสินะ ?
คาร์ล่า : ถ้าหากไม่ใช่แบบนั้น ท่านพ่อคงไม่ถูกคาร์ลไฮนซ์มาเทียมเท่าได้แบบนี้หรอก
ชิน : *ถอนหายใจ* ฮึ... นั่นสินะ
คาร์ล่า : พอคิดถึงความรู้สึกของท่านพ่อที่เชื่อใจผู้ชายคนนั้นแล้ว ... ก็รู้สึกทนไม่ได้แล้ว
ชิน : เพื่อนสนิทครั้งหนึ่งในอดีต ... เหรอ
คาร์ล่า : ท่านพ่อมักจะพูดอยู่เสมอ ๆ ว่า คาร์ลไฮนซ์ไม่ใช่ "First Blood"(สายเลือดต้นตระกูล)ที่พิเศษ เพราะอย่างนั้นหมอนั่นจึงได้น่าเชื่อถือ
คาร์ล่า : ... แต่ว่า ... ก็ถูกหักหลัง ... คาร์ลไฮนซ์เอง ... ก็เป็นเพียงแค่ค้างคาวโสโครกที่ต้องการบิดเบือนอำนาจของผู้ปกครองในโลกปีศาจอย่างนั้นไงล่ะ
ชิน : ฮึ ! มันกลัวพวกเราสินะ
คาร์ล่า : ไม่รู้สินะ
ชิน : เจ้าคนสิบแปดมงกุฏคดโกงนั่นคือจ้าวแห่งแวมไพร์งั้นเหรอ ? เป็นเรื่องที่ยากจะให้อภัยเลยนะ
คาร์ล่า : อ่า ...
*เสียงหมาป่าวิ่งมา*
ชิน : อื๋อ ? เป็นอะไร ? ... หือ ? อะไรนะ ? เจอแล้วเหรอ !?
*ชินรีบลุกขึ้น*
คาร์ล่า : เอามาให้ฉันดูหน่อย
ชิน : ... อะ ! ... เฮ้ พวกแก วานเอามาที !
*เสียงหมาป่าวิ่งไป + พวกชินเดินไป*
คาร์ล่า : ... อ่า ... นี่แหละ ... จี้มรกตนี้ ฉันจำมันได้ ... พอได้สัมผัสหินนี้แล้ว จิตความนึกคิดของเจ้าหล่อนก็หลั่งไหลมาเลย
(คาร์ล่ากำลังใช้พลังสัมผัสหิน)
คาร์ล่า : ... อย่างที่คิดเลย ... น้องสาวของท่านพ่ออยู่ที่แผ่นดินนี้
(คาร์ล่ากำหยกแน่น)
คาร์ล่า : ต้องควานหาความคิดให้มากกว่านี้ ถ้าไล่ตามจิตในรูปแบบเดียวกันนี้ได้ ก็จะหาเจอว่าตอนนี้เจ้าหล่อนอยู่ที่ไหนและทำอะไรอยู่
คาร์ล่า : ...อึก ... (คาร์ล่ากำลังใช้พลังสัมผัสหิน)
ชิน : เห็นอะไรมั้ย ?
คาร์ล่า : อ่า ... ชื่อของเธอคือ ... "เมเน่"
คาร์ล่า : ... เมเน่ ... ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ? ที่ไหน ? ... เมเน่ถูกกำหนดให้แต่งงานกับท่านพ่อ ถูกประกาศอย่างชัดเจนว่าห้ามไปปฏิสัมพันธ์กับสายเลือดอื่น ผู้หญิงแห่งสายเลือดต้นตระกูล (First Blood) ที่ถูกควบคุมจับตาอย่างเข้มงวด ... ทำไมถึงหายตัวไปได้ ?
ชิน : ... !! ... (ชินฟังอย่างตื่นเต้น)
คาร์ล่า : ทำไมกัน ? บอกฉันมาที เมเน่ ...
(คาร์ล่ากำลังใช้พลังสัมผัสหิน)
คาร์ล่า : ... มีบางอย่างขัดขวางอยู่ ... พลังของพี่น้อง กำลังขัดขวางการไล่ตามเมเน่อยู่งั้นเหรอ ? ตามหาจิตของเมเน่ที่อยู่นอกขุมนรกปีศาจนี้ไม่ได้เลย
ชิน : เขตอาคมพลังปีศาจของคาร์ลไฮนซ์ที่ล้อมรอบปราสาทนี้เป็นตัวขัดขวางเหรอ ?
คาร์ล่า : แบบนี้ ... ก็รู้สถานที่ของเมเน่อย่างแน่ชัดไม่ได้ ... เรื่องที่รู้ตอนนี้คือ แค่เรื่องที่เจ้าหล่อนหนีออกไปอย่างลับ ๆ จากขุมนรกปีศาจนี้เท่านั้น
ชิน : ชิ ! ... งั้นก็หมายความว่า ตราบใดที่ยังอยู่ที่นี่ ก็ไร้โอกาสตามหาร่องรอยของเมเน่สินะ
คาร์ล่า : ... (ถอนหายใจ) ... น่าเจ็บใจจริง
--- แกร๊ก !!
*เสียงหยกร่วง*
ชิน : โอ๊ะโอ๋ ! พี่ ทำหินเม็ดสำคัญหล่นแล้วน่ะ
คาร์ล่า : พอรู้รูปแบบของจิตของเมเน่แล้ว ก็หมดธุระกับหินก้อนนั้นแล้ว ... ไปกันเถอะ
*เสียงคาร์ล่าเดินไป*
ชิน : ... เฮ่อ ... เพื่อความมั่นใจ ฉันพกหินก้อนนี้ไว้ดีกว่า ... พี่ รอด้วยสิ !
*เสียงชินวิ่งตาม*
*เสียงคาร์ล่าเดินและชินเดินตาม*
ชิน : ... ! พี่ จะไปไหนน่ะ ? ... อ๊ะ ! ทางนั้นมัน !
คาร์ล่า : ประตูใหญ่ที่ถูกผนึกไว้ไงล่ะ
ชิน : คิดจะทำอะไรน่ะ ?
คาร์ล่า : ดูเหมือนเมเน่จะหนีออกไปจากทางนั้น ฉันไล่ตามจิตที่หลงเหลืออยู่รอบ ๆ นี้มา
ชิน : ... หา ? จากประตูใหญ่ ? แต่ว่าที่นั่นน่ะ ถูกปิดผนึกด้วยพลังที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษอยู่นี่ ?
คาร์ล่า : เรื่องที่ถึงพวกเราทั้งตระกูลถึงรวมพลังกันก็ยังทำลายไม่ได้เป็นความจริง ... แต่ว่า ... เมเน่ต้องใช้วิธีอะไรสักอย่างฝ่าผนึกนี้แล้วหนีออกไปได้แน่
ชิน : แล้วมันคือวิธีอะไรกันแน่ล่ะ ?
คาร์ล่า : ... ฮืม ...
*เสียงคาร์ล่าเดินและชินเดินตาม หยุดกันทีหน้าประตู*
--- เปรี๊ยะ ! เปรี๊ยะ !
*เสียงผนึกของประตู*
ชิน : ... โห ... จากที่นี่เหรอ ? ถึงจะยืนห่างขนาดนี้ ยังแทบจะขนลุกเปรี๊ยะ ๆ เลย รู้สึกได้ถึงพลังปีศาจที่แข็งแกร่งเลยล่ะ ดูเหมือนไม่น่าจะใช่ผนึกที่ผู้หญิงตัวคนเดียวจะฝ่าออกไปได้เลยนะ
คาร์ล่า : ที่นี่น่าจะมีจิตของเมเน่ตกค้างอยู่ ... ถ้าหากได้สัมผัสถึงจิตนั่นล่ะก็ ... (เหมือนถอดถุงมือ)
ชิน : อ๊ะ ! พี่ ! การไปแตะต้องผนึกมันอันตรายนะ !
คาร์ล่า : ไม่ต้องมาหยุด !
--- เปรี๊ยะ ! เปรี๊ยะ !
คาร์ล่า : อึ๊ก !!
ชิน : หุนหันไปแล้ว ! ถึงจะบอกว่าเป็นการสัมผัสจิตตกค้างใกล้ ๆ ก็เถอะ แต่แบบนี้พี่ก็ ... !
คาร์ล่า : ... อึ๊ก ... อยู่เงียบ ๆ ... น่า ... อย่ามาจับนะ
ชิน : อะ ! ... หนอย ...
คาร์ล่า : ... อึก ... การจบสิ้นของสายเลือดเท่านั้น ... ที่ต้องทำการหลีกเลี่ยง ... ให้เร็วที่สุด
ชิน : หา ? พี่ ? นั่นมันหมายความว่าไง ?
--- เปรี๊ยะ ! เปรี๊ยะ !
คาร์ล่า : อึ๊ก !! ... อึก ... อย่างที่คิดเลย ... ไม่ไหวเหรอ ? เวลาผ่านไปนานเกินไป ... แต่ว่า ... จะยอมถอยแค่นี้ได้ยังไง !
ชิน : ... พี่ ...
--- เปรี๊ยะ ! เปรี๊ยะ !
คาร์ล่า : อั๊ก ! อ้าก ! อั๊ก !
ชิน : อ๊ะ !!
คาร์ล่า : ... อึก ! เห็นแล้ว ... นี่มัน ... ความมืด
ชิน : ... !! เห็นอะไรเหรอ ?
คาร์ล่า : ถึงจะเลือนราง ... อย่างมาก ... แต่คืนที่มืดมิด
--- เปรี๊ยะ ! เปรี๊ยะ !
คาร์ล่า : อ้าก !!
ตุ๊บ !
*คาร์ล่าล้ม*
ชิน : พี่ ! ทำใจดี ๆ ไว้ !!
*พยุงคาร์ล่าขึ้นมา*
ชิน : ... ฮึบ ! ... เป็นอะไรรึเปล่า ?
คาร์ล่า : ... อ่า ...
ชิน : ... เฮ่อ ... โล่งอกไปที
คาร์ล่า : ... เมเน่ บางที ... ในคืนจันทรคราส
ชิน : หมายถึงอะไร ?
*คาร์ล่าพยุงตัวเองขึ้นมา*
คาร์ล่า : เห็นความมืดจากจิตที่หลงเหลืออย่างเลือนรางภายในม่านพลัง คงจะเป็นความทรงจำตอนที่เมเน่ฝ่าม่านพลังออกไป
ชิน : งั้นเหรอ ! พลังของแวมไพร์นั้นไวต่อการขึ้นลงของพระจันทร์ แค่เล็งตอนที่พลังอ่อนลงเท่านั้นก็พอ !
คาร์ล่า : อ่า ... แล้วในวันนั้นพลังของวงศ์ตระกูลเราจะขึ้นไปสู่จุดสูงสุด
ชิน : ถ้ามีวันนั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะทำลายไม่ได้สินะ
คาร์ล่า : ใช่
ชิน : ชิ ! ดันไม่เคยรู้สึกตัวถึงเรื่องง่าย ๆ แบบนั้นมาจนถึงป่านนี้เลยเนี่ย !
คาร์ล่า : สมมติว่าถึงจะรู้ตัวก็ตามที ... แต่ถ้าคืนจันทรคราสของโลกปีศาจนี้ไม่วนมาถึงจะทำเช่นไร ?
ชิน : มันก็ใช่อยู่หรอก ... แต่เมเน่ที่รู้ถึงเรื่องนั้นดันใช้จังหวะเหมาะหนีออกจากปราสาทไปเพียงคนเดียวซะได้ ! ทอดทิ้งพวกพ้อง ...
คาร์ล่า : เมเน่ถูกคาร์ลไฮนซ์เสี้ยมสอนเอา ว่าให้หนีออกไปตอนคืนวันจันทรคราส ... จิตที่หลงเหลืออยู่ที่นี่ของผู้หญิงคนนี้บอกฉันมา ...
และเพื่อปกปิดเรื่องนั้น จึงได้ใช้พลังปีศาจของคาร์ลไฮนซ์ ลบความทรงจำเรื่องของเมเน่ออกจากพวกเราทั้งตระกูล .. ถ้าสืบรู้กันว่าผนึกอ่อนแรงในช่วงจันทรคราสจะแย่เอาได้สินะ ...
เหล่าวงศ์ตระกูลที่อยู่ภายในขุมนรกแห่งนี้ที่กลายเป็นอาณาเขตของพลังปีศาจของคาร์ลไฮนซ์ การใช้พลังนั่นในการหลวกลวงก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย
ชิน : ... ชิ ! ยัยเมเน่ ! แอบติดต่ออย่างลับ ๆ กับคาร์ลไฮนซ์งั้นเหรอ !? ยัยคนทรยศ !!!!
คาร์ล่า : แต่ว่า ... ตอนนี้ต้องจับตัวคนทรยศนั่น และรับช่วงต่อสายเลือด ไม่งั้นพวกเราก็ไร้อนาคต
ชิน : ฮึ ! มีแต่จะทำให้อยากฆ่ายิ่ง ๆ ขึ้นไปอีกนะ
คาร์ล่า : ถ้าหมดธุระแล้วจะทำแบบนั้นก็ได้ เพราะฉันไม่ใจอ่อนขนาดปล่อยให้คนทรยศ มีชีวิตอยู่หรอก
ชิน : ... เป็นแบบนั้นเองหรอกเหรอ ... ฮึ ๆ ๆ
คาร์ล่า : อีกไม่นานโชคจะเข้าข้าง จันทรคราสของโลกปีศาจอีกไม่นานจะมาถึงที่นี่ จากหลายร้อยปีผ่านมาแล้วน่ะนะ
พลังของพระจันทร์จะสูญหายไป จะทำลายผนึกอย่างที่เมเน่ทำ ถ้าเป็นอิสระจากขุมนรกนี้ได้แล้วล่ะก็ ก็น่าจะไล่ตามจิตของเมเน่ได้
... พระจันทร์ ... เป็นพวกเดียวกับเราอยู่
ชิน : ... อ่า ... เฝ้ารอให้ค่ำคืนจันทรคราสมาซะแล้วสินะ พี่ ?
คาร์ล่า : ใช่ ...
ชิน : ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว ก็ต้องเตรียมตัวกันแล้ว ขอให้ไม่ต้องกลับมาที่ปราสาทที่น่าหงุดหงิดนี่อีกเป็นครั้งที่สองด้วยเถอะ
คาร์ล่า : ... นั่นสินะ
ชิน : ชักตื่นเต้นแล้วสิ ! ในที่สุดก็จะได้ออกไปจากที่นี่แล้ว
คาร์ล่า : ... อื้ม ...
ชิน : พอเป็นแบบนั้นพวกเราก็ได้เฝ้ารอเวลา ... ในคืนจันทรคราส ก็ได้หนีออกจากขุมนรกได้สำเร็จตามแผน ...
ในตอนที่ได้เป็นอิสระในค่ำคืนที่ท้องฟ้าไร้ดวงจันทร์พร้อมกับพี่ ร่างกายมันออกอาการเลยล่ะ ... ไม่อาจลืมได้เลย ... ท้องฟ้าของนรกนั่น ที่ไม่มีทั้งพระจันทร์และดวงดาว ... มีเพียงแค่ความมืดมิด ได้แต่ต้องทนแหงนมองขึ้นไป การบินไปบนท้องฟ้านั่น ... มันรู้สึกอธิบายไม่ถูกเลย
ทั้งทีทุกอย่างมันเพิ่งจะเริ่มและยังไม่คืบหน้าเลยแท้ ๆ ... แต่รู้สึกแปลก ๆ ราวกับว่ามันจบสิ้นลงแล้ว
อีกอย่างนึง หลังจากนั้น ข้อสรุปจากการที่พวกเราไล่ตามจิตของเมเน่ไป ก็ได้รู้ว่า เมเน่ได้ตายจากไปจากโลกนี้ด้วยโรค Endzeit แล้ว
นึกว่าจะหมดหนทางซะแล้ว ... พวกเรา ก็ได้พบว่าเลือดของเมเน่ได้ถูกสืบทอดไปในตัวของมนุษย์ผู้หญิง
แล้วผู้หญิงคนนั้น ... การที่ตัวผู้หญิงคนนั้นมาออกจะลำบากสักหน่อย ... แต่ตอนนี้ นอนหลับไปเพราะเพลียอยู่ข้าง ๆ ฉัน
ในระหว่างที่คิดอยากจะฉีกเจ้าพวกนั้นออกเป็นชิ้น ๆ ... ฉันก็ลับเขี้ยวอย่างเงียบ ๆ
ชิน : ใกล้จะเช้าแล้ว ... เวลาที่จะเปลี่ยนชะตากรรมแห่งความมืด ... ใกล้เข้ามาถึงขนาดนี้แล้ว
---------------------------------------------------------------------
- FIN -
---------------------------------------------------------------------
DIABOLIK LOVERS DARK FATE
---------------------------------------------------------------------
❤❤❤ บ่นบลาๆๆๆ : track 1 ว่ายากแล้ว เจอ track 4 เข้าไปถึงกับสะอึก
แปลไปงงไป ยากมากมาย
track 4 อาจมีงงกันหน่อยนะคะ เพราะศัพท์ยากมากถึงยากที่สุด
ใคร งง คือ Track 1 จะเริ่มย้อนอดีตในฝันของคาร์ล่าใน Track 2
ส่วน Track 2-3 จะเป็นตอนที่ยุยถูกจับมาแล้ว
และ Track 4 คือ ชินนึกถึงเรื่องอดีต ค่ะ
ใคร งง คือ Track 1 จะเริ่มย้อนอดีตในฝันของคาร์ล่าใน Track 2
ส่วน Track 2-3 จะเป็นตอนที่ยุยถูกจับมาแล้ว
และ Track 4 คือ ชินนึกถึงเรื่องอดีต ค่ะ
**นำไปแจกจ่ายกรุณาให้เครดิต PearlzDeWitch**
*ถ้านำไปแอบอ้างจะเปลี่ยนวิธีเผยแพร่ค่ะ*
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น