ยินดีต้อนรับสู่โลก DIABOLIK LOVERS แปลไทย สร้างมาเพื่อเก็บ บทแปลเพลง ดราม่าซีดี เกม อนิเมะ และบทสรุปเกมของ Diabolik Lovers ที่เราได้จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะค่ะ

★อัพเดทใหม่★

[บทสรุปเกม Guide & Walkthrough] ภาค DARK FATE - บทนำ Prologue

บทความที่ได้รับความนิยม

[ซีดีจำลองสถานการณ์] DIABOLIK LOVERS DARK FATE Vol. 2 บทไตรมาสแรก


DIABOLIK LOVERS 

DARK FATE Vol.2 


-上弦の章 -
(บทไตรมาสแรก)

*แปลชื่อบทได้อีกแบบคือ บทพระจันทร์ข้างขึ้น*
上弦 (jougen) แปลว่า ไตรมาสที่ 1 ของพระจันทร์ข้างขึ้น หรือก็คือ 
เสี้ยวแรกของพระจันทร์เริ่มขึ้น จะเห็นครึ่งซีกของพระจันทร์ทางขวา
พระจันทร์ตามแบบในรูปข้างล่างเลย


รวมคำเรียกเฉพาะใน cd นี้ 
Gesshoku - จันทรคราส
Oyaji (โอยาจิ) - พ่อ (เรียกพ่อที่อายุมากแล้ว)
jijiwe (จิจิเว) , Ojijiwe (โอจิจิเว) - ท่านพ่อ (คำเรียกพ่อแบบสุภาพ)
chichinashi (ชิชินาชิ) - ยัยอกไม้กระดาน (คำเรียกยุยของอายาโตะ)

Track 1  狼の影 (เงาของหมาป่า)

ไรโตะ : ค่ำคืนที่เหมือนกับทุกทีได้มาเยือนอีกครั้ง ช่วงเวลาที่น่าเบื่อเช่นเคยผ่านไปเรื่อย ๆ ซ้ำ ๆ กันทุก ๆ วัน

เรย์จิ : พวกเราเหล่าแวมไพร์ที่มีชีวิตเป็นอมตะนั้น มีเวลาให้ใช้มากมายเหลือประมาณ ในขณะที่ขลุกตัวนอนเอกเขนกในเปลแห่งความเบื่อหน่ายและเกียจคร้าน ก็มีแต่เพียงแค่เฝ้ารอคอย วันแห่งจุดจบได้มาถึง ปรารถนาเช่นนั้นอยู่ ...

ชู : สำหรับพวกเราที่ไม่มีวันแก่ตายไปอย่างธรรมชาตินั้น การตายคือการเริ่มต้นแห่งงานเฉลิมฉลอง ปรารถนาว่า "จะเป็นใครก็ได้ อยากให้มาช่วยฆ่าตัวเอง และอยากให้ช่วยปลดปล่อยจากช่วงเวลาน่าเบื่ออันแสนยาวนานนี้ที" 

อายาโตะ : แต่ทว่าพวกเรานั้น ในตอนนั้นได้คิดว่า "ถ้าแค่จะต้องถูกฆ่าแล้ว ... ไม่ใช่ว่าจะเป็นใครก็ได้" หรอก... 

*เสียงฝูงสัตว์วิ่ง*

--- โบร๋ววววว
(เสียงหมาป่าหอน)

อายาโตะ : DIABOLIK LOVERS DARK FATE Vol. 2 (วอลลูม ทู) บทไตรมาสแรก 

--------------------------------------

อายาโตะ : หา ? หมาป่างั้นเหรอ ? ... ยัยอกไม้กระดาน ละเมอพูดเรื่องอะไรเนี่ย ? บอกว่าเขาลือกันงั้นเหรอ ? ให้ตายสิ จะไปมีหมาป่ามาเพ่นพ่านแถวเมืองมนุษย์ได้ไงกันเล่า ? ยัยบ้าเอ้ย ! 
              ยังไงซะก็คงมีใครมองหมาในเมืองผิดไปล่ะมั้ง ไร้สาระ ! ว่าแต่ไอ้เรื่องเล่าพรรค์นั้นน่ะ ไม่เห็นต้องหอบมารายงานจริง ๆ จัง ๆ ทุกอย่างก็ได้ ... ชิ ! 

อายาโตะ : เจ็บเหรอ ? มันก็ต้องเจ็บอยู่แล้วนี่นะ ก็เพราะฉันบีบซะเต็มแรงเลยนี่น่า ... จะทำให้เจ็บเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้พูดจาเพ้อเจ้อบ้า ๆ แบบคราวนี้อีก เธอน่ะถ้าไม่ทำถึงขนาดนี้ก็ไม่ยอมฟังใช่มั้ยล่ะ ? ถ้างั้นล่ะก็ ... 

อายาโตะ : ... จะทำให้เจ็บมากกว่านี้อีกก็ได้นะ แต่ว่าถ้าเป็นเธอแล้วน่ะ ... ฮึบ ! 

*จับกดจะดูดเลือด* 

อายาโตะ ... แบบนี้จะดีกว่าสินะ ? ฮะ ๆ ๆ ๆ 

ไรโตะ : เดี๋ยวก่อนสิ อายาโตะคุง !

อายาโตะ : หา ? อะไรล่ะ ไรโตะ ? อย่ามาขวางน่า !

ไรโตะ : ไม่ได้จะมาขวางสักหน่อยนะ แค่คิดว่าสำหรับบิทช์จังน่ะใช้เขี้ยวเป็นการลงโทษมันไม่มีความหมายอะไรเลยเท่านั้น ... เพราะงั้นเลยคิดว่าอยากจะให้อะไรที่มันระดับสูง ๆ กว่านี้น่ะ

อายาโตะ : หา ? 

ไรโตะ : ก็แหม ... ก็บิทช์จังน่ะเป็นอัจฉริยะในการเปลี่ยนความเจ็บปวดให้เป็นความสุขนี่น่า เพราะงั้น แบบนั้นมันใช้ไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ ? 
          การลงโทษน่ะ มันคือการทำให้เจ็บปวดทรมานและพูดขอโทษว่าจะไม่ทำอีกแล้ว เป็นของแบบนั้นไง ... ฮึ ๆ

อายาโตะ : ... อ๊า น่ารำคาญ ! มาขัดจังหวะคนอื่นคิดจะทำอะไรกันหา ? 

ไรโตะ : ก็ - บอก - ว่า ไม่ได้ตั้งใจจะขัดจังหวะไงเล่า

อายาโตะ : ให้ตายสิ อุตส่าห์มีอารมณ์ดูดเลือดยัยนี่แล้วแท้ ๆ หงุดหงิดเลย 
อายาโตะ : ... ! ไรโตะ ... หรือว่านายตั้งใจจะทำให้ฉันโมโหรึไง ? นั่นคือเป้าหมายสินะ ? 

ไรโตะ : อะฮึ ก็อาจจะเป็นงั้นก็ได้ ... ก็เพราะว่า ยังไม่ได้ตัดสินว่าบิทช์จังเป็นของอายาโตะคุงแล้วสักหน่อยนี่น่า เลือดของเธอน่ะ เลือดของเธอคนนี้น่ะ สำหรับผมแล้วก็เป็นอาหารโปรดนะ ... ถ้ามีคนกินอาหารอร่อย ๆ เพียงคนเดียวตามใจชอบ ใคร ๆ ก็ต้องหยุดใช่มั้ยล่ะ ?

อายาโตะ : ไม่ตลกเลยนะเฟ้ย ! ฉันนี่เป็นของฉัน !

ไรโตะ : โอ๋ ? เป็นแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ~  ?

*เสียงเรย์จิเดินเข้ามา*

เรย์จิ : เอ้า ๆ การทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องพอแค่นั้นล่ะครับ ให้ตายสิ พอปล่อยไว้เมื่อไหร่ ไม่รู้เลยว่าพวกคุณจะทะเลาะกันที่ไหนหรือตอนไหน

อายาโตะ : หา ? ว่าแต่เรย์จิเองก็เหมือนกันนั่นล่ะ พอเห็นเจ้าขี้เกียจนั่นแล้วก็บ่นจู้จี้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ ? อย่าเที่ยวมาว่าคนอื่นเขาน่า !

เรย์จิ : ฮึ ! ถ้าตราบใดที่ว่าเจ้าคนไม่มีอะไรดีสักอย่างนั่น ไม่เข้ามาทำอะไรเป็นการยั่วยุมากพอในการทำให้ผมหงุดหงิดรำคาญทุก ๆ เรื่องล่ะก็ ผมเองก็ไม่ทำเรื่องน่ารำคาญหรอกครับ

ไรโตะ : งั้นก็หมายความว่า เรย์จิน่ะรู้ว่าชูจะไม่เข้ามายั่วแน่นอนก็เลยบอกว่า "เป็นคนที่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง" และ "คนไร้ประโยชน์" งั้นสินะ ?

เรย์จิ : แต่ผมไม่เคยพูดถึงขนาดว่าเป็น "คนไร้ประโยชน์" ออกไปเลยสักนิดนี่ครับ ?

ไรโตะ : น่า ๆ เรื่องนั้นน่ะจะยังไงก็ช่างนี่น่า  
(แอบหลอกด่าสินะ ไรโตะ)

เรย์จิ : เห็นแบบนี้แต่ผมน่ะเป็นคนรักความสงบสุขนะครับ ไม่ทำเรื่องเล่นไม่ซื่อไม่จำเป็นอย่างมีความสุขจากการทำให้เกิดการทะเลาะกันหรอกครับ ผิดกับพวกคุณ ๆ น่ะนะ

อายาโตะ : หา ? อย่าพูดจาวกไปวนมาเซ่ ไม่เห็นจะเข้าใจสักนิด ! 

เรย์จิ : ถ้าไม่เข้าใจก็ขอเชิญไม่เข้าใจต่อไปตามสบายครับ เอ้า คุณที่นั่งเหม่ออยู่ตรงนั้นเอง ยืนขึ้นมาซะ เพราะหลังจากนี้ผมจะรินชาให้

(ยุยลุกขึ้นยืน)

เรย์จิ : ใช่ ๆ ยืดหลังขึ้นมาให้ตรง ตอนที่รับถ้วยจากผม อยากให้ไม่ลืมมารยาทในพิธีชงชาของที่นี่นะครับ

*เสียงเรย์จิรินน้ำชา*

เรย์จิ : เอ้า อายาโตะกับไรโตะ ทั้งสองคนก็มาดื่มซะสิครับ

อายาโตะ : ชิ ! น่ารำคาญ ... ถึงเรื่องจะราบรื่นตามที่นายต้องการก็เถอะแต่ไม่ชอบใจใบหน้าที่ดูพอใจแบบนั้นเลย !

ไรโตะ : จริงด้วยนะ ผมเองก็ไม่ชอบใบหน้าที่แสดงออกว่าตัวเองชนะแล้วเลยจริง ๆ นะ 

เรย์จิ : ตามสบายครับ เพราะผมไม่มีความสนใจอย่างการทำตัวเป็นที่ชื่นชอบของพวกคุณหรอกนะครับ

*ยกถ้วยชาขึ้นมาจิบ*
*วางแก้ว*

เรย์จิ : ยิ่งไปกว่านั้น ... ที่คุยเรื่องว่าหมาป่าทำอะไรเมื่อสักครู่นี้ ... คุณเอง ก็เคยเห็นหมาป่าเหรอครับ ?

*อายาโตะวางแก้ว*

อายาโตะ : หา ? ยัยอกไม้กระดาน เป็นอย่างนั้นหรอกเหรอ ?

(ยุยบอกอะไรสักอย่าง)

เรย์จิ : อย่างนี้นี่เอง ไม่ใช่ว่าเห็น แต่แค่สงสัยในข่าวลือ

*ไรโตะวางแก้ว*

ไรโตะ : อา ... นั่นสินะ อะฮึ ... ก็นี่ไง ๆ นึกถึงนิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดงขึ้นมาได้ล่ะ หนูน้อยหมวกแดงน่ะนะ ไปทำเรื่องไม่ดีแบบโน่นแบบนี้ กับคุณหมาป่าที่กินคุณยายเข้าไป ... ฮุ ... เพราะอย่างนั้นบิทช์จังถึงได้กังวลเรื่องของคุณหมาป่าสินะ ?

อายาโตะ : ... หนูน้อยหมวกแดงมันเป็นเรื่องแบบนั้นเหรอ ?

เรย์จิ : อายาโตะ ... อย่าไปสนใจเลยครับ เชื่อไม่ได้หรอก

อายาโตะ : อื้ม (เชื่อฟัง)

ไรโตะ : เอ๋ ? เดี๋ยวสิ พูดแบบนั้นมันร้ายกาจไปหน่อยมั้ง ?

เรย์จิ : ยังไงก็ตาม ! ปล่อยเรื่องข้อเท็จจริงที่ว่าหมาป่าปรากฏตัวออกมาจริงหรือเปล่าไว้แค่นี้ล่ะ 
         ... ก็ ถึงจะไม่ใช่หนูน้อยหมวกแดงก็ตามที แต่สำหรับมนุษย์แล้วอย่างพวกหมาป่าคือภัยคุกคามเป็นสัตว์กินเนื้อดุร้ายนี่นะครับ 
        ด้วยเหตุผลนั้น หมาป่ามีเรื่องเล่าขานอยู่หลายเรื่องในฐานะความชั่วร้ายตั้งแต่อดีตกาลเยอะแยะเลยซะด้วย และจากที่เปรียบเป็นความหวาดกลัว ในทางตรงข้ามจึงได้เป็นสิ่งที่นับถือบูชาครับ
        ถ้ามีคนบอกว่าเจ้าสิ่งนั้นได้มาปรากฏตัวที่เมืองใหญ่แบบนี้ มนุษย์คงจะรู้สึกกลัวโดยสัญชาตญาณกันเป็นแน่เลยล่ะครับ

อายาโตะ : อะไรกัน ยัยอกไม้กระดาน? นี่เธอ ... อีกะแค่หมาป่าแค่นั้นมันทำให้สัญชาตญาณเธอทำงานขึ้นมารึไง ? ที่น่ากลัวที่สุดน่ะต้องเป็นท่านอายาโตะคนนี้ไม่ใช่รึไง ?

ไรโตะ : ใช่ ๆ พวกเราน่ะเป็น แวมไพร์ที่แสนจะน่ากลัวนะ ที่จะดูดเลือดของบิทช์จังจนทำให้ทั้งจิตใจและร่างกายเป็นบ้าไปเลยนะ ... ฮึ ๆ ๆ

เรย์จิ : ... เฮ่อ ให้ตายสิ ... พออยู่กับพวกคุณแล้ว ชอบทำให้เธอไขว้เขว้ไปแบบนั้นเรื่อยเลยสินะครับ ... ยิ่งกว่านั้น ไม่คิดว่ามีเรื่องที่ต้องคิดมากกว่าเรื่องนั้นในตอนนี้เหรอครับ ?

อายาโตะ : อะไรล่ะนั่น ? ที่ว่าเรื่องที่ต้องคิดน่ะ ?

เรย์จิ : พอพูดถึง "หมาป่า" แล้ว พวกคุณน่าจะมีคนที่พอจะนึกออกได้นะครับ 

ไรโตะ : ... อื้ม ... คนที่น่าจะนึกออก ? นอกจากเรื่องแนวหนูน้อยหมวกแดงแล้ว ผมก็นึกไม่ออกเลยนะ 

อายาโตะ : มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นรึไง ?

เรย์จิ : ให้ตายสิ ... แวมไพร์ที่ลงมาอยู่ที่โลกมนุษย์เบื้องล่างก็เป็นซะแบบนี้ ... 
         ที่โลกปีศาจมีไม่ใช่เหรอครับ ? เผ่าพันธุ์หมาป่า น่ะ

ไรโตะ : อ๋อ~ จะว่าไปก็จริงด้วยสินะ

อายาโตะ : ลืมไปสนิทจนถึงเมื่อกี้นี้เลยนะ 

อายาโตะ : ... อะ ! งั้นก็แปลว่า ถ้างั้น ที่ไปป้วนเปี้ยนแถวเมืองนั่นเป็นหมาป่า ก็แสดงว่าเป็นเจ้าพวก "เผ่าหมาป่า" งั้นเหรอ !?

*เสียงคนก้าวเดินเข้ามา*

สุบารุ : เรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้หรอก

ไรโตะ : สุบารุคุง ? อยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ? (ทำน้ำเสียงตื่นตาตื่นใจมาก)

สุบารุ : อย่ามาล้อเล่นนะ !  *--ตูม !*(สุบารุทุบกำแพงพัง)

สุบารุ : ฉันอยู่ตรงนี้มาตลอดตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้วเฟ้ย

อายาโตะ : ตัวตนเบาบางเกินไปจนไม่รุ้สึกตัวเลยฟะ โทษทีแล้วกันนะ

สุบารุ : เฮอะ ... นั่นมันหมายความว่า นายสูญเสียสัญชาตญาณดิบ ตกต่ำลงไปเป็นแค่สัตว์เลี้ยงไปแล้วอย่างนั้นสินะ

อายาโตะ : หา !? สัตว์เลี้ยงงั้นเหรอ ? ... แก ! อายุน้อยกว่าแท้ ๆ อย่ามาล้อกันเล่นนะเฟ้ย !

สุบารุ : ชิ ! อีกอย่าง ไอ้เจ้าคนที่ลืมเรื่องของเผ่าหมาป่านั่นไปซะสนิทน่ะ ไม่มีสิทธิ์จะใช้ชื่อว่าเป็น "แวมไพร์" อีกแล้วเฟ้ย ชื่อว่า "สัตว์เลี้ยง" ก็มากพอแล้วล่ะ 
         แม้แต่เรื่องที่เพราะว่าเจ้าพวกหมาป่าไวต่อความรู้สึกคลั่ง เลยจะไม่มีทางออกจากอาณาเขตของพวกตัวเอง ก็ดูเหมือนจะลืมไปแล้วสินะ ?

ไรโตะ : อะฮึ ก็นะ ผมน่ะไม่มีความภาคภูมิใจในการเป็นแวมไพร์เลยนี่น่า เพราะว่าไม่ได้อยู่ในสถานที่ที่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องหมาป่า จะลืมไปมันก็ช่วยไม่ได้ไม่ใช่เหรอ ? มันออกจะแตกต่างไปจากคำที่บอกว่าเป็น "สัตว์เลี้ยง" ไปหน่อยนะ

สุบารุ : เพราะอย่างนั้นแหละถึงเป็น "สัตว์เลี้ยง" ไงเล่า ... ผู้หญิงที่อยู่ตรงนั้นไม่ว่าจะพูดยังไงก็ตามที แต่ที่จริงแล้วสำหรับพวกนาย แล้วเลือดของผู้หญิงตรงนั้นก็เป็นอาหารของพวกนายไม่เปลี่ยนไม่ใช่เหรอ ?

เรย์จิ : สุบารุหยุดได้แล้วครับ หงุดหงิดอะไรขนาดนั้นอยู่กันครับ ?

สุบารุ : ก็เพราะพวกนายมันงี่เง่าจนทนไม่ไหวไงเล่า !

ไรโตะ : สุบารุคุง ... เป็นวันนั้นของเดือนสินะ ? ฮึ ๆ 

สุบารุ : แก ... !! อยากถูกต่อยกระเด็นเหรอ !?

*ง้างมือขึ้นมาจะชก*
*ยุยคว้าไว้*

สุบารุ : หา ? อะไรเล่า ? ทำไมเธอต้องมาบอกว่า "หยุดเถอะ" ด้วยเล่า ? ... อีกอย่าง เธอก็เหมือนกันตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว อย่าไปทำตัวสนิทใกล้ชิดกับเจ้าพวกบ้านี่เซ่ ! ... ชิ ! ... ให้ตายสิ หงุดหงิดจริงว้อย ! 

--- ตูม !!
(สุบารุทุบกำแพง)

เรย์จิ : ให้ตายสิ ๆ ... เหตุผลที่สุบารุหงุดหงิดก็คือเรื่องนั้นหรอกเหรอ ?

สุบารุ : หา !?

เรย์จิ : ผมพูดกับตัวเองน่ะครับ ... เอ้า กลับมาเรื่องเดิมที่คุยกันเถอะ ก็อย่างที่สุบารุพดเมื่อสักครู่ พวกเผ่าหมาป่าน่ะ ต่อให้เป็นที่โลกปีศาจ ก็จะไม่ออกจากอาณาเขตหรอกครับ ... ที่โลกมนุษย์นี้เป็นเช่นเดียวกันครับ

ไรโตะ : ก็ คงงั้นสินะ ? เคยมีครั้งนึงในโลกปีศาจ ตอนที่เข้าไปในอาณาเขตของพวกนั้น เจอเรื่องร้ายกาจมากเลยล่ะ 

สุบารุ : หา ? นี่นายเคยทำเรื่องแบบนั้นด้วยเหรอ ?

ไรโตะ : ที่ไหน ๆ ก็มีนี่น่า ผู้หญิงที่หวาดกลัวเหมือนกับบิชท์จังน่ะ

อายาโตะ : ให้ตาย นายนี่มันเป็นคนที่แยกแยะอะไรไม่ออกเลยจริง ๆ นะ

ไรโตะ : ฮึ อยากให้บอกว่าเป็นคนใจบุญมากกว่านะ

อายาโตะ : หนวกหู ... เอ้า จะเป็นยังไงก็ช่าง ถ้าเกิดว่าเจ้าพวกหมาป่ามาเดินเพ่นพ่านล่ะก็ ฉันคนนี้จะอัดให้กระเด็นไปเอง วางใจได้
              ยัยอกไม้กระดาน... เธอเป็นของของฉันใช่มั้ย ? อย่าให้เจ้าพวกหมาป่ากินไปได้ล่ะ ฮะ ๆ ๆ

เรย์จิ : โอ๋ ? ได้เวลาไปกันแล้วล่ะครับ 

--- แปะ แปะ
*เรย์จิปรบมือ*

เรย์จิ : เอ้า ทุกคน เตรียมตัวไปโรงเรียนได้แล้วครับ ... ถ้าโดดเรียน ผมคนนี้ไม่ยกโทษให้หรอกนะครับ

ไรโตะ : ให้ตายสิ ๆ งั้นคงต้องเตรียมตัวแล้วสินะ~


--------------*ตัดฉาก*--------------

--- แอ๊ด
*เสียงเปิดประตู*

สุบารุ : เฮ้ เตรียมตัวเสร็จรึยัง ?

(เสียงยุยทำอะไรสักอย่าง)

สุบารุ : หา ? มัวแต่ยืดยาดอะไรอยู่ได้ ? *สุบารุเดินเข้ามาใกล้ยุย*

สุบารุ : ... หาของ ? ชิ ! หาอะไรอยู่ล่ะ ?

(ยุยพูดกับสุบารุ)

สุบารุ : กิ๊ฟติดผม !? ของแบบนั้นจะเป็นยังไงก็ช่างไม่ใช่เหรอ !?

สุบารุ : ... เฮอะ ผู้หญิงเนี่ย แค่หาของพรรค์นั้นทำไมถึงใช้เวลามากขนาดนั้น ? ไม่เห็นจะเข้าใจเลย !
         ... ให้ตายสิ ! แล้วต้องหาตรงไหนล่ะ ?

(ยุยพูดกับสุบารุ)

สุบารุ : หา ? งั้นทางนี้ก็ยังไม่ได้หาสินะ ?

*สุบารุช่วยยุยหา*

สุบารุ : ... อืม ... เฮ่อ ไม่มีแหะ ... ชิ ! วุ่นวายจริง ... เฮ้ ข้างล่างนี่ดูรึยัง ? ... อ๊ะ ! มันตกอยู่แน่ะ

*สุบารุเอื้อมมือไปหยิบ* 

สุบารุ ... อึ๊บ ! ... เฮ่อ ให้ตายสิ 

*เดินเข้าไปให้ยุย*

สุบารุ : เอ้า นี่ ... อ่า เดี๋ยวก่อนนะ ... ไอ้นี่ใช้เสียบที่ผมสินะ ? ฉันจะทำให้เอง (กรี๊ดดดดด!!) 

สุบารุ : ค่อย ๆ ส่องกระจกแล้วทำนู่นทำนี่ทีละน้อย ๆ มันน่ารำคาญ ฉันรอไม่ได้หรอก (ซึนค่าาาา)

*สุบารุกำลังติดกิ๊ฟให้*

สุบารุ : ... รู้สึกว่า เธอมักจะติดแถว ๆ นี้ ... เอ *หายใจเข้าอย่างตั้งใจทำ* ... แบบนี้ ?

-- แปะ !
*เสียงติดกิ๊ฟ*

สุบารุ : เอาล่ะ ! ประมาณนี้ล่ะมั้งนะ ? ทำออกมาดีใช้ได้เลยล่ะ ... หือ ? ทำไมเธอ ... ถึงหน้าแดงล่ะ ? 

สุบารุ : หะ ? อาย ? เรื่องอะไร ... (เพิ่งรู้สึกตัวว่าทำอะไรลงไป) 
         ... อะ !! นะ- นี่มัน ไม่ใช่ว่า ...
         ... !! น่ารำคาญชะมัด ! 
         ... มะ ... เมื่อกี้ ... คือว่า ... ยังไงดี ... ฉันหงุดหงิดนิดหน่อยน่ะ ... ขอโทษที ... นะ 
         ... อ้า ! ไม่ใช่สิ ! ไม่ใช่แบบนั้น ไม่ใช่แบบนั้น !
         ... เอ่อ ... อ๊า ยุ่งยากชะมัด ! ... อะ ใช่แล้ว ฉันแค่อยากได้เลือดของเธอเท่านั้นเอง พอมาอยู่ใกล้ ๆ แบบนี้แล้ว ก็ดูดได้อย่างง่าย ๆ เลยใช่มั้ยล่ะ ?

สุบารุ : เอ้า อยู่เฉย ๆ ล่ะ 

*กัด*
*ดูดเลือด*

สุบารุ : ... *ฮ่า* ...

*ดูดเลือด*

สุบารุ : ...อึก ๆ ... *ฮ่า* ... เข้าใจรึยัง ? ที่เข้าใกล้เธอก็เพื่อแบบนี้ไงล่ะ 

*ดูดเลือด*

สุบารุ : ...อึก ๆ ... *ฮ่า* ... *เฮ่อ* ... นี่ ... *ฮ่า* ... เลือดของเธอเป็นของฉัน อย่าให้ใครคนอื่นเที่ยวดูดตามใจชอบเชียวนะ เข้าใจรึเปล่า ? 

ไรโตะ : บิทช์จัง ! สุบารุคุง ! ลีมูซีนมาแล้วนะ !

สุบารุ : ชิ ! ช่วยไม่ได้ ไปกันเลยมั้ย ? เอ้า 

*สุบารุจับมือยุย*

สุบารุ : มาสิ ... เอาเถอะน่า เร็วเข้า ! มือ !? ก็เพราะเธอมันแต่ชักช้านั่นล่ะ ! ให้ฉันกุมมือไปเฉย ๆ เถอะน่า ! 

(❤❤❤ บ่นบลาๆๆๆ : โอ้ย สุบารุ ซึน หวาน น่ารัก ว๊ากกก ตายตอนจบนี่แหละ *0*)
-------------------------------------------------------------------------

Track 2  月蝕の予感 (ลางแห่งจันทรคราส)

--- บรืน 
(เสียงรถวิ่ง)

คานาโตะ : ฮ้าว~ ... ในระหว่างที่ผมกำลังหลับสบายอยู่ ทุกคนทำเรื่องสนุก ๆ แบบนั้นกันสินะครับ ? ... ถ้าช่วยปลุกกันสักหน่อยก็ได้แท้ ๆ นี่

เรย์จิ : เรื่องที่พูดเมื่อสักครู่ฟังเป็นเรื่องสนุกตรงไหนกันครับ ? ผมล่ะสงสัยจริง ๆ

อายาโตะ : ก็ มันก็น่าสนุกตรงที่ยัยอกไม้กระดาน กลัวหมาป่าอยู่หรอกนะ

ไรโตะ : นั่นสินะ เป็นเพราะว่าบิทช์จังใช้ชีวิตร่วมกับพวกเราล่ะมั้ง หมู่นี้ไม่ว่าจะพูดอะไร ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ไม่มีท่าทีจะกลัวเลย

คานาโตะ : นั่นสินะครับ ผมเอง ... ฮึ ๆ ๆ รอที่จะดูสภาพที่หวาดกลัวของเธออยู่นะครับ

สุบารุ : ... แต่ฉันว่าดูหน้าตาไม่ใช่แบบนั้นเลยนะ ... พวกนายเป็นแฝดกันสามคนจริง ๆ ด้วยสินะ

ชู : ไร้สาระ ... ถ้ามาปลุกกันทุก ๆ ครั้งด้วยเรื่องแบบนั้นล่ะก็ ฉันทนไม่ได้หรอกนะ ... ฮ้าว~ ... ง่วงชะมัด 

คานาโตะ : จะว่าไป เมื่อคืนนี้ชูออกไปไหนมาเหรอครับ ? ผมเห็นตอนออกไปน่ะครับ

ชู : อ่า ไปธุระนิดหน่อยน่ะ

เรย์จิ : เกี่ยวกับท่านพ่อเหรอ ?

ไรโตะ : ไปให้ถูกดุ เหมือนอย่างทุกทีเหรอ ?

ชู : พอเป็นเรื่องของคนอื่นรู้สึกดูจะสนุกจังเลยนะ ไรโตะ ? ถ้างั้นตั้งแต่ครั้งต่อไปจะเปลี่ยนเป็นนายแทนก็ได้นะ

ไรโตะ : อะฮึ งานสำคัญแบบนั้นเกรงใจไม่เอาหรอกนะ งานที่มีเกีรยติน่าภาคภูมิใจที่เรียกว่าเป็นการไปเข้าพบคนคนนั้นบ่อย ๆ น่ะ ขอฝากให้กับชูคนที่เป็นลูกชายคนโตนะ

อายาโตะ : เจ้าพ่อนั่น บอกอะไรมาอีกล่ะ ? คราวนี้เป็นขั้วโลกใต้ หรือว่าผิวพระจันทร์ล่ะ ?

ชู : ก็นะ ... ถ้าแค่ไปผิวพระจันทร์ ไม่ต้องอุตส่าห์มาบอกเรื่องพรรค์นี้ก็ส่งไปได้หรอกน่า 

ชู : บอกว่าโลกปีศาจกำลังเข้าสู่ช่วงจันทรคราสน่ะ

คานาโตะ : จันทรคราสคลั่ง อีกแล้วเหรอครับ ?

ไรโตะ : จันทรคราสครั้งที่มีล่าสุดเนี่ย ... มันเมื่อกี่ร้อยปีก่อนกันนะ ? ... อื้ม ... นานหลายปีจนจำไม่ได้เลย ... แต่ว่านะ จำได้ว่ามันคลั่งซะจนน่ารำคาญเลยล่ะ

*ยุยเรียกอายาโตะ*

อายาโตะ : อะไรล่ะ ยัยอกไม้กระดาน? จันทรคราสของโลกปีศาจน่ะมันก็คือ ... เอ่อ ... อะ พูดสั้น ๆ มันก็เป็นอย่างนั้นแหละ ... ที่โลกปีศาจก็มีพระจันทร์แล้วก็ ดวงอาทิตย์อยู่เหมือนกันล่ะ ... เพราะงั้นจะจันทรคราสหรือสุริยคราสก็มีบ้างทั้งนั้นล่ะ

เรย์จิ :... ก็นะ เดิมทีแล้วระยะเวลาของการขึ้นของดวงอาทิตย์และพระจันทร์ และเวลาการครบรอบของปฏิทิน ส่วนใหญ่ต่างจากโลกมนุษย์เบื้องล่างนี้มากเลยล่ะครับ
       หรือก็คือ ช่วงระยะเวลาการโคจรมาของจันทรคราสโดยปกติ ต่างกับของทางนี้มากเลยล่ะครับ

*ยุยถามชู*

ชู : หา ? อยากรู้เรื่อง "จันทรคราสคลั่ง" ? ... ให้ตายสิ เธอนี่ทำไมถึงเป็นผู้หญิงที่วุ่นวายแบบนี้นะ

ชู : คลั่งก็คือคลั่งไงล่ะ
(騒動 「soudou」แปลว่า สับสนยุ่งเหยิง ขอใช้คำว่าคลั่งแทนนะคะ แนวๆเดียวกัน)

ชู : มันต่างไปจากปกติ มันสร้างปัญหาสุด ๆ แล้วก็เกิดความน่ารำคาญแบบนั้นไง

คานาโตะ : ครั้งล่าสุดมีอะไรเกิดขึ้นนะ ? รู้สึกว่าจะถูกบอกอย่างนั้นอย่างนี้ว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ... พวกเราก็เลยถูกขังอยู่ในปราสาทเลย

ไรโตะ : คนคนนั้นร้องกรี๊ดกร๊าดเสียงดัง เดือดร้อนมากเลยเนอะ ? ก็เพราะว่าเป็นคนที่เกลียดการถูกจำกัดขอบเขตมากกว่าอะไรทั้งหมดเลยนี่น่า

อายาโตะ : อ้อ นึกออกแล้วล่ะ ยัยป้าอิสทีเรียนั่นทำให้ลำบากมากเลยนะ

เรย์จิ : เจอเรื่องแบบนั้นกันด้วยสินะครับ ? ผมอยู่อีกตึกเลยไม่ทราบเลย ... แต่จะว่าไป แปลก ๆ นะครับ ? 

อายาโตะ : หือ เรื่องอะไร ?

เรย์จิ : สิ่งที่เรียกว่าแวมไพร์น่ะ เป็นสิ่งที่ได้รับอิทธิพลจากดวงจันทร์ง่าย พอดวงจันทร์ที่เริ่มแหว่งเป็นจันทรคราสเมื่อไหร่ จะทำเรื่องอะไรหลาย ๆ อย่างผิดไปจากปกติ ทำอะไรตามอย่างที่คิดไว้ไม่ได้เลย ...

เรย์จิ : ... เป็นปกติสินะครับ ? ท่านคอร์เดเลียน่ะ

ไรโตะ : ตอนที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้น่ะ พวกเรายังเด็กอยู่ เลยไม่ค่อยรู้น่ะ ... ยิ่งไปกว่านั้น ก็นึกสภาพของคนคนนั้นไม่ออกด้วย

คานาโตะ : เป็นเหมือนปกติครับ

ชู : ก็นะ คุณป้านั่นคงเป็นข้อยกเว้นเท่านั้นล่ะมั้ง ? เดิมทีแล้วถึงจะผิดไปจากทุกที มีความเป็นไปได้ว่าเพราะกลับมาเป็นปกติทันทีก็เลยไม่เห็นว่าเป็นแบบนั้น

คานาโตะ : ชู อยากให้ช่วยเลิกพูดจาไม่ดีกับเรื่องของท่านแม่ครับ 

ชู : อะไรกัน ? พวกนายเป็นคนฆ่าเองแท้ ๆ ยังกล้าพูดอีกนะ

ไรโตะ : สำหรับแวมไพร์แล้ว การฆ่าคือหลักฐานของความรักที่ยอดเยี่ยมที่สุด ใช่มั้ยล่ะ ?

สุบารุ : เออ ๆ หนวกหูน่า เรื่องมันยิ่งแต่จะซับซ้อนขึ้นไป พวกแกน่ะอยู่เงียบ ๆ ไปซะไป ! 

สุบารุ : ว่าแต่ ชู ที่เจ้าพ่อเฮงซวยนั่นเรียกไปน่ะ สุดท้ายแล้วเพราะว่าจะเกิดจันทรคราสก็เลยเตือนให้ระวังมางั้นเหรอ ?

ชู : หา ? อ่า .. ก็ประมาณนั้นล่ะ ... ที่เหลือก็ ... เห็นบอกว่าคิดว่าจันทรคราสคราวนี้มันจะต่างจากปกติทั้งคู่นิดหน่อยน่ะ

*ยุยพูดกับชู*

ชู : ใช่แล้ว จันทรคราสในคราวนี้ จันทรคราสคลั่งของโลกปีศาจกับจันทรคราสของทางนี้ มันจะโคจรเป็นต่อจากกันไปน่ะ
(**ไม่เข้าใจตรงนี้เหมือนกันน่าจะ โลกปีศาจเกิดก่อนแล้วระหว่างที่คราสกำลังจะคลายก็ไปโผล่ที่โลกมนุษย์เป็นคราสต่อ)

สุบารุ : แล้ว ... นั่นมันจะเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ ?

ชู : ไม่รู้สิ ... ก็นะ ถึงจะพูดท่านั้นท่านี้ แต่ก็บอกว่าให้เตรียมตัวระวังเอาไว้น่ะ ... อย่างนั้นน่ะ 

สุบารุ : มีแค่นั้นเองเหรอ ? 

ชู โรคกลัวจันทรคราสของพ่อน่ะไม่ไหวเลย ... แต่ว่า กลับกันที่หมอนั่นกลัวของแบบนั้นเนี่ยน่ากลัวแหะ

เรย์จิ : ท่านพ่อน่ะ คงมีลางสังหรณ์อะไรสักอย่างแน่เลยครับ

อายาโตะ : ลางสังหรณ์เนี่ย แบบไหนล่ะ ?

ไรโตะ : นั่นสินะ ไม่เคยเข้าใจได้เลยสักนิด คงไม่ใช่ว่าแค่คิดวางแผนอะไรเอาไว้รึไง ?

คานาโตะ : ตอนก่อนหน้านี้ เห็นพูดเรื่องอย่าง "สิ่งชั่วร้ายจะถูกปลดปล่อยออกมา" อะไรอย่างนี้สินะครับ ?

สุบารุ : "สิ่งที่ชั่วร้าย" ? ... เฮอะ ! มีสิ่งที่ชั่วร้ายกว่าพวกเราอยู่ด้วยเนี่ย นึกไม่ออกเลยนะ ?

*ยุยพูด*

ชู : หา ? "ระวังตัวกันไว้นะ" เหรอ ? ที่เธอพูดอะไรแบบนี้เนี่ยมันรู้สึกแปลกพิลึกเลยนะ

ชู : อ๊ะ ! ถ้าบอกว่าให้ระวังตัวละก็ ทางเธอน่าจะระวังตัวให้เต็มที่จะดีกว่านะ ... มีความเป็นไปได้ที่เธอจะเป็นอะไร มันสูงกว่าที่พวกฉันจะเป็นอะไรอีก

ไรโตะ : ใช่ ๆ เพราะว่าบิทช์จังน่ะเป็นบิทช์จังนี่น่า อาจจะถูกผู้ชายที่ไม่รู้จักพาไปที่ ๆ ไม่รู้จักแล้วถูกเล่นซุกซนก็ได้นะ 

อายาโตะ : ดูท่าทางมีความสุขจังนะ ? 

ไรโตะ : อะฮึ ไม่ใช่แบบนั้นหรอกน่า ผมน่ะนะ เป็น ห่วงมากเลยนะ ถ้าเป็นแบบนั้นน่ะ

คานาโตะ : เพราะว่าคนคนนี้น่ะเชื่องช้างี่เง่า มันก็อาจจะจริงที่อาจจะเกิดเรื่องแบบนั้นก็ได้นะครับ อีกทั้งยัง พอกลายเป็นผู้เคราะห์ร้ายก็จะร้องไห้พูดเรื่องเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมด้วยนะครับ

สุบารุ : พวกเราน่ะไม่ตายง่ายแบบนั้นหรอก เธอน่ะระวังตัวเอาไว้เถอะ ... แต่ฉันไม่ได้สนใจว่าเธอจะเป็นยังไงสักหน่อยนะ  

เรย์จิ : นั่นสินะครับ ระวังไว้ก็ไม่เสียหายนี่ครับ ? นั่นก็เพราะว่าคุณน่ะได้กลายเป็นคนที่เหมือนเป็นพวกเดียวกับเราแล้ว คงเข้าใจที่บอกนะครับ ?

อายาโตะ : ... กลิ่นไงเล่า ... ฟุ้งเลยล่ะ ... ต่อให้ไม่ใช่แวมไพร์ก็ตามที แต่กลิ่นนั้นก็มาจากตัวเธอไง 

*รถจอด*

ชู : ... ฮ้าว~ ... เฮ่อ ... ถึงแล้วเหรอ ? เฮ่อ ให้ตายสิ ๆ ไปงีบบนดาดฟ้าดีกว่า 

*แกร๊ก*
*เสียงเปิดประตูรถ*

*เสียงชูลงรถ แล้วเดินไป*

เรย์จิ : ให้ตายสิ เจ้าคนที่ไม่มีอะไรดีสักอย่างนั่น 

*เรย์จิเดินเข้าตึกเรียน*

อายาโตะ : อ้า น่าเบื่อชะมัด โรงเรียนอะไรเนี่ย *อายาโตะลงรถ* ให้แวมไพร์ไปกลับโรงเรียนเนี่ย มันจะได้อะไรรึไง ? 

*อายาโตะเดินเข้าตึกเรียน*

สุบารุ : ... ถึงจะไม่เต็มใจ แต่เรื่องนั้นเห็นด้วยเลย

*สุบารุเดินเข้าตึกเรียน*

ไรโตะ : บิทช์จัง เอ้า ไปกันเถอะ โรงเรียนน่ะ ! บิทช์จังชอบมากเลยไม่ใช่เหรอ ? การเข้าห้องเรียนน่ะ 

คานาโตะ : ..? เป็นอะไรไปเหรอครับ ? ดูเหมือนกำลังเหม่ออะไรอยู่เลยนะครับ ?

ไรโตะ : หรือว่าจะ บิทช์จัง ... เกิดกลัวเรื่องที่พวกผมคุยกันเมื่อกี้นี้ ? ฮึ ๆ ๆ ถ้าเป็นแบบนั้น ... ผมเอง ก็ขอทำตามที่คิดเอาไว้ล่ะนะ 

*ดึงตัวยุย*

ไรโตะ : ... นี่ ... หลักฐานความตื่นกลัวของเธอน่ะ ขอให้ผมได้พิสูจน์ดูในตอนนี้เลยนะ 

(ยุยพูดอะไรสักอย่าง)

ไรโตะ : เอ๋ ? เรื่องแบบนั้นน่ะ ถ้าสัมผัสแล้วก็จะรู้เองล่ะ 

*ไรโตะจูบ*

ไรโตะ : ... ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเธอจะรู้หรือไม่รู้น่ะ แต่ข้อพิสูจน์ของสิ่งมีชีวิตเวลาที่รู้สึกกลัวน่ะ ดูเหมือนจะถูกกระตุ้นให้สร้างเลือดเนื้อเชื้อไขล่ะ ... 

ไรโตะ : เข้าใจความหมาย ... ของเรื่องที่พูดมั้ย ? 

*ไรโตะจูบ*

ไรโตะ : ฮึ ๆ ... เพราะงั้นนะ ... อยากจะพิสูจน์ดูว่า บิทช์จังจะเป็นเหมือนกันรึเปล่า น่ะ 

ไรโตะ : ถ้าให้พูดล่ะก็ นี่เป็นการศึกษาสิ่งมีชีวิต ... เอ้า แสดงให้ผมเห็นหน่อยสิ

--- ตึก ๆ ๆ ๆ
*เสียงคนวิ่งมา*

--- กึง !!!
*เปิดประตูรถ*

คานาโตะ : โอ๊ะ ! ไรโตะขี้โกงตลอดเลย ! อย่าแตะต้องคนคนนั้นโดยที่ผมไม่อนุญาตจะได้มั้ย ?

ไรโตะ : หือ ? คานาโตะคุง ยังอยู่อีกเหรอ ? งั้นก็พอดีเลย คานาโตะคุงเองก็มาตรวจร่างกายของบิทช์จังด้วยกันสิ

คานาโตะ : ... !! กับไรโตะน่ะเหรอ !?

ไรโตะ : ใช่ ๆ น่าสนุกดีออกนี่ ? 

*คานาโตะคิด...*

คานาโตะ : ... อึก

*คานาโตะเดินเข้ามา*

คานาโตะ : ทราบแล้วครับ มันดูจะสนุกกว่าเข้าห้องเรียนซะด้วยสิ ... แต่ว่า คนคนนี้เป็นของของผม ไม่ให้ไรโตะทำตามใจชอบหรอกครับ !

--- ปึง !!
*เสียงปิดคานาโตะประตูรถ*

*ยุยดิ้น*

ไรโตะ : โอ๊ะโอ๋ ! บิทช์จัง อยู่เฉย ๆ สิ ... ฮึบ ... คานาโตะคุง ผมจะจับขาไว้เอง ช่วยจับแขนที่ใช้ความรุนแรงนั่นไว้ทีสิ 

คานาโตะ : ฮึบ ! อยู่เฉย ๆ สิ ... ถึงจะบอกว่าอยู่ในลีมูซีนก็เถอะ มันก็แคบอยู่ดี !

ไรโตะ : ฮึ ๆ วิวสวยมากเลย
(ยุยดิ้นจนกระโปรงเปิด เสื้อหลุด (น่าจะ)) 

ไรโตะ : ก่อนอื่นคงต้องถอดรองเท้ากับถุงเท้าก่อน ... คงต้องลงโทษ ขาที่ออกลายจะเตะผมด้วยมั้งเนี่ย ?

*ไรโตะกำลังถอดถุงเท้า รองเท้า*

ไรโตะ : ... อะฮึ ได้กลิ่นหอมยั่วยวนจากบิทช์จังด้วยล่ะ 

*ไรโตะดมกลิ่น*

ไรโตะ : ซู้ด .... ฮ่า ... ทนไม่ไหวแล้ว ได้กลิ่นเลือดหอม ๆ  

ไรโตะ : ... อื้ม ... *จุ๊บ* ... *จุ๊บ* ... *จุ๊บ* ... ฮึ ๆ อายเหรอ ? ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วนี่นะ จูบลงไปบน ขาที่เปลือยเปล่า แบบนี้ไง ... *เลีย* ... อื้ม ... *เลีย* ... เลียไปซะแล้วสิ

คานาโตะ : นี่เธอ ! อย่าให้ไรโตะดึงความสนใจไปสิครับ ! เธอต้องมองแต่ผมเท่านั้น ...

คานาโตะ : ใช่ อย่างนั้นล่ะ ... เอ้า จะให้รางวัลนะ

*คานาโตะจูบ*

คานาโตะ : ว่าแล้วเชียว จูบบนริมฝีปากน่ะดีใช่มั้ยล่ะ ? ฮึ ๆ

*คานาโตะจูบต่อ*

คานาโตะ : เอ้า ดูท่าทางจะรู้สึกดีขึ้นมาแล้ว ... จะทำให้ดียิ่งกว่าไรโตะให้ตลอดเลย

ไรโตะ : อะฮึ คานาโตะคุงนี่ล่ะก็ เป็นพวกชอบพิธีแบบเดิมเกินคาดนะ ... แต่ว่า นาน ๆ ทีก็ดีใช่มั้ยล่ะ แบบนี้่นะ ? 

ไรโตะ : ก่อนหน้าที่จะกายวิภาคสิ่งมีชีวิต ก่อนอื่นคงต้อง ... ทดลองก่อน 

*กัด*
*ดูดเลือด*

ไรโตะ : ... อื้ม ... อื้ม ...

คานาโตะ : ฮึ ๆ เจ็บเหรอ ? ทำหน้าเจ็บปวดมากเลยล่ะ ... นิ้วเท้าถูกกัดมันต้องเจ็บมากแน่ ๆ เลยเนอะ ?

(ไรโตะดูดเลือดที่นิ้วเท้าสินะ สรุปคือที่เลีย ๆ มานั่นคือเท้าสินะ -_-')

คานาโตะ : แต่ว่า ทางผมเจ็บกว่านะ ... นี่ไง ตรงนี้ ... จะกัดลงไปให้เต็มแรงเลยล่ะ .. *อ้าปาก*

*กัด*
*ดูดเลือด*

คานาโตะ : ... อึก ... ซู้ด ... อึก ...

--- แกร๊ก !!!
*ประตูรถเปิด*

อายาโตะ : พวกแกทำอะไรกันอยู่น่ะ ! 

ไรโตะ : อะฮึ ๆ อายาโตะคุง ยินดีต้อนรับกลับ~

อายาโตะ : ต้อนรับกลับบ้าอะไร !

*อายาโตะดึงยุยไปจากสองคน*

อายาโตะ : ก็คิดอยู่ว่าช้ากันชะมัดทำแบบนี้กันอยู่นี่เอง ...ยัยอกไม้กระดาน เธอนี่ชอบป็นแบบนี้จังเลยนะ หา !?

ไรโตะ : นี่ ๆ อายาโตะคุง ถ้างั้นมาสนุกกันสามคนเอามั้ย ? ต่อจากนี้ไป อายาโตะมาร่วมวงด้วยกันก็ได้นี่

อายาโตะ : หนวกหู หุปปากไปเลย ! เอ้า ยัยอกไม้กระดาน ไปกันได้แล้ว !

--- ปึง !!
*อายาโตะปิดประตูรถใส่*

*อายาโตะพายุยเดินไป*

--- แกร๊ก !
*เสียงเปิดประตูรถ*

ไรโตะ : ลืมของแน่ะ บิทช์จัง ! รองเท้า ถุงเท้ากับกระเป๋า !

อายาโตะ : แกก็ถือตามไปให้ทีหลังสิ ! ให้ตายสิ ! อย่าประมาทเผยช่องว่างสิ  

คานาโตะ : ... ฮึก ! ... โหดร้าย ... ฮึก ... อายาโตะ ไม่ยกโทษให้เด็ดขาดเลย ! 

อายาโตะ : ไม่ต้องยกโทษให้ตลอดชีวิตเลยก็ได้นะ 

*อายาโตะพายุยเดินไป*

อายาโตะ : เฮ้ ยัยอกไม้กระดาน ! รีบเดินไว ๆ หน่อยเซ่ !

อายาโตะ : หา ? หน้ามืดงั้นเหรอ ? ... อย่ามาล้อเล่นนะ !! ถูกเจ้าพวกนั้นดูดเลือดไปขนาดไหนกัน ?

อายาโตะ : ... หนอย หงุดหงิดชะมัด ! ... ให้ตายสิ ! ทำไมฉันคนนี้ต้องมาทำอะไร ... *อุ้มยุยขึ้นมา* ... แบบนี้ด้วยนะ !

*อุ้มยุยเดิน*

อายาโตะ : ที่ยอมอุ้มเธอขึ้นมาแบบนี้น่ะ แค่ตอนนี้เท่านั้นนะ !

*อุ้มยุยเดินเข้าโรงเรียน*

อายาโตะ : ขืนมัวแต่ชักช้าอยู่แถวนี้ มีหวังถูกเจ้าบ้าไรโตะกับคานาโตะพาไปทำอะไรอีกหรอก ...

*อุ้มยุยเดินเข้าโรงเรียน*

--- ครืด !
*เสียงเปิดประตูเลื่อน*

อายาโตะ : เจ้าครูห้องพยาบาลเฮงซวยนั่น วันนี้ก็ไม่อยู่เรอะ ? 

--- ครืด !
*เสียงปิดประตูเลื่อน*

*ยุยพูดอะไรกับอายาโตะ*

อายาโตะ : หา ? เมื่อวานแอบโดดมางีบน่ะสิ เพราะงั้นก็เลยรู้ว่าเมื่อวานก็ไม่อยู่แค่นั้นเอง มีปัญหาอะไรรึไง ?
(คือน้ำเสียง งอนหรือซึนเนี่ย ? -0-)

*โยนยุยลงบนเตียง*

อายาโตะ : ถามว่าทำไมถึงพามาห้องพยาบาลน่ะเหรอ ? ก็เพราะเธอเจ็บขาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้วไม่ใช่เหรอ ? จะทำแผลให้ไงเล่า เอาขามาสิ !

อายาโตะ : อะไรเล่า มาจ้องกันด้วยสายตาแบบนั้นซะได้ ?
(โอ้ย น้ำเสียง น่ารักไปนะคะ)

*ยุยพูดอะไรกับอายาโตะ*

อายาโตะ : หา ? "คิดจะทำอะไร" มันหมายความว่ายังไงล่ะนั่น ? เช่นอยากให้ฉันคนนี้ทำเรื่องเจ็บ ๆ ให้เธอเชื่อฟังอย่างนั้นน่ะเหรอ ? 

อายาโตะ : เห ... ก็ได้นะฉันไม่ว่าหรอก ... เหมาะเลยมีเตียงอยู่พอดีซะด้วยสิ ... แต่ว่า ก่อนหน้านั้นต้องล้างรอยที่เจ้าพวกนั้นทำออกไปก่อน 

--- ป๊อก !!
*เปิดฝาขวดยา*

*ฉีดสเปรย์*

*ยุยดิ้น*

อายาโตะ : อย่าอาละวาดน่า ! เธอน่ะผิดเองที่ไปยอมให้เจ้าพวกนั้นจับไปดูดเลือดนะ ! 

*ฉีดสเปรย์*

อายาโตะ : เอ้า อยู่เฉย ๆ สิ ! หูทางนี้ด้วย ...

*เสียงสัตว์วิ่ง*

อายาโตะ :  ... !! ... อะไรน่ะ ? เมื่อกี้รู้สึกเหมือนมีวี่แววแปลก ๆ อะไรบางอย่างเลย 

*เสียงสัตว์วิ่ง*

อายาโตะ :  ... !! อีกแล้ว ... เอาอีกแล้ว ... เฮ้ย ยัยอกไม้กระดาน มาทางนี้ !

*ดึงยุยไปซ่อน*

อายาโตะ : เฮ้ ! มีใครอยู่ที่นอกหน้าต่างกัน !?

อายาโตะ : ... ตอบมาเซ่ !!

--- โบร๋ววววว !!!

อายาโตะ :  ..!! อะไรน่ะ หมาป่าเหรอ ? หรือว่า ... จะเป็นพวกที่ยัยอกไม้กระดานพูดถึง ? ... หนอย มันอะไรกัน ?

อายาโตะ :  ชิ !! เฮ้ย ! เจ้าคนที่อยู่ตรงนั้นน่ะออกมาซะ ! 

??? : ฮ้าว~

อายาโตะ :  ..!! ใครน่ะ !?

??? : ... ให้ตายสิ ๆ ทำอะไรน่ะ คนกำลังนอนได้ที่ดี ๆ อยู่แท้ ๆ เชียว

*ชูลุกจากเตียง*

อายาโตะ : หา ? ชู ? นาย ... ไม่ได้ไปที่ดาดฟ้าหรอกเหรอ ?

*ชูเดินเข้ามาหา*

ชู : คนมาทีหลังน่ะไม่ควรใช้คำพูดแบบนั้นไม่ใช่เหรอ ? ก็แค่เปลี่ยนใจแล้วเท่านั้นเอง

อายาโตะ : ..!! โธ่เอ้ย ตกใจเก้อหมดเลย ... ให้ตายสิ อย่าทำให้ตกใจเซ่ !

ชู : "อย่าทำให้ตกใจ" เหรอ ? ... เห อายาโตะ เรื่องที่พ่อบอกเมื่อกี้นายก็เลยกังวลไปซะทุกอย่างเลยสินะ ? เกินคาดเลย

อายาโตะ : ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ! 

ชู : ไม่เห็นต้องปิดบังอะไรเลยนี่น่า พ่อพูดถึงขนาดนั้นแล้ว การที่จะคิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็คิดว่ามันเป็นปกติธรรมดานะ

อายาโตะ : .. !!

ชู : จะกลบเกลื่อนความเขินไปก็เปล่าประโยชน์ ... แต่ก็นะ ได้ยินเรื่องโน้นเรื่องนี้ที่พูด ๆ ตั้งแต่เมื่อสักครู่นี้หมดเลยซะด้วยสิ

อายาโตะ : อะ !! นาย ... !!

ชู : นี่ เธอ ดีจังเลยนะ ถึงหมอนี่จะไม่ซื่อตรง แต่ก็อ่อนโยนเกิดคาดซะด้วย ให้ความรักกับเธอมากมายเต็มที่เลยไม่ใช่เหรอ ?

ชู : อย่างที่เธอต้องการเลยนี่น่า ฮึ ๆ ๆ 

อายาโตะ : หนวกหูน่า ! หนอย ... ฉันไม่ทำแผลให้แล้ว ! ที่เหลือก็หาทางทำอะไรด้วยตัวเองก็แล้วกัน

*อายาโตะผลักยุยเดินหนี*

อายาโตะ : เอ้า ! หลีกไปเซ่ ยัยอกไม้กระดาน !

*ยุยเซไปหาชู*

ชู : โอ๊ะโอ๋ ! 

อายาโตะ : ไปล่ะ !

*อายาโตะรีบเดินหนี*
--- ครืด !
*เสียงเปิดประตูเลื่อน*
--- ครืด !
*เสียงปิดประตูเลื่อน*

ชู : เฮ่อ ... อะไรล่ะนั่น ? เอ้า ก็ดีเหมือนกัน หมอนั่นก็อยู่ในช่วงวัยที่สมควรแล้วนี่น่ะ ไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าพอถูกกระทบหรือโดนแซวเรื่องของเธอเข้า ก็ความแตกเห็นชัดในทันทีเลย ... ถ้าเป็นฉันนะไม่หนีไปด้วยเรื่องแบบนั้นหรอก

*ชูจับยุยแบบกระทันหัน*

ชู : อะไรน่ะ ? หน้าแบบนั้น ? ผิดหวังเหรอ ? แต่ว่าถึงอายาโตะมีความรู้สึกให้ขนาดนั้นแล้ว แบบนั้นเธอก็ยังไม่พอใจไม่ใช่เหรอ ? 

ชู : ... หรือว่า ... ถ้าพวกผู้ชายที่อยู่ข้างกายไม่เป็นของเธอทั้งหมดจะไม่พอใจงั้นเหรอ ? ฮะ ๆ

ชู : เอาเถอะ แต่ฉันก็คิดว่าผู้หญิงสำส่อนแบบนั้นก็ไม่เลวเหมือนกันนะ

ชู : ฉันไม่ได้ต้องการความรู้สึกศีลธรรมหรือความจงรักภักดีกับเธอเลยแม้แต่นิด ... ก็แค่ ... เธอทำตามที่ฉันต้องการ ยกเลือดให้อย่างที่ต้องการเท่านั้นก็พอแล้ว ... เพราะการดูดเลือดมันก็แค่เหมือนกับการกินอาหารเท่านั้นเองนั่นล่ะ ... การจะมีสัมพันธ์ทางร่างกายน่ะ ถึงไม่มีความรู้สึกรักหรือชอบมันก็ทำได้ 

ชู : เพราะงั้นอย่าเข้าใจผิดล่ะ แล้วก็อย่าหลงตัวเองไป ที่ตามหาน่ะไม่ใช่เพราะว่ารู้สึกรัก คุณหนูอย่างอายาโตะคงจะหงุดหงิดที่แยกเรื่องนั้นออกไปจากกันไม่ได้ล่ะมั้ง ... แต่ว่าฉันน่ะ ... *กัด*

*ดูดเลือด*

ชู : ... อึก ๆ ... อื้ม ... อึก ... อื้ม ...

ชู : ... *ฮ่า* ... เพราะงั้นถึงจะกัดเข้าที่ไหล่ของเธออย่างรุนแรงแบบกระทันหันแบบนี้ มันจะทำให้เธอเป็นแผลก็ไม่สนใจ ... *กัด*

*ดูดเลือด*

ชู ... *ฮ่า* ! เท่านี้โทษของการมารบกวนเวลานอน จะยกโทษให้ก็แล้วกัน ! *จับยุยกระแทก*

ชู :  ... เป็นอะไรไป ? ฮะ ๆ ๆ หรือว่าจะช็อคที่ตัวเองเข้าใจผิดไปเหรอ ? ก็นะ ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนั้นหรอก ... ถึงต่อให้จะเข้าใจผิดไป คงไม่มีอะไรอื่นนอกจากสมองเธอจะไร้เดียงสาเกินไปแล้ว

ชู : เอ้า ฉันจะกลับไปนอนอีกครั้ง เธอรีบ ๆ ตามพ่อหนุ่มวัยรุ่นไปซะเถอะ ... สำหรับฉันหมดธุระกับเธอแล้ว .. อื้ม ... *เอนลงบนเตียงห้องพยาบาลแถมห่มผ้าอีกด้วย* 

ชู : ถ้าเข้าใจแล้วก็อย่าส่งเสียงเรียกมากไปกว่านี้ล่ะ ... อ่า เหนื่อย ... 

ชู : ชิ ! *เดาะลิ้น* .. ทำอะไรอยู่ ? รีบ ๆ ออกไปได้แล้ว

*ยุยเดินออกไปจากห้องพยาบาล*

--- ครืด !
*เสียงเปิดประตูเลื่อน*
--- ครืด !
*เสียงปิดประตูเลื่อน*

ชู : ... หืม ? ไปแล้วเหรอ ? ... *พลิกตัว* ... วี่แววเมื่อกี้มันคืออะไรกันนะ ? มีความรู้สึกแปลก ๆ ... ตอนนี้หายไปแล้ว ... ชิ ! น่ารำคาญ ... ดูเหมือนจะมีอะไรเกิดขึ้น ตามที่พ่อบอกเลยแหะ ... อะไรกันแน่นะ ? 

*เสียงเดิน*

เรย์จิ : หือ ? ที่อยู่ตรงนั้นคือ ... ? อย่างที่คิดเลยคุณนี่เอง ... มาทำอะไรในระหว่างคาบเรียนครับ ?

เรย์จิ : ผม ? ผมถูกอาจารย์วาน ให้ไปเอาอุปกรณ์เลยกำลังจะไปห้องสมุดครับ

*ยุยก้าวแล้วล้มลงไป*

เรย์จิ : โอ๊ะ !! *เรย์จิรับยุยที่กำลังล้ม*

เรย์จิ : เฮ่อ ... ไปทำอะไรมาครับถึงได้เซแบบนี้ ? หือ ? กลิ่นนี้ ... 

เรย์จิ : ..!! หรือว่า ถูกชูดูดเลือด ?

(ยุยรีบปิดแผล)

เรย์จิ : ให้ตายสิ ๆ เพราะอย่างนั้นถึงได้มีสภาพแบบนี้เหรอครับ ? ... เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ ? แต่ยังไงซะ คุณคงจะพูดจาอะไรไม่เข้าท่าแน่ ๆ ... ผมจะฟังให้เองครับ

เรย์จิ : เอ้า มาพักกันสักหน่อย ไปนั่งตรงบันไดนั่นกันเถอะครับ

*เรย์จิพยุงยุยเดินไปนั่ง*

เรย์จิ : เอ้า ฮึบ ! ... แล้ว ... เกิดอะไรขึ้น ?

*ยุยเล่าเรื่อง*

เรย์จิ : อย่างนี้นี่เอง แห่ไปรุมกันสินะครับ ... ก็ เรื่องนั้นจะบอกว่าเป็นเรื่องปกติมันก็ปกติอยู่หรอก แต่ค่อนข้างติดใจที่พูดถึงวี่แววแปลก ๆ นั่น

เรย์จิ : อายาโตะไม่ได้รู้สึกเลยว่าคนนั้นอยู่ใกล้ ๆ เลยใช่มั้ยครับ ?

เรย์จิ : ... เพราะว่าเป็นพี่น้องกัน ... ทั้งวี่แววและกลิ่นไม่น่าจะจำผิดไปได้เลย ...

เรย์จิ : โลกปีศาจเข้าสู่ช่วงจันทรคราส ... และถัดมาทางนี้ก็จะเข้าสู่ช่วงจันทรคราส ... หรือว่า ... ผลกระทบมันได้เกิดขึ้นมาแล้ว ? 

เรย์จิ : หือ ? นี่คุณ ... อยู่นิ่ง ๆ แบบนั้นนะครับ

*เรย์จิล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมา*

เรย์จิ : ถ้าปล่อยให้เลือดหยดอย่างนี้และส่งกลิ่นกระจายไปทั่ว จะล่อแวมไพร์ออกมาก็ไม่แปลกหรอกครับ

*เรย์จิเอาผ้าเช็ดให้*

เรย์จิ : แม้แต่ผมคนนี้ ... จริง ๆ แล้วตอนนี้ ก็วิงเวียนไปกับกลิ่นเลือดของคุณด้วยนะครับ ... พวกพี่น้องคนอื่นไม่มีความต้านทาน คงจะอดทนกันไม่ได้กันเป็นแน่เลยสินะครับ ?

เรย์จิ : ... อื๋อ ? เลือดไม่หยุดไหลเลยนะครับ ... เปื้อนผ้าเช็ดหน้าซะขนาดนี้ ... เฮ่อ ... ช่วยไม่ได้ ดูเหมือนจะต้องหยุดด้วยปากของผมโดยตรงซะแล้วครับ
(แย๊กกกกก ดูดเลยค่า)

เรย์จิ : เอ้า อยู่นิ่ง ๆ นะ

*อ้าปาก*
*ดูดเลือด*

เรย์จิ : ... ฮ่า ... ยังไหลออกมาอยู่เลยนะครับ ...

*ดูดเลือด*

เรย์จิ : ... เฮ่อ ... แบบนี้เป็นยังไงบ้างครับ ? คงดีขึ้นหน่อยแล้วสินะครับ ?

เรย์จิ : ก็อย่างที่รู้ ของเหลวในร่างกายของพวกเรามีความพิเศษอยู่ครับ ... สามารถรักษาแผลของมนุษย์ให้หายได้โดยในทันที ... ถึงเดิมทีแล้ว ... ใช้ไม่ได้ผลกับบาดแผลที่ลึกมาก ๆ นะครับ

เรย์จิ : เอ้า รู้สึกยังไงบ้างครับ ? 

*ยุยขอบคุณ*

เรย์จิ : ไม่เป็นไร ยินดีครับ ... ถึงจะเป็นผมก็ตาม ก็รอที่จะได้ลิ้มรสเลือดของคุณ แบบนี้เขาเรียกว่ายื่นหมูยื่นแมวกันสินะครับ 

เรย์จิ : ถ้างั้น คงได้เวลาที่ผมจะไปทำธุระต่อแล้วครับ 

*ยุยกับเรย์จิลุกขึ้น*

เรย์จิ : คุณกลับไปที่ห้องเรียนซะเถอะครับ

เรย์จิ : ใช่ ๆ คิดว่าตอนขากลับอย่าไปไหนมาไหนคนเดียวจะดีกว่านะครับ 

เรย์จิ : ทำไมน่ะเหรอ ? รู้สึกกังวลใจน่ะครับ 

เรย์จิ : คุณยังคงเป็นมนุษย์อยู่ก็จริง ... แต่อีกไม่นาน ก็จะกลายเป็นพวกเดียวกับพวกเราแล้วล่ะครับ 

เรย์จิ ... เมื่อถึงตอนนั้น อย่าเข้าใจผิดไปจะดีกว่านะครับ 

-------------------------------------------------------------------------------------

Track 3  災厄の襲来 (การโหมกระหน่ำของภัยพิบัติ)

*กิ๊งก่อง*

*เสียงเดิน*
*เสียงเปิดประตูรถ*

อายาโตะ : ไง ยัยอกไม้กระดาน !

*เสียงปิดประตูรถ*

อายาโตะ : ... ชิ !  อะไรกัน หน้าตาหม่นหมองแบบนั้น ? เกิดอะไรขึ้นสินะ ? 

อายาโตะ : ดูจากสภาพของเธอก็รู้แล้วล่ะ หลังจากนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นสินะ ... ให้ตายสิ เป็นคนที่ไม่ไหวเลยจริง ๆ นะ ... เฮ่อ !

--- บรืน 
*เสียงรถแล่น*

อายาโตะ : ... หือ ? เฮ้ ! แล้วเจ้าพวกคนอื่น ๆ ไปไหนล่ะ ?

อายาโตะ : ... หา !? ว่าไงนะ ! ให้ตายสิ ! ต้องอยู่กับยัยนี่สองต่อสองเหรอ ? 

อายาโตะ : เอ้า ช่างมันเถอะ ... นี่ ยัยอกไม้กระดาน ...คิดว่าเห็นแล้วก็น่าจะเข้าใจนะ ตอนนี้ฉันคนนี้กำลังอารมณ์เสียสุด ๆ เลย ถ้าไม่อยากเจ็บตัวมากไปกว่านี้ อย่าเข้ามาคุยกับฉันเชียวล่ะ

อายาโตะ : หา ? "ขอโทษนะ" อะไรล่ะนั่น ? ไม่รู้ว่าขอโทษเรื่องอะไรหรอกนะ ...

*จับยุย*

อายาโตะ : ไม่ใช่ว่าอยากได้คำขอโทษจากเธอหรอกนะ แต่ถ้าจะขอโทษล่ะก็ ... ทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนหน่อยสิ ... พูดว่า "อยากให้ดูดเลือด" ด้วยปากของตัวเองซะสิ

อายาโตะ : ที่บอกขอโทษน่ะหรือก็หมายความว่า ... เธอคิดว่าทำผิดต่อฉันสินะ ? "เธอเป็นของของฉัน คิดแบบนั้นจากหัวใจเลย" ... เอ้า พูดสิ

*จับยุย*

อายาโตะ : ... หา ? พูดด้วยน้ำเสียงจะร้องไห้แบบนั้นฟังไม่ได้ยินหรอกนะ พูดให้ชัดเจนให้ฉันได้ยิน

อายาโตะ : ชิ ! เป็นผู้หญิงที่น่าหงุดหงิดชะมัด ... ผู้หญิงอย่างเธอเนี่ย จริง ๆ เลยนะ ... *กัด*

*ดูดเลือด*

อายาโตะ ... ต้องทำยังไงถึงจะเป็นแค่ของฉันคนเดียวได้กัน !? 

*ดูดเลือด*

อายาโตะ : ... เพราะอย่างนั้นจะตอนไหน ๆ มันก็ทำให้ฉันหงุดหงิดเสมอเลย ... *กัด*

*ดูดเลือด*

อายาโตะ : ... เข้าใจสักทีสิ ...

--- เอี๊ยดดด !!!!
*เสียงรถเบรก*

อายาโตะ : หว๋า !!

*เสียงรถหยุดกระทันหัน*

อายาโตะ : ... เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ? เฮ้ เจ้าคนขับรถ ! 

*ยุยเรียกอายาโตะ* 

อายาโตะ ... หา ? อะไรเล่า ยัยอกไม้กระดาน ? หา ? ด้านนอก ?

*เสียงฝีเท้าฝูงสัตว์*

อายาโตะ : ... นั่นมันอะไรน่ะ !? ... หมาจำนวนมากเลย ... ไม่สิ ไม่ใช่ หมาป่างั้นเหรอ ? ล้อมลีมูซีนพวกเราไว้หมดแล้วด้วย ! 

-- ตึง ๆ !!
*เสียงหมาป่า + กระแทกกระจกรถ*

อายาโตะ : ชิ ! แย่ล่ะสิ ! 

*อายาโตะจับยุย* 

อายาโตะ ... ยัยอกไม้กระดาน อย่าขยับเชียวนะ

--- เพล้ง !!!
*หมาป่ากระแทกกระจกแตก*

อายาโตะ : ชิ ! เจ้าพวกนี้มันอะไรเนี่ย ? 

*หมาป่ากัดอายาโตะ*

อายาโตะ : ...อึ๊ก !! ... ยัยอกไม้กระดาน ! ห้ามออกจาก ... ตัวฉันที่บังอยู่เด็ดขาดเลย ! 

*หมาป่ากัดอายาโตะ* 

อายาโตะ ... อั๊ก !! ... หนอย ... เจ็บชะมัด ! ... อึ๊ก ... ก ... 

*ยุยขยับ*

อายาโตะ : ... ฉันไม่เป็นไร ... แค่นี้น่ะ ... ไม่ตายหรอกน่า ! คิดว่าฉันเป็นใครกันหา !  

*หมาป่ากัดอายาโตะ* 

อายาโตะ ... อึ๊ก !! ... *อายาโตะหอบ* ... อั๊ก ... ชิ !

สุบารุ : เฮ้ย อายาโตะ !!

--- โครม !!
*สุบารุพังรถเข้ามา*

สุบารุ : พวกแกเป็นตัวอะไรกัน ? หา ! *เตะหมาป่า* ... อย่ามา ... แตะ ... นะเฟ้ย !  
(พูดไปเตะ+ต่อยหมาป่าไป)

*เหวี่ยงหมาป่ากระเด็นออกนอนรถ*

สุบารุ : ... แฮ่ก น่ารำคาญชะมัด 

*สุบารุสู้กับหมาป่า*
*หมาป่าคราง*

สุบารุ : เฮ้ ! ไอ้พวกหมาป่าเฮงซวย คิดจะหนีเหรอฟะ !? 

*สุบารุวิ่งไล่ตาม*
*หมาป่าคราง + วิ่งหนี*

สุบารุ : ... ชิ ! โธ่เอ้ย *สุบารุเดินกลับมา* ... มีแค่ตอนหนีเท่านั้นล่ะที่เร็วชะมัด ... อายาโตะ ! เฮ้ แล้วเธอปลอดภัยรึเปล่า ? 

สุบารุ : ... อะ หนวกหูน่า เงียบก่อน ! เลิกมาเขย่าตัวแบบเป็นบ้าสักทีน่า ! อายาโตะหมดสติไปแล้วล่ะ ถ้ามัวแต่ยืดยาดอยู่แถวนี้ต้องเป็นเรื่องเอะอะแน่ 

--- วิ๊ววี๊ด  !
*ผิวปากเรียกปีศาจรับใช้* 
*เสียงค้างคาวบินมา*

สุบารุ : นี่ เจ้าปีศาจรับใช้ พวกแกแบกหมอนั่นกลับไปคฤหาสน์หน่อย ตอนนี้เลย !

*เสียงค้างคาวบินไป*

สุบารุ : เธอเองก็เหมือนกัน ไม่ใช่เวลามาทำหน้าซีดกลัวอยู่ตรงนี้นะ ...  ยืนไหวมั้ย ?

--- ผั๊วะ !
*สุบารุเตะผนังรถ*

สุบารุ : ... หา ? ... "อายาโตะจะปลอดภัยรึเปล่าก็ไม่รู้" เหรอ ? อย่ามาถามฉันสิ ! ก่อนอื่นกลับไปที่คฤหาสน์กันก่อนเถอะ 

*เดินไป*

สุบารุ : ... ชิ ! ... เจ้าพวกนั้นมันคืออะไรกันนะ ? 
          ... หมาป่าเหรอ ... โกหกใช่มั้ย ? เป็นไปไม่ได้หรอก ! ทั้งที่นึกว่าเป็นแค่ข่าวลือแท้ ๆ  
          ... นี่คือผลกระทบของจันทรคราสที่ตาแก่บอกเหรอ ? 

*สุบารุ เดินไปคิดไป*

(❤❤❤ บ่นบลาๆๆๆ : โอ้ย อายาโตะ ทำน้ำเสียงซึนมากกก น่ารัก ตอนนี้หล่อมากค่ะ 
// สุบารุ ฮีโร่ !! แต่นึกภาพแล้วแบบสุบารุเตะ ต่อย ทำไมฮา 555 )
---------------------------------------------------------------------


Track 4  魔界へ (สู่โลกปีศาจ)

อายาโตะ : ... อึ๊ก ... ฮ่า ... อึก ... แฮ่ก ๆ ... *อายาโตะครางด้วยความเจ็บปวด*

ชู : อายาโตะปกป้องเธอก็เลยถูกเจ้าพวกหมาป่าเล่นงานเอาเหรอ ... คิดว่าจันทรคราสของโลกปีศาจกับโลกมนุษย์จะเกิดขึ้นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น คงไม่ใช่ว่าพรุ่งนี้จะมีกระทั่งลูกเห็บตกลงมาหรอกนะ ? 

เรย์จิ : ถ้าเป็นเรื่องของอายาโตะล่ะก็ ผมบอกไปหลายครั้งแล้ว ว่าบาดแผลภายนอกมันค่อนข้างใหญ่น่ะ ... ทำเรื่องที่ควรทำไปแล้วแต่ ... สติก็ยังไม่ฟื้นกลับมา

ไรโตะ : ก่อนอื่นสำหรับตอนนี้ มีแต่ต้องรอดูอาการสินะ ? ... น่า อายาโตะคุงเป็นพวกทนทายาดนี่น่า คิดว่าต้องไม่เป็นไรหรอกเนอะ ?

คานาโตะ : ที่ว่ามีหมาป่าออกมา นึกว่าเป็นแค่ข่าวลือซะอีก แต่ที่จริงเป็นเรื่องจริงสินะครับ

สุบารุ : แล้วยังเป็นฝูงใหญ่อีกด้วย ฉันตั้งใจจะกำจัดมันให้หมดแท้ ๆ แต่แป๊บเดียวก็หนีหายไปหมดซะได้ ... เจ้าพวกนั้นจะทำอะไรกันแน่ ?

ไรโตะ : นี่ สุบารุคุง ... หมาป่าพวกนั้นน่ะพูดได้ว่าเป็นพวกเผ่าหมาป่ามั้ย ?

สุบารุ : ไม่รู้สิ มีบรรยากาศขมุกขมัวเหมือนพวกที่อยู่ที่โลกมนุษย์ซะด้วย ... แต่ว่า ความรู้สึกที่เผยเป็นศัตรูอย่างตรง ๆ นั่น ...

เรย์จิ : เป้าหมายคืออะไรกันแน่นะครับ ? หรือว่าจะมีความแค้นอายาโตะกันแน่ ? ถึงอย่างนั้นก็เถอะ การที่พอสุบารุปรากฏตัวก็หนีหายกันไปทันทีเนี่ย ... หมายความว่าไม่ได้มีเป้าหมายที่จะเล่นงานอายาโตะและสุบารุ ...

คานาโตะ : ที่จริงแล้ว ไม่ใช่ว่าจะเล่นงานผู้หญิงคนนี้เหรอครับ ?

สุบารุ : ถ้างั้น ก็ลากอายาโตะออกไป แล้วเล่นงานยัยนี่ก็พอไม่ใช่เหรอ ?


ไรโตะ : เป็นเพราะว่าอายาโตะคุงกอดเอาไว้อย่างแน่นหนา ก็เลยทำไม่ได้รึเปล่านะ ?

สุบารุ : จากที่เห็นก็มีสภาพแบบนั้นจริง ๆ นั่นแหละ ... แต่จำนวนก็เยอะอยู่ แล้วยังเป็นหมาป่าตัวใหญ่อีกด้วย ถึงบอกว่าอายาโตะปกป้องอยู่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่น่าจะทำได้เลยนะ

ชู : ถ้าเป็นแบบนั้น ก็แสดงว่าเล็งที่อายาโตะหรือไม่ก็พวกเราสินะ ? คงเป็นผู้มีอิทธิพลของโลกปีศาจหรืออะไรสักอย่างที่ทำเรื่องนี้ละมั้งนะ ... เฮ่อ เพราะพ่อ เลยมีความทรงจำที่ต้องเป็นที่รองรับความแค้นมากมายเลยนะ

สุบารุ : งั้น ... แล้วทำไมพวกนั้น ถึงได้หนีกันไปทันทีเลยล่ะ ?

เรย์จิ : เป้าหมายของคืนนี้คงจะเป็น "การมาทักทาย" ล่ะมั้งครับ หรือก็คือ ... จะบุกเข้ามาจู่โจมอีก

เรย์จิ : คาดว่าหมาป่าพวกนั้น คงจะเป็นพวกที่มีความแค้นกับพวกเราหรือไม่ก็ตระกูลของพวกเราแน่เลยครับ 

ไรโตะ : ไม่อยากเลยนะ ทั้งที่บอกว่าหลังจากนี้ต่อจากโลกปีศาจแล้วทางนี้เองก็จะเข้าสู่ช่วงจันทรคราสด้วยแท้ ๆ เลยน่ะ ถ้าเกิดถูกเล่นงานในช่วงที่พลังกับความรู้สึกสัมผัสอ่อนแรงลง พวกผมก็ต้องเป็นแบบเดียวกับอายาโตะคุงไม่ใช่เหรอ ? 

เรย์จิ : นั่นสินะครับ การที่พวกเราจะคงอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้บนโลกมนุษย์คงไม่ใช่แผนการที่ดีนัก 
         
เรย์จิ ... ด้วยเหตุนั้นถึงอยู่นานไปบาดแผลของอายาโตะเอง อากาศของที่นี่ก็มีแต่จะทำให้หายช้าซะด้วย

สุบารุ : จะบอกว่า "ให้ไปโลกปีศาจ" สินะ ? แต่ว่าทางนั้นกำลังอยู่ในช่วงจันทรคราสไม่ใช่เหรอ ? ถ้าเป็นแบบนั้น รออยู่ทางนี้อีกหน่อยจะไม่ดีกว่าเหรอ ?

เรย์จิ : ที่สุบารุพูดมันก็สมเหตุสมผลอยู่ครับ ... แต่จากการที่รออยู่ที่คฤหาสน์หลังนี้แล้วเตรียมพร้อมรับมือกับหมาป่าที่จะบุกจู่โจมเข้ามา และเช่นเดียวกันถึงจะเป็นฝ่ายถูกจู่โจมก็ตามที ... แต่ถ้ากลับไปที่โลกปีศาจ อยู่ในปราสาทให้พลังที่แข็งแกร่งของท่านพ่อคอยป้องกัน ความเสียหายที่ได้รับก็จะน้อยลงด้วยนะครับ เพราะว่าคฤหาสน์หลังนี้มีมนุษย์ที่ไร้พละกำลังอยู่ด้วยนี่ครับ

คานาโตะ : เฮ่อ ... แล้วจะเอายังไงละครับ ?

ชู : กลับไปที่ปราสาท *ชูลุกขึ้นยืน*

ไรโตะ : เอ๋~ ? ต้องไปหมกตัวอยู่ที่ที่น่าเบื่อนั่นอีกแล้วเหรอ ?

เรย์จิ : ถ้าไม่อยากไป ... จะรออยู่ที่นี่ก็ได้นะครับ ... เพียงแต่ว่า คุณเตรียมใจที่จะถูกพวกตระกูลหมาป่าทำร้ายแล้วรึเปล่าล่ะครับ ? ... คราวนี้ ... ลำคอนั่นคงถูกขย้ำเละ คออาจจะหลุดไปเลยก็ได้นะครับ ?

ไรโตะ : อะ ฮะ ๆ ... ไม่น่าขำเลยสักนิดนะ ... ช่วยไม่ได้นะ *ไรโตะลุก* แต่ว่ายังตัดสินลงไปไม่ได้ว่าเป็นฝีมือของพวกเผ่าหมาป่าสินะ

คานาโตะ : ... *ถอนหายใจ* ... นี่ เธอเองก็จะไปด้วยใช่มั้ย ? ถ้างั้นก็รีบไปเตรียมตัวสิครับ

สุบารุ : เดี๋ยวก่อนสิ

คานาโตะ : อะไรล่ะครับ ?

สุบารุ : ให้ยัยนี่เฝ้าอยู่ที่นี่ล่ะ

ชู : นั่นสินะ ... ถ้าขืนให้ไปส่งกลิ่นหอมน่ากินฟุ้งไปทั่วในระหว่างที่เดินป้วนเปี้ยนอยู่ที่โลกปีศาจล่ะก็ มีหวังถูกกินจนเหลือแต่กระดูกทันทีแน่ ... เธออยู่ที่คฤหาสน์นี้ล่ะ ที่เจ้าพวกนั้นเล็งอยู่คือพวกเรา มันไม่ยื่นมือเข้ามายุ่งกับเธอเดี่ยว ๆ หรอก

สุบารุ : ถ้าเกิดอะไรขึ้น เรียกฉันทันทีเลยนะ ... อ่า ขอปฏิเสธไว้ก่อนนะ ฉันไม่สนหรอกนะว่าถึงเธอจะเจอเรื่องอันตรายยังไงก็ช่าง ก็แค่ไม่อยากให้คฤหาสน์หลังนี้มันยับเยินมากไปกว่านี้เท่านั้นเอง 
(ซึนเดเระขั้นเทพจริง ๆ)

เรย์จิ : คนที่มักจะพังคฤหาสน์เป็นคนแรกประจำ พูดอะไรของเขาอยู่นะครับเนี่ย ? พูดออกไปตรง ๆ ก็ได้แท้ ๆ

สุบารุ : หา !!! ว่าไงนะ !?

เรย์จิ : ครับ ๆ 

คานาโตะ : เฮ่อ ... น่าเบื่อจัง ถึงจะบอกว่าไปที่แบบนั้น แต่ก็ไม่มีเรื่องสนุก ๆ อะไรเลยซะด้วยสิ ... ยิ่งกว่านั้นไม่มีผู้หญิงคนนี้ซะด้วย ยิ่งน่าเบื่อมากขึ้นอีก

ชู : เอาน่า ถ้าสถานการณ์เย็นลงแล้วค่อยกลับมาทันทีเลยก็ได้นี่ ไปกันเถอะ

เรย์จิ : สุบารุ แบกอายาโตะไปนะครับ

สุบารุ : หา !? ทำไมต้องเป็นฉันด้วย !?

ไรโตะ : ก็เป็นน้องคนเล็กสุด แล้วก็มีแรงเยอะด้วยนี่ ?

สุบารุ : อึก !! ... บ้าที่สุด !!

*สุบารุกำลังแบกอายาโตะขึ้น*

*เสียงเดินกัน*

เรย์จิ : ถ้างั้นก็ ฝากดูบ้านด้วยนะครับ ฟังให้ดีนะครับ ต่อให้มีแขกมาก็อย่าได้เปิดประตู แล้วจะติดต่อมานะครับ 

ชู : ฮ้าว~ ... น่าเบื่อ ... เฮ่อ ... ไปนะ ที่เหลือฝากด้วยล่ะ 


*เสียงเดินจากไป*


เรย์จิ : ดังนั้น พวกเราจึงได้ออกเดินทางไปยังโลกปีศาจที่มีจันทรคราสรออยู่ ... และทิ้งให้เธอผู้มีเลือดที่พิเศษอยู่เพียงผู้เดียว 
        หากเป็นแต่เดิมแล้วปกติก็คงจะพาเธอไปด้วยหรอก ... แต่คราวนี้มีเหตุผลที่แตกต่างไปอยู่
        ยังไม่สามารถพูดออกมาได้ ว่าเบื้องหลังนั้นพี่น้องที่มีพลังเป็นผู้บงการ เรื่องที่เข้ามาจู่โจมเล่นงานพวกเรา พวกเรานั้นรู้สึกได้บ้างเล็กน้อยเท่านั้น

เรย์จิ : การโจมตีของหมาป่านั้นเพิ่งจะเริ่มไม่ผิดแน่ ... นี่คือการต่อสู้ของเหล่าผู้ที่อาศัยอยู่ในความมืด จะให้เธอที่เป็นมนุษย์เข้ามาพัวพันด้วยไม่ได้ ... ในระหว่างที่คิดเช่นนั้นอยู่ ... พวกเราก็ได้เปิดประตูที่จะพาไปสู่โลกปีศาจออก

เรย์จิ : โดยที่ไม่รู้เลยว่าจะถูกปั่นหัวด้วยโชคชะตาแห่งความมืดที่กดทับน้ำหนักลงมา ทั้งเรื่องอนาคตที่จะถูกฉีกที่รออยู่เบื้องหน้าด้วย ...

---------------------------------------------------------------------
- FIN -
---------------------------------------------------------------------

❤❤❤ บ่นบลาๆๆๆ : Track 1 ว่ายาว + ยาก Track 2 ปาเข้าไป 29 นาทีครึ่ง !!
6 หนุ่มดูดเลือดมันยาวขนาดนี้เลยเร้อออ !! เอาซะเลือดหมดตัวติด ๆ กันเลยนะ
แต่ Track 3 ตอนอายาโตะกะสุบารุได้หล่อทำไมนิดเดียวเอง T^T

*เผ่า กับ ตระกูล แตกต่างกันนะคะ 
เผ่าคือคนละสายเลือดแต่ชนิดเดียวกันอย่าง  ส่วนตระกูลคือสายเลือดเดียวกัน**

**นำไปแจกจ่ายกรุณาให้เครดิต PearlzDeWitch**
*ถ้านำไปแอบอ้างจะเปลี่ยนวิธีเผยแพร่ค่ะ*

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น