ยินดีต้อนรับสู่โลก DIABOLIK LOVERS แปลไทย สร้างมาเพื่อเก็บ บทแปลเพลง ดราม่าซีดี เกม อนิเมะ และบทสรุปเกมของ Diabolik Lovers ที่เราได้จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะค่ะ

★อัพเดทใหม่★

[บทสรุปเกม Guide & Walkthrough] ภาค DARK FATE - บทนำ Prologue

บทความที่ได้รับความนิยม

[เรื่องสั้นพิเศษ] Drama CD - งานเลี้ยงอาหารค่ำใต้แสงจันทร์「月夜の晩餐会」Tsukiyo no bansankai-


DIABOLIK LOVERS


アニメイトオリジナル 6枚連動購入特典ドラマCD
อนิเมท ออริจินัล Drama CD ตอนพิเศษสำหรับผู้สั่งซื้อสินค้าครบ 6 ชิ้น

********************************************
「月夜の晩餐会
- Tsukiyo no bansan-kai -
งานเลี้ยงอาหารค่ำใต้แสงจันทร์

*********************************************


เรย์จิ : *ฮ่า* กลิ่นหอมของชาฝรั่งนี้ มันห้ามใจไม่ได้เลยจริง ๆ นะ การลิ้มรสชุดน้ำชานี้แค่ปีละครั้งของตัวเองเช่นนี้มันช่างเลิศหรูจริง ๆ …ในคืนที่ทุกคนกำลังหลับสนิท ได้มาทำแบบนี้เพียงคนเดียว …เป็นเวลาส่วนตัวของกระผมเพียงคนเดียว… อดคิดไม่ได้ว่าท้ายที่สุดแล้วถ้าเจ้าพวกบ้าในคฤหาสน์หลังนี้ไม่ตื่นไปตลอดกาลเลยก็คงดีสินะ

*เสียงประตูเปิด*

ชู : อ่า … เรื่องนั้นโทษทีแล้วกัน ที่มาขัดช่วงเวลาดี ๆ น่ะ

เรย์จิ : หือ ?

*เสียงชูเดินเข้ามา*

เรย์จิ : *เดาะลิ้น* ชิ ! ชู … ปรากฏตัวออกมาได้จังหวะที่เลวร้ายที่สุดเลยนะครับ … 
            ฮึ ! ต้องขอบคุณ ที่ทำให้ช่วงเวลาส่วนตัวของผม ต้องกลายเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในพริบตาเลยล่ะครับ… 
            คุณที่หากได้นอนไปแล้วครั้งหนึงจะไม่ตื่นกับเรื่องหยุมหยิมเล็กน้อย เกิดอะไรขึ้นรึไงครับ ? 

ชู : อื้ม … นอนยังไงก็ไม่หลับ คงเพราะที่เตียงไม่มี “นั่น” อยู่ล่ะมั้ง

เรย์จิ : “นั่น”?

ชู : เหนื่อย … ช่างมัน นอนแล้ว 

*ชูเอนตัวลงนอน*

เรย์จิ : อะ ! รอเดี๋ยวสิครับ ! อย่ามานอนที่โซฟาสิครับ 

*ชูหลับแล้ว*

เรย์จิ : อึก ! … อะ… ไอ้เจ้า… ผีดูดเลือดขี้เซาร้อยปีนี่ ! ...ชู !! มันเกะกะนะครับ ! ถ้ามานอนตรงนี้เวลาน้ำชาของผมที่อุตส่าห์จัดขึ้นก็พังไม่เป็นท่ากันพอดีน่ะสิครับ ! มันเกะกะสายตาเพราะงั้นช่วยหายตัวไปให้พ้น ๆ ด้วยครับ ! 

ชู : อืม … *ชูคราง*

*ชูหลับต่อ*

*เสียงเส้นประสาทของเรย์จิขาดดัง “ผึง !!” *


เรย์จิ : … อึก… ! …ไม่ตื่นเรอะ …ให้ตายสิเจ้าหมอนี่ … 

*เรย์จิถอนหายใจ*

เรย์จิ : ฮึ ! เอ้า ก็ได้ครับ “ต้องการถูกผมฆ่า” คิดอย่างนั้นอยู่สินะครับ จะจัดให้ตามต้องการเลยครับ

*เสียงเงื้อมีดขึ้นมา*
*ชูยังหลับอยู่*

เรย์จิ : ฮึ ๆ ๆ พอตัดสินใจได้แล้ว จะใช้มีดที่ทำจากเงินที่เฝ้าขัดทุกวันทุกคืนที่ผ่านมานี้ปาดคอในทีเดียวให้เองครับ … เป็นการลงโทษที่ทำให้ช่วงเวลาดี ๆ ของผมต้องเป็นรอยแผลครับ … ตายในระหว่างที่กำลังหลับไปซะเถอะ 

*เรย์จิเดินเข้าไปใกล้*

ชู : อืม … ดูดไม่ไหวแล้ว *ชูละเมอ*

เรย์จิ : เฮอะ ! อยู่ในความฝันไปตลอดกาลเถอะ ซาคามากิ ชู

อายาโตะ : อ๊า !!

เรย์จิ : เอ๊ะ ! หะ !?

คานาโตะ : ฆ่าในระหว่างที่หลับอยู่เนี่ย เป็นการฆ่าที่ไม่น่าสนุกสักนิดเลยนะครับ

ไรโตะ : ฮึ ๆ … หรือว่า จะเข้ามาขัดจังหวะซะแล้วเนี่ย ?

*3 แฝดตัวแสบเข้ามา*

อายาโตะ : เฮ้ย อย่ามาฆ่าที่นี่สิฟะ เจ้าบ้า ! ไปทำข้างนอกไป ไปทำข้างนอก ! เกะกะเฟ้ย !

เรย์จิ : ทำไมพวกคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ? เมื่อสักครู่เห็นบอกว่าจะนอนแล้วกลับห้องไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ ?

อายาโตะ : อ่า ไปแล้วล่ะ แต่ว่า … มันหิวก็เลยนอนหลับไม่ลงเลยน่ะสิ 

ไรโตะ : ฮึ ๆ ทำอะไรอยู่ในระหว่างที่พวกผมนอนกันอยู่กันนะ ?

คานาโตะ : ถ้าจะฆ่าล่ะก็ ทำตอนที่อีกฝ่ายตื่นอยู่จะสนุกที่สุดนะ อยากจะเห็นใบหน้าที่เจ็บปวดสินะครับ ? 

อายาโตะ : คานาโตะ … นายเนี่ยเพี้ยนไปแล้วจริง ๆ ด้วยสินะ 

ไรโตะ : เอ๋ ? แต่ว่าผมเข้าใจความรู้สึกของคานาโตะนะ

คานาโตะ : ฮึ ๆ ๆ

*เก็บมีด*
เรย์จิ : *เฮ้อ* 

ชู :  ฮ้าวววว … หนวกหู อย่ามาเอะอะอยู่ใกล้ ๆ น่า 

ไรโตะ : โอ๊ะ ตื่นแล้วเหรอครับ ? 

ชู : เอะอะขนาดนั้นเป็นใครก็ตื่นนั่นแหละน่า 

อายาโตะ : *เดาะลิ้น* ชิ ! ว่าแต่ที่นี่เป็นห้องรับแขกนะ ! ไม่ใช่ที่ของชูสักหน่อย อย่ามาสั่งให้ทำตามนะ !

อายาโตะ : ที่นี่เป็นที่ของฉันคนนี้ !

ไรโตะ : ไม่ใช่ที่ของอายาโตะคุงด้วยนะ

อายาโตะ : หา ? ของในบ้านหลังนี้เป็นของฉันคนนี้ทุกอย่างเฟ้ย !

คานาโตะ : อา… ท้องมัน… ถึงที่สุดแล้ว

ชู : หา ? 

คานาโตะ : ผมน่ะ… ผม… ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว… *สะอื้น*

อายาโตะ : เฮ้ย แย่แล้วสิ … 

เรย์จิ : หือ ? คานาโตะ เป็นอะไรไปเหรอครับ ?

คานาโตะ : ก็บอกว่ามันหิวยังไงเล่า !! ทั้งที่ผมส่งสายตาไปตั้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว … มันหมายความว่ายังไง ? อย่ามาล้อกันเล่นนะครับ !!

ไรโตะ : ฮะ ๆ โกรธแล้ว ๆ

คานาโตะ : ผมน่ะนะ … ท้องมันหิวมาก จนตัวเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีแล้ว ! หงุดหงิด ๆ จนช่วยไม่ได้แล้วนะครับ !

*คานาโตะกระทืบเท้า*

ชู : ชิ ! อ่า … หนวกหู 

อายาโตะ : อะ ใจเย็นน่า ! ถ้ายิ่งอาละวาดขนาดนั้นมันก็ยิ่งหิวขึ้นไม่ใช่รึไง ?

คานาโตะ : หนวกหู !

*คานาโตะกระทืบเท้า*

คานาโตะ : ผม… ความรู้สึกของผม คนอย่างอายาโตะจะไปเข้าใจได้ยังไงเล่า !

อายาโตะ : อึ๊ก ! … หนอย น่าโมโหชะมัด … เฮ้ย เรย์จิ ! นายต้องรับผิดชอบนะ !

เรย์จิ : หา ? ขอร้องอย่ามาล้อเล่นนะครับ เดิมทีแล้วถ้าพวกคุณไม่พูดเรื่องไร้สาระล่ะก็ 

*คานาโตะสะอื้น*

คานาโตะ : พอที… อะไรก็ได้… จะอะไรก็ได้แล้ว… ทำให้ท้องของผม…อิ่มสักทีเซ่ ! 

*คานาโตะเขวี้ยงอะไรสักอย่าง*

ไรโตะ : ฮึ ๆ

ชู : อ่า ... *เดาะลิ้น* น่ารำคาญ

เรย์จิ : *เดาะลิ้น* ชิ ! … เข้าใจแล้วครับ … เข้าใจแล้วเพราะงั้นสงบสติหน่อย ! ผมจะทำอาหารขึ้นมาให้คุณเอง ผมคนนี้จะทำให้เป็นพิเศษเลย ! 

ชู : ไม่เห็นจะพิเศษอะไรสักหน่อยเลย ปกติคนที่คอยทำอาหารให้ก็คือนายนี่น่า

เรย์จิ : ชู !!  *ทุบโต๊ะ*

ไรโตะ : ฮึ ๆ ยังไงก็ตาม เพื่อไม่ให้คานาโตะคุงต้องร้องไห้และตะโกนเสียงดังมากไปกว่านี้ ช่วยทำอาหารมาไว ๆ หน่อยนะ

เรย์จิ : ให้ตายสิ ! ทำไมผมถึงต้องทำด้วย ? เจ้าพวกนั้น … จะต้องฆ่าให้ตายสักวันให้ได้เลย … 

คานาโตะ : พูดอะไรงั้นเหรอครับ !?

*เวลาผ่านไป*
*เรย์จิเดิน*

เรย์จิ : เอ้า ! เท่านี้คงไม่มีปัญหาแล้วสินะ ?

*เรย์จิวางจาน*

ไรโตะ : อะฮะ รุนแรงจังเลยนะ เดี๋ยวพุดดิ้งที่อุตส่าห์ทำก็เละเทะหมดหรอก

เรย์จิ : ถึงรูปร่างภายนอกจะแย่ แต่ถ้าทำให้ท้องอิ่มได้ก็คงไม่มีปัญหาใช่มั้ยล่ะ ?

อายาโตะ : อ่า … แบบนี้ใช้ได้มั้ย คานาโตะ ?

คานาโตะ : พุดดิ้ง… *แสงจากพุดดิ้งส่องประกาย* … พุดดิ้ง… ที่เป็นประกายแว่บ ๆ ด้วย

เรย์จิ : สูตรพิเศษของ ซากามากิ เรย์จิ พุดดิ้งผสมธาตุเหล็กราดซอสราสเบอร์รี่ ครับ

*คานาโตะกินพุดดิ้ง*
คานาโตะ : งับ … อื้ม …

เรย์จิ : เดี๋ยว ! พูดอะไรสักหน่อยสิครับ ! อย่าง “ดูน่าอร่อย” หรือพูดคำขอบคุณอย่าง “ขอบคุณนะ” 

*คานาโตะกินพุดดิ้งไม่สนใจ*
คานาโตะ : งับ … ง่ำ …

เรย์จิ : เมินกันเลยเหรอครับ !!?

อายาโตะ : เฮ่อ … เอาเถอะ ยังไงก็สงบลงแล้วดีแล้วไม่ใช่เหรอ ? ว่าแต่เรย์จิ … ไม่มีส่วนของพวกเราบ้างเหรอ หา ?

เรย์จิ : ทำไมผมต้องทำกระทั่งส่วนของพวกคุณ---

ชู : หิวแล้ว

อายาโตะ : ใช่ หิวแล้วล่ะ

ไรโตะ : เนอะ ? ท้องร้องจ๊อก ๆ แล้วล่ะ

เรย์จิ : เรื่องนั้นไม่รู้ด้วยหรอกครับ พวกคุณไปทำอาหารหรืออะไรกินกันเองก็พอแล้วไม่ใช่เหรอครับ ?

อายาโตะ : ถ้าทำได้ล่ะก็จะไปทำเดี๋ยวนี้อยู่หรอก … 

*อายาโตะขยับเข้าหาเรย์จิ*

อายาโตะ : …จะดีเหรอ ? ให้พวกเราทำอาหาร ห้องครัวจะเป็นยังไงก็ไม่รู้นะ ? 

ไรโตะ : นั่นสิเนอะ ? ก่อนหน้านี้ที่พวกเราใช้ห้องครัว คนที่โกรธจนเป็นยักษ์ก็คือเรย์จิไม่ใช่เหรอ ?

ชู : อ่อ … เรื่องนั้น เป็นเพราะว่าพวกนายทำระเบิดที่ห้องครัวไม่ใช่เหรอ ?

อายาโตะ : ไม่ใช่ระเบิดสักหน่อย ! ก็บอกว่าแค่ทำอาหารเท่านั้นเอง

เรย์จิ : ทำอาหารแล้วห้องครัวมันระเบิดได้ด้วยเหรอครับ ? 

เรย์จิ : ชิ!  เฮ่อ … ช่วยไม่ได้นะครับ ผมจะทำในส่วนของพวกคุณให้เป็นพิเศษเอง

ชู : ทำมาเร็ว ๆ ด้วยนะ

เรย์จิ : อึ๊ก !! 

(อ่า เรย์จิ น่าสงสาร โดนเล่นซะแล้ว 5555)

เรย์จิ : (ทำไมถึงตอกกลับไปไม่ได้กันนะ ?) เอาเถอะ ก็ได้ … แค่ทำให้ก็พอแล้วสินะครับ !

คานาโตะ : ...ตั้งตารออยู่นะครับ 

*เรย์จิคิดในใจ*
เรย์จิ : (นี่คุณยังคิดจะทานอีกเหรอครับ !?)

*และเวลาก็ผ่านไป ------*

เรย์จิ : เท่านี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วใช่มั้ยครับ !?

*เรย์จิกระแทกจานบนโต๊ะ*

ไรโตะ : อะฮึ ๆ รุนแรงจังเลยนะ ไม่เห็นจะต้องโยนจานแรงขนาดนั้นเลยแท้ ๆ

อายาโตะ : โอ๊ะ ! ถึงจะพูดท่านั้นท่านี้ แต่เรย์จิก็เป็นคนดีนี่นะ ทำของโปรดของพวกเรามาให้อย่างดีเลยล่ะ ! ทานล่ะนะครับ !

*อายาโตะลงมือกิน*
อายาโตะ : ง่ำ ๆ ... ว้าว ! ทาโกะยากิ อร่อย ! 

ไรโตะ : มาการอนนี่ก็ด้วย *อ้าม* *งับ* .. อืม … อื้ม เยี่ยมสุด ๆ อย่างกับของที่วางขายตามปารีสเลยนะ อะฮึ 

*เสียงชูกิน*
ชู : อื้ม … สเต็ก อร่อย

เรย์จิ : อึ๊ก !!! (นึกภาพเอฟเฟคในการ์ตูนแบบสายฟ้าฟาดด้านหลังเรย์จิ ฮ่า ๆ)
*เรย์จิคิดในใจ*
เรย์จิ : (ในระหว่างที่ไม่รู้ตัว ได้ทำอาหารจานโปรดของพวกคุณไปงั้นเหรอ ? แบบนี้ก็เท่ากับว่าเป็นแม่ของพวกคุณไปเลยไม่ใช่เหรอ ? หนอย !) *ทุบโต๊ะ*

เรย์จิ : (ตัวเองแค้นตัวเองจริง ๆ)

*เสียงคนเดินมา*

สุบารุ : เฮ้ย ! 

*ทุบโต๊ะ*

เรย์จิ : งะ ! อุ๊ก … (ตกใจหมดเลย) … สุบารุเองเหรอครับ ? 

สุบารุ  : ชิ ! เอะอะโวยวายกันอยู่ได้ หนวกหูชะมัดเลยนะ พวกแกนี่ มันนอนไม่ได้ไม่ใช่รึไงกัน ?

เรย์จิ : อ๋อ เรื่องนั้นโทษทีที่รบกวนนะครับ แต่ว่าไม่เป็นไรแล้วล่ะครับ พอท้องอิ่มแล้วเดี๋ยวคนพวกนี้ก็-

สุบารุ  : เฮ้ย ทำอะไรให้ฉันบ้างสิ

เรย์จิ : หา ? 

สุบารุ  : ต้องขอบใจเจ้าพวกนี้ที่ทำให้ตาสว่างขึ้นมา พอมาที่นี่ก็ดันได้กลิ่นหอมน่ากินลอยฟุ้งไปหมด … แม้แต่ฉันก็พลอยหิวไปด้วยเลย (พูดแบบซึนซะด้วย)

*เสียงอายาโตะกิน*
อายาโตะ : หา ? ถ้ากินของตอนดึก … เดี๋ยวก็อ้วนเอาหรอกนะ

เรย์จิ : คุณไปว่าเขาได้ด้วยเหรอครับ  !?

สุบารุ  : ชิ ! ไปทำมาเร็ว ๆ หน่อยสิ ท้องมันหิวอย่างแรงแล้วนะ

เรย์จิ : ฮึ ! ขอปฏิเสธครับ เมื่อสักครู่ต้องทำโดยที่ไม่มีทางเลือก แต่จะให้ไปเข้าครัวอีกหลาย ๆ ครั้งไม่เอาแล้วครับ 

สุบารุ  : หา !? *ทุบโต๊ะ*

เรย์จิ : ถึงจะทำรุนแรงแค่ไหนก็ไม่เดือดร้อนหรอกครับ ถ้าบอกว่าไม่ก็คือ ----

*โครม !! เพล้ง !!*

เรย์จิ : อุ๊ก !! 

ไรโตะ : อาฮะ … เพดานมีรูสวยงามซะแล้ว ต้องขอบคุณที่ทำให้เห็นพระจันทร์ชัดเจนเลยนะ

*เสียงชูห่มผ้า*
ชู : หนาว … 

สุบารุ  : เฮ้ย … จะทำให้ใช่มะ หา ?

เรย์จิ : เฮ่อ …

*สูบารุก้าวเท้า*
สุบารุ : จะให้พังกำแพงบ้านนี่ให้หมดเลยก็ได้นะ 

อายาโตะ : เฮ้ย ๆ ขอทีน่า เดี๋ยวจากที่เป็นคฤหาสน์ผีสิงก็ได้แย่ลงเพิ่มอีกหรอกน่า 

ชู : เดี๋ยวเจ้าพ่อนั่นจะมาโกรธเอาอีก อย่าพังบ้านน่า น่ารำคาญ

เรย์จิ : ท่านพ่อน่ะเหรอ ? เรื่องนั้น … ชิ ! … ช่วยไม่ได้นะครับ เข้าใจแล้ว จะทำให้แล้วกันครับ

*สูบารุนั่งเก้าอี้*

สุบารุ : ขอเร็ว ๆ ด้วยนะ

เรย์จิ : นั่งล้างท้องรออยู่ตรงนั้นไปเถอะครับ !

ไรโตะ : ฮึ ๆ ถึงจะพูดท่านั้นท่านี้ แต่ก็ดูแลดีนี่น่า 

เรย์จิ : ไรโตะ ! พูดอะไรเหรอครับ ?

ไรโตะ : เปล่า ไม่มีอะไร … ฮึ ๆ

*แล้วเวลาก็ผ่านไป ------*

เรย์จิ : เท่านี้ก็หมดกันสักทีนะ ! 

*เรย์จิกระแทกจานบนโต๊ะ*

สุบารุ  : หา อะไรน่ะการปฏิบัติแบบนั้น ? ว่าแต่ไอ้นี่มันอะไรเนี่ย ?

เรย์จิ : เฮอะ ! เพราะคุณมักจะบอกว่าไม่มีของที่ชอบกินเสมอเลย ก็เลยทำจากของที่เหลือมาไงล่ะครับ 

อายาโตะ : หา ? อะไรเนี่ย ? พาสต้า ?

ไรโตะ : ของชอบของเรย์จิ “คาโบนาร่า” ... สินะ ?

เรย์จิ : ฮึ ! ยังไงซะถึงจะบอกว่าหิวอยู่หรืออะไรก็ตาม แต่ตามปกติแล้วคุณเป็นคนทานน้อย ดังนั้นจึงคิดว่าไม่น่าจะทานเยอะ เพราะงั้นถึงคิดว่าถ้าทำของที่ตัวชอบขึ้นมา ต่อให้เหลือผมก็ทานได้น่าจะดีกว่าน่ะสิครับ

สุบารุ : โธ่เว้ย … ! ดันทำของกินที่ดูเละเทะยังกับโคลนแบบนี้มาซะได้ 

เรย์จิ : งั้นเหรอครับ ? ถ้างั้นไม่ทานก็น่าจะ----

*เสียงสูบารุกิน*

เรย์จิ : กินหรอกเหรอครับ !!
(โอ้ย ฮาเรย์จิ 55555555555555)

*เสียงสุบารุกิน*

คานาโตะ : เป็นกลิ่นที่หอมจังเลยนะครับ
*หยิบส้อม*
คานาโตะ : ขอให้ผมสักหน่อยได้มั้ย ?

สุบารุ : หือ ? ตามสบาย *กินไปพูดไป*

คานาโตะ : ครับ ขอบคุณมากเลยครับ … ขอทานล่ะนะครับ

เรย์จิ : เดี๋ยว !! ส่วนของผม … ช่วยเหลือส่วนของผมไว้ด้วยนะครับ ! 

สุบารุ : หา !? ของแบบนั้นไม่รู้ด้วยหรอกเฟ้ย 

*เสียงสูบารุกิน*

เรย์จิ : เหวอ !! พริบตาเดียวหมดไปตั้งขนาดนั้น ! ทำขึ้นมาอย่างดีเลยนะเพราะงั้นช่วยเหลือเอาไว้หน่อย ----

คานาโตะ : ขอบคุณสำหรับอาหาร 

อายาโตะ : อุหว๋า กินแป๊บเดียวหมดเลย ฮึ ๆ 

*เรย์จิช็อค*
เรย์จิ : อะไรกัน … อาหารสำหรับสองคนจานนั้นแค่แป๊บเดียว …

สุบารุ : เฮ่อ … ก็นะ … รสชาติก็ไม่เลวเลยล่ะ 
(หิวจัดสินะสูบารุ)

เรย์จิ : อึ๊ก ! … ทำไมถึงไม่เหลือส่วนของผมไว้ให้เลยครับ ? ทั้งที่คาโบนาร่าวันนี้ทำออกมาได้ดีสุด ๆ แท้ ๆ *ทุบโต๊ะ*

สุบารุ : ถ้าทำขึ้นมาเพื่อฉัน ฉันจะทำยังไงก็เรื่องของฉันไม่ใช่เรอะ ? อย่าอ้างนู่นอ้างนี่น่า

เรย์จิ : อึ๊ก ! *กำหมัดแน่น*

ไรโตะ : ฮ้าว ท้องก็อิ่มแล้ว ชมวิวจากตรงนี้ก็ดีซะด้วย 

อายาโตะ : เออ ในที่สุดก็พอใจแล้วด้วยล่ะ

ชู : นั่นสินะ 

เรย์จิ : อึ๊ก ! นั่นสิครับ ในที่สุดพวกคุณก็ได้เติมท้องกันจนอิ่มแล้วสินะครับ ? ต้องขอบใจผมคนนี้นะ ก็อย่างที่ว่า รีบ ๆ ---

ไรโตะ : … อื้ม … 

อายาโตะ : อ่า ชักรู้สึกง่วงนอนขึ้นมาซะแล้วสิ ฮ้าวววว 

ชู : ...*หลับแล้ว*

คานาโตะ : ราตรีสวัสดิ์นะคร้าบ …

--แป่ว--

เรย์จิ : เดี๋ยวสิ !! คิดว่านอนอยู่ที่ไหนกันครับเนี่ย ? ผมตั้งใจจะเติมความสดชื่นกับชาอยู่ที่นี่คนเดียวหลังจากนี้นะครับ ! รีบกลับไปห้องตัวเองซะตอนนี้เลย !

*ทุบโต๊ะ* 

อายาโตะ : … อืม … มันน่ารำคาญน่า นอนที่นี่ก็ได้ไม่ใช่เหรอ ? 

ไรโตะฮ้าวววว อยากนอนพักไปในระหว่างที่ชมพระจันทร์อยู่นะ อย่าปลุกอีกสิ … ฮ้าว ง่วงจัง 

เรย์จิ : อย่าหลับไปจริง ๆ สิครับ !!

*คานาโตะสะอื้น*

คานาโตะ : … ทั้งที่ง่วงแท้ ๆ … มันหนวกหูนะครับ … *ฮึก* ...

เรย์จิ : อึ๊ก ! *เดาะลิ้น* … ชิ ! จะให้เรียกพวกคุณว่ายังไงดีเนี่ย !

สุบารุ : ให้ตายสิ … พอกินอิ่มก็นอนหลับเนี่ย … พวกแกเป็นแวมไพร์กันไม่ใช่เหรอ ? นิสัยเสียกันจริงนะ หา ?

เรย์จิ : ให้ตายสิครับ เหมือนกับมนุษย์ที่มีความสุขเวลาเอาของกินเข้าปากแล้วก็นอนหลับไปทั้งแบบนั้นเลย เฮอะ ! ไม่คิดเลยว่าจะมีอยู่ด้วยจริง ๆ เลยนะ

สุบารุ : ถ้าเป็นแวมไพร์ล่ะก็ … อย่างที่คิดเลยว่า ต้อง “สิ่งนั้น” ถึงจะเติมเต็มได้ … เป็นพวกแบบนั้นไม่ใช่เหรอ ?

เรย์จิ : นั่นสินะครับ อย่างที่คิดเลย … *เรย์จิสูดน้ำลาย* … การดูดเลือดจากคอของหญิงสาว หากไม่ได้สิ่งนั้นแล้ว ความหิวของพวกเราและความกระหายคงไม่มีทางถูกเติมเต็มได้

สุบารุ : เฮอะ อ่อนจริง ๆ

เรย์จิ : อะไรกันครับ !?

สูบารุ : การดูดเลือดจากคอของผู้หญิงอะไรนั่น ทำตามแบบแผนที่มีมาเรื่อย น่าเบื่อออก. แล้วรสของเลือดยังข้นเกินไปหน่อยสำหรับฉันคนนี้น่ะนะ

เรย์จิ : นั่นเป็นการดูถูกความเห็นของผมงั้นหรือครับ ?

สุบารุ : แค่จะพูดว่ารสนิยมของคนแก่กับฉันมันต่างกันนิดหน่อยเท่านั้นเอง

เรย์จิ : อะ !! "คนแก่" !? คุณกับผมอายุไม่ได้ห่างกันมากเลยนะครับ !

สุบารุ : ฮ่า ! งั้นรสชาติในการกินก็เป็นแบบคนแก่สินะ ไม่ต่างกับตาแก่ของบ้านนี้เลยสักนิด

สุบารุ : ว่าแล้วเชียวที่รู้มาน่ะ ดูดเลือดจากข้อเท้าของผู้หญิงน่ะมันดีกว่า ถ้าเอาเขี้ยวไปวางบนนั้น จะเห็นร่างกายทุกส่วนของผู้หญิงที่ทำการขัดขืนฉันได้อย่างชัดเจนเลยล่ะ 
(แอร๊ย ทำไมดูลามกงี้ล่ะคะ สูบารุคุง)

ชู : ฮึ … ฮึ ๆ ๆ ๆ

เรย์จิ : ชู !? นี่คุณไม่ได้นอนหลับหรอกเหรอ ?

ชู : เปล่า แต่รสนิยมการดูดเลือดของคุณหนูสูบารุมันออกจะ น่าขำไปหน่อยนะ

สุบารุ : หา !? บอกว่าใครเป็นคุณหนูกันหะ !?

ชู : ถ้าบอกว่าเรย์จิเป็นคนแก่ ถ้างั้นฉันคนนี้ก็ต้องเป็นคนแก่ด้วยใช่มั้ย ? ถ้าเป็นแบบนั้นก็หมายความว่านายก็เป็นแค่ “เด็กอมมือ” หรือก็คือ “ลูกคุณหนู” ไงล่ะ
(ปากคอเราะร้ายจริง ท่านชู สมกะเป็นพี่น้องกะเรย์จิ ฮา)

สุบารุ : ชิ ! *กำหมัดแน่น*

ชู : ถ้าเป็นลูกคุณหนูล่ะก็ พอจะเข้าใจว่าการดูดเลือดจากข้อเท้าเป็นด้านที่เป็นเหมือนเด็ก ๆ 

สุบารุ : ถ้าอย่างนั้น ! นายคิดว่าตรงไหนถึงจะดีล่ะ ?

ชู : ฉันเหรอ ? สำหรับฉัน … นั่นสินะ … ยังไงก็ต้องเป็นหน้าอกอย่างที่คิดจริง ๆ  การตัดเส้นเลือดที่อยู่ใกล้หัวใจที่สุดแล้วดูดเลือดน่ะ เป็นสิ่งที่ชอบที่สุด. เลือดที่ไหลเวียนในเส้นเลือดตรงนั้น มันหวานมากจนเหมือนกับน้ำผึ้งเลยนะ 

สุบารุ : เฮอะ ! กะแล้ว รสนิยมคนแก่ชัด ๆ เลยไม่ใช่เรอะ ?

ชู : พูดว่าเป็นรสชาติของผู้ใหญ่ดีกว่าน่า ... *ชูวางเท้า* ... ไอ้หนู  

เรย์จิ : เอ้า ๆ ตรงนั้นอย่าทะเลาะกันสิครับ ! แล้วอีกอย่าง ช่วยไปคุยเรื่องไร้สาระยืดยาวพรรค์นั้นที่อื่นที่ไม่ใช่ที่นี่เถอะครั---

ไรโตะ :  สำหรับผม … ยังไงก็ …  ชอบดูดเลือดจากต้นขาอย่างที่คิดเลยจริง ๆ ด้วยนะ. พอดูดเลือดจากส่วนที่นุ่มนิ่มเป็นอันดับสองของผู้หญิงสาว ๆ แล้วรู้สึกเหมือนมีไขมันของต้นขามาเกาะอยู่ตามคอเลยล่ะ อะฮึ ๆ

สุบารุ : ชิ ! …. ไรโตะ นายเองก็ตื่นขึ้นมาด้วยงั้นเหรอ ? 

ไรโตะ : ทั้งที่อุตส่าห์หลับไปแล้วแท้ ๆ เพราะพวกนายเริ่มคุยเรื่องน่าสนใจกัน เลยตาสว่างเลย

เรย์จิ : ถ้างั้นก็ช่วยกรุณารีบ ๆ ออกไปจากที่นี่ในตอนนี้ด้วยเลยครับ ! เพราะพวกคุณได้รับห้องอันแสนจะกว้างขวางของแต่ละคนแล้วนี่น่า 

*คานาโตะสะอื้น*

คานาโตะ : หนวกหู … นอนไม่ได้เลย … ฮึก … มันหลับไม่ลงไม่ใช่เหรอครับ !? … ฮึก …. เทดดี้เอง … ฮึก … เทดดี้ของผมบอกว่านอนไม่หลับเลย … ฮึก … แล้วก็โกรธอยู่นะครับ ! 

เรย์จิ : โอ๊ะ ! อยู่ ๆ ก็อย่ามาทำให้ตกใจสิครับ ! 

คานาโตะ :  … ฮึก … ผมน่ะ … ผมน่ะเรื่องพวกนั้น … ฮึก … จะที่คอจะที่ขา … ฮึก ... จะที่อกหรือที่ต้นขา … ฮึก … ของพรรค์ไม่สนใจหรอก ! … ฮึก … ฮ่า … ผมน่ะ … ที่ผมชอบน่ะคือ … นิ้ว … แล้วก็ … ชอบนิ้วก้อยที่ดูเหมือนกับ … จะกัดให้ขาดได้เลยครับ 
(ตื่นขึ้นมาคุยเหมือนกันเรอะ !!)

สุบารุ : นั่นสรุปก็คือไอ้นั่นสินะ … จะได้กินนิ้วก้อยนั่นเข้าไปด้วยเลย … จะพูดแบบนั้นสินะ ?
(ทำไมพูดเหมือนดีใจหรือเข้าใจคานาโตะได้สุบารู้ !!)

คานาโตะ : อะ ฮิ ๆ ๆ ๆ  ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็จะเป็นเพราะแบบนั้น เลยได้อร่อยทั้งสองอย่างเลยครับ

อายาโตะ : เอ๋ !? 

ชู : อึ้ก … เนื้อมนุษย์ฉันขอบาย

ไรโตะ : เหมือนกัน การเอากระดูกออกมันยุ่งยากจะตาย … ถ้าจะกินล่ะก็ ต้องมีการปรุงรสมันด้วยนะ 

เรย์จิ : ครับ ๆ จะกระดูกหรือเนื้อก็ช่างมันเถอะ ก่อนอื่น ไหน ๆ พวกคุณก็ตื่นกันแล้วก็รีบ ๆ ---

อายาโตะ : กะแล้วมันต้องที่ท้ายทอยไม่ใช่เหรอ ? ถ้าจะต้องดูดเลือดน่ะ. แต่ฉันไม่ค่อยชอบกินไขมันเยอะ ๆ เท่าไหร่เลย ถ้าจะให้ทำล่ะก็ชอบที่ลิ้นได้สัมผัสทีละน้อย ๆ มากกว่านะ

เรย์จิ : อะ ! อายาโตะ … กระทั่งคุณด้วยเหรอ ?

สุบารุ : แต่ว่าถ้าเป็นแบบนั้นมันก็ไม่พอไม่ใช่เหรอ ? ไม่รู้สึกว่าได้ดื่มด้วย

อายาโตะ : ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ! ในส่วนนั้นจะได้ไปถึงไหนต่อไหนได้มากมายเลยล่ะ 

เรย์จิ : เอาเถอะ อายาโตะเป็นประเภทชอบเอาเยอะ ๆ มากกว่าคุณภาพสินะครับ ? ก็อย่างที่ว่า ----

ชู : … ให้ตายสิ ทั้งอายาโตะ ทั้งพวกนายนี่ไม่ได้เข้าใจอะไรเลยนะ

เรย์จิ : … ชู … กรุณาอย่าต่อเรื่องเพิ่มสิครับ

คานาโตะ : ฮึก … *สะอื้น* … ที่บอกว่าไม่เข้าใจเนี่ย … เรื่องนั้นมัน … ฮึก … พูดร้ายกาจมากเลยนะครับ … ฮึก … ผมกับ … เทดดี้น่ะ … ฮึก … อุตส่าห์คิดคำตอบขึ้นมาสองคนแท้ ๆ … ฮึก … แล้วมาบอกว่าไม่ใช่เนี่ย … ฮึก !

ไรโตะ : ใช่แล้ว บนหน้าอกเนี่ยมันเป็นเรื่องพื้น ๆ ไม่ต่างกับคอเลยไม่ใช่เหรอ ? เอาเถอะแต่เดิมทีแล้ว คนที่เป็นถึงลูกชายคนโตของบ้านซาคามากิใส่เสื้อผ้าแบบเก่าอย่างชูน่ะ ที่พูดแบบนั้นเป็นเพราะต้องปกป้องขนบธรรมเนียมเอาไว้กันนะ ?

ชู : ไม่ชอบงั้นเหรอ ? คนที่วางท่าทำตัวโรคจิตอย่างนายน่ะ คงไม่เข้าใจถึงสิ่งที่เรียกว่าความชอบในเรื่องพื้น ๆ อย่างล้ำลึกสินะ 

ไรโตะ : “วางท่าเป็นคนโรคจิต” ? … พูดว่า “วางท่า” งั้นเหรอ ?

เรย์จิ : ครับ ๆ วางท่ามันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอครับ ? แล้วถ้าเป็นโรคจิตตัวจริงเสียงจริงมันออกจะน่าขนลุกไปด้วย เพราะงั้นทุกคนช่วยออก---

อายาโตะ : รู้สึกหงุดหงิดชะมัดเลยนะ สายตาที่เหมือนมองจากที่สูงนั่นน่ะ. จะเป็นลูกคนโตหรืออะไรก็ไม่รู้หรอก คนที่เก่งที่สุดใหญ่ที่สุดในบ้านนี้น่ะคือ ฉันคนนี้ต่างหากเล่า !
(ไม่มีใครสนใจเรย์จิเลยสินะ 5555)

ชู : เฮอะ ! ทุเรศน่า นายน่ะ

อายาโตะ : หา ? 

สุบารุ : ทุเรศจริง ๆ นั่นแหละ ใครเป็นคนที่ใหญ่ที่สุด เก่งที่สุดไรนั่น ไร้สาระ !

อายาโตะ : ว่าไงนะ ? จะเอาเหรอแก !?

สุบารุ : ได้เซ่. เพราะท้องมันอิ่ม *เสียงสูบารุลั่นกระดูกนิ้ว* ...ตอนนี้ก็เลยมีพลังเต็มเปี่ยมเลย ถ้าไม่ปล่อยมันออกมาสักหน่อยล่ะก็ ...

เรย์จิ : ให้ตายสิ เลือดร้อนกันซะจริง. ฟังที่คนอื่นเขาพูดกันบ้างรึเปล่าครับ ? ผมอยากให้พวกคุณทั้งหลายออกไปจากที่นี่กันสักทีนะครับ เดี๋ยวนี้เลย !

ไรโตะ : อะฮึ ถ้าจะไล่ออกไปล่ะก็ คงต้องใช้กำลังไล่ออกไปแล้วล่ะมั้ง ?

เรย์จิ : หา !?

คานาโตะ : โหดร้าย … อยากจะไล่ออกไปเนี่ย ... *กอดเทดดี้แน่น* … ทั้งที่บอกว่าพวกผมจะอยู่ที่นี่ก็ได้แท้ ๆ … ฮึก … ในคฤหาสน์หลังนี้ … ไม่มีที่ของผมกับเทดดี้อยู่อีกแล้วเหรอ ?

เรย์จิ : เดี๋ยวก่อน ไม่ได้พูดแบบนั้นเลยไม่ใช่เหรอครับ ? ผมก็แค่อยากจะพักในห้องอย่างสงบ ๆ ---

*โครม* (เสียงอะไรสักอย่างพัง)

เรย์จิ : เฮือก !?

ไรโตะ : อาฮะ เริ่มกันซะแล้วสิ

*อายาโตะสู้กับสุบารุ*

อายาโตะ : เฮอะ ! เจ้าปีศาจจอมทำลายนี่. คิดว่าทำลายของรอบ ๆ ตัวแล้วทางนี้จะกลัวเหรอ ไม่มีทางหรอกน่า !

*เสียงอายาโตะทำอะไรสักอย่างพัง*

สุบารุ : เฮอะ ! ห่วยแตก ! ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนแกก็เป็นราชาตัวเปล่าเท่านั้น ! ไม่มีใครเขาคิดว่าคนอย่างนายน่ะจะเก่งหรือยอดเลยสักนิด 

อายาโตะ : ว่าไงนะ ?

*เสียงอายาโตะทำอะไรสักอย่างพัง*

เรย์จิ : เดี๋ยว ! คฤหาสน์มัน … คฤหาสน์มันจะพังเอานะ ! ชู ! คุณบอกว่าท่านพ่อจะกลับมาไม่ใช่เหรอครับ ?  ช่วยหยุดหน่อยสิครับ ! 

*อายาโตะสู้กับสุบารุ*

ชู : อืม … ยุ่งยากน่ารำคาญ

เรย์จิ : อย่ามารำคาญสิครับ !

ไรโตะ : แต่ … การจะหยุดสองคนนั้นน่ะ … เป็นแบบนี้แล้ว มันออกจะยากไปมั้ง ?

*เสียงอายาโตะสู้กับสุบารุ จนของพัง*

ไรโตะ : ยิ่งกว่านั้นนะ ชู … มาต่อเรื่องที่คุยกันเมื่อกี้นี้เถอะ

ชู : หา ? เรื่องที่คุยกันเมื่อกี้มันเรื่องอะไรล่ะ ? 

ไรโตะ :  เรื่องที่บอกว่าผม … “วางท่าเป็นคนโรคจิต” ไงล่ะ

*เสียงอายาโตะสู้กับสุบารุอยู่*

ไรโตะ : อยากจะให้อธิบายเหตุผลจังเลยนะ 

ชู : อะไรกัน เรื่องนั้นเองหรอกเรอะ. นายเนี่ยเป็นพวกคนเจ้าคิดเจ้าแค้นกว่าที่คาดไว้อีกนะ

ไรโตะ : อะฮึ พูดได้ดีนี่. เอ้า ... *เดินเข้าใกล้ชู* … ช่วยบอก ... เหตุผลหน่อยสิ. ถ้าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ถึงเป็นผมเองก็ไม่ยกโทษให้หรอกนะ 

*เสียงไรโตะใช้พลังสายฟ้าหรืออะไรสักอย่าง*

เรย์จิ : ชิ ! ทางนี้ก็พอทางนี้เลย ดันเริ่มทะเลาะกันซะได้ ! … โธ่เอ้ย พอกันสักทีสิครับ !! 

คานาโตะ : *สะอื้น* … ฮึก ๆ  … ทำไมทุกคนถึง … หนวกหู … หนวกหู … หนวกหู ! … ฮึก … ผมไม่เห็นจะเข้าใจเลย ! 

เรย์จิ : คุณเองก็หนวกหูใช้ได้เลยครับ ! 

คานาโตะ : อะ ! … เพราะอย่างนั้น … เพราะอย่างนั้นถึงได้จะไล่พวกผมออกไปเหมือนอย่างเมื่อกี้สินะครับ ?

เรย์จิ : อะ ! ไล่ออกไปเหรอ … ก็ มันก็จริงที่ว่าอาจจะได้ยินเป็นแบบนั้นแต่---

คานาโตะ : ยอมรับแล้วสินะ ? เมื่อกี้ยอมรับแล้วสินะ ? … ที่พูดว่าจะไล่พวกผมออกไปน่ะ

เรย์จิ : อ๊า โธ่เว้ย ! ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วจะพูดว่าอะไรครับ ? ผมน่ะนะ แค่อยากจะมีความสุขอยู่กับการดื่มชาคนเดียวเท่านั้นเอง !

คานาโตะ : หนวกหู !!

*เสียงอายาโตะสู้กับสุบารุ & ไรโตะสู้กับชู*

คานาโตะ : … ถ้าเป็นแบบนั้น กรุณาเตรียมตัวให้ดีด้วยครับ. เท็ดดี้ หมอนั่นคือตัวต้นเหตุที่พรากสถานที่อยู่ของพวกเราไปล่ะ ไม่มีข้อแก้ตัวเลยเนอะ ?

เรย์จิ : อ๊า ! โธ่เว้ย ! ทำไม ทำไมถึงกลายเป็นแบบนั้นได้กันครับ !

คานาโตะ : เท็ดดี้ !  *ตาของเทดดี้เปล่งประกายขึ้นมา!*GO !

เรย์จิ : อย่าเอาหมีเข้ามาตีผมสิครับ !!

*เรย์จิโดนเท็ดดี้ตีอยู่*

เรย์จิ : อ๊า โธ่เอ้ย ขอทีเถอะครับ ! จะเป็นยังไงก็ไม่สนแล้วนะ !!

*เสียงบ้านพัง*


--- จบจ้า ---


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น